หลังจากที่ iPhone Xs และคณะเปิดตัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน วันนี้ทาง Whatphone ก็ได้นำมาเปรียบเทียบกับอดีตเรือธงอย่าง iPhone X เพื่อให้เห็นชัด ๆ ถึงความต่างในความเหมือนกันครับ
เปรียบเทียบ iPhone Xs กับ iPhone X
ชิปเซ็ตหน่วยประมวลผล
iPhone Xs มาพร้อมกับชิพ A12 Bionic พร้อม Neural Engine (Gen.2) ทำให้ประมวลผลเร็วขึ้น 15% ประหยัดพลังงานขึ้น 50% กราฟิกดีขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับชิพรุ่นก่อน บวกกับ RAM 4 GB ส่วน iPhone X นั้นจะมาพร้อมกับชิพ A11 Bionic พร้อม Neural Engine บวกกับ RAM 3 GB
หน่วยความจำภายใน/สีของตัวเครื่อง
iPhone Xs มาพร้อมกับความจุ 64 GB, 256 GB และ 512 GB รวมถึงมีให้เลือกด้วยกันถึง 3 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์, สีเงิน และ สีทอง(ใหม่) ซึ่งเจ้า iPhone X จะมีเพียงสองความจุ/สีแรกที่กล่าวมาข้างต้นครับ
กล้องถ่ายภาพ/วีดีโอ
แม้กล้องคู่ของ iPhone Xs นั้นจะมีความละเอียดเท่ากับ iPhone X แต่ก็ถูกปรับปรุงมาอย่างดี
ด้วยโหมดภาพถ่ายบุคคลพร้อมโบเก้ที่สมจริงและการควบคุมระยะชัดลึกทำให้ Bokeh หรือปั่นเบลอได้เนียนกว่า พร้อมสภาพแสงที่ดีขึ้น (iPhone X จะมีแค่โหมดภาพถ่ายบุคคลเท่านั้น)
และในส่วนของการถ่ายวิดีโอนั้น iPhone Xs สามารถอัดวิดีโอ 4k ได้สามารถบันทึกเสียงแบบ Stereo Sound รอบทิศทางและให้ช่วงไดนามิกกว้างขึ้นสำหรับวิดีโอที่มีอัตราความเร็วของเฟรมสูงสุด
แบตเตอรี่
iPhone Xs จะมีระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่า iPhone X ถึง 30 นาที โดยทั้งสองรุ่นนั้นรองรับระบบการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi รวมถึงรองรับระบบชาร์จเร็ว 30W ที่สามารถชาร์จตั้งแต่ 0 – 50% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที ผ่านอะแดปเตอร์
อื่นๆ
- iPhone Xs มีน้ำหนัก 177 กรัม ซึ่งหนักกว่า iPhone X ที่หนัก 174 กรัม
- iPhone Xs มีมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP68 (ความลึกไม่เกิน 2 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ในขณะที่ iPhone X มีมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP67 (ความลึกไม่เกิน 1 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที)
- iPhone Xs รองรับ Gigabit LTE ในขนณะที่ iPhone X รองรับแค่ 4G LTE Advanced
- iPhone Xs รองรับ Dual SIMs ผ่าน eSIM + NanoSIM โดยจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาหรือบางประเทศเท่านั้น ในขณะที่ iPhone X ยังรองรับแค่ 1 NanoSIM
สิ่งที่เหมือนกัน
ขนาดตัวเครื่อง : เรียกว่าใส่เคสแล้วแยกไม่ออกเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าสนใจคือสามารถใส่เคสด้วยกันได้ เพราะแอปเปิลผลิตมาในขนาดเดียวกันเลย
จอแสดงผล : ใช้จอ OLED ที่เรียกว่า Super Retina HD ชนิดเดียวกัน ขนาด 5.8 นิ้ว ที่ความละเอียดเท่ากัน (2436 x 1125
Face ID : ระบบสแกนใบหน้าสุดล้ำด้วยกล้อง TrueDepth ที่ทั้งสองรุ่นยังคงใช้เซ็นเซอร์ตัวเดียวกัน รวมถึงการปรับปรุงระบบนี้ใน iOS 12
ความละเอียดของกล้องถ่ายภาพ : กล้องหน้าของทั้งสองรุ่นนั้นมาในความละเอียด 7 ล้านพิกเซล (f/2.2) และกล้องหลังคู่มุมกว้าง (f/1.8) และกล้อง
ตารางเปรียบเทียบสเปคของทั้งสองรุ่น
สำหรับใครที่ยังไม่อยากได้รุ่นใหม่ แนะนำให้รอดูโปรโมชั่นของ iPhone X ในงาน Thailand Mobile Expo 2018 ก่อน คาดว่าจะมีการเคลียร์สต๊อกอย่างรุนแรงจากทั้ง 3 ค่าย และร้านขายมือถือชั้นนำ พร้อมกับโปรโมชั่นแจ่มๆ มากมาย โดยงานจะจัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 27 – 30 กันยายน 2561 นี้
ที่มา : Apple
บทความที่เกี่ยวข้อง
มาแล้ว! iPhone 2018 [Xs, Xs Max และ Xr] สามทหารเสือรุ่นล่าสุดจากแอปเปิล
รีวิวไอโฟน X การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แห่งยุค ด้วยดีไซน์และนวัตกรรมชั้นเยี่ยม