สวัสดีปีใหม่เข้าสู่เดือนที่สองของปีกันแล้ว เดือนนี้เองยังเป็นเดือนที่แบรนด์มือถือจะได้เปิดศึกกันอีกครั้งในงาน Thailand Mobile Expo 2016 (11-14 กุมภาพันธ์ 2559) โดยในงานยังคงมีแบรนด์มือถือต่างๆ รวมไปถึง Gadget และ Content อื่นๆ เข้าไปเปิดบูธกันอย่างคับคั่ง แต่อย่างไรก็ดี ปีนี้ถือเป็นการพิสูจน์ตัวตนของแบรนด์น้องใหม่ทั้งหลายที่เข้ามาบุกตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว
ปี 2558 เป็นปีที่มีแบรนด์มือถือน้องใหม่เข้ามาบุกตลาดมากมายไม่ว่าจะเป็น vivo, wiko, ZTE, Xiaomi, Meizu รวมถึงแบรนด์ที่กลับมาทำตลาดหนักๆ อีกครั้งอย่าง Huawei, OPPO, ASUS และ Lenovo แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจและปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ในภาพตลาดมือถือยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ตลาดที่ซบเซาส่งผลโดยตรงต่อแบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาทำตลาด แต่กลับไม่มียอดขายที่ดีเท่าไรนัก จนถึงขั้นที่แบรนด์เก่าแก่อย่าง LG Mobile เองมีการปิดการวางจำหน่ายชั่วคราว โดยจะกลับมาทำตลาดอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ และยังมีอีกหลายแบรนด์ที่กำลังประสบปัญหาในด้านยอดขายอย่างหนัก
การเข้ามาของแบรนด์จีนทั้งหลายส่งผลกระทบโดยตรงต่อแบรนด์เดิม การมาของ OPPO และ vivo คือแบรนด์จากจีนที่รุกตลาดอย่างหนัก รวมไปถึง Huawei ที่ทำให้เห็นว่า LG, Sony และ HTC คือแบรนด์ที่ได้รับผลกระทบจากการเข้ามาของแบรนด์จีนโดยตรง เป็นปัจจัยที่ทำให้พวกเขาต้องเผชิญปัญหาอย่างหนักช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ASUS เข้ามาเป็นตัวสอดแทรกในตลาดเน้นความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดีและเป็นแบรนด์ตัวอย่างที่น่าจับตามองกับการใช้เงินการทำตลาดน้อย แต่เน้นเรื่องของผลิตภัณฑ์และการออกแบบที่โดดเด่น ทำให้แบรนด์มีที่ยืนในตลาดมือถือได้อย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่แบรนด์อื่นก็มาแนวเดียวกันแต่ยังไม่มีใครโดดเด่นได้เท่า ASUS
Lenovo เป็นแบรนด์แรกที่พยายามเปลี่ยนช่องทางการจำหน่ายสินค้าของตัวเองจากร้านค้าปลีกทั่วไป เป็นร้านค้าออนไลน์ซึ่งประสบความสำเร็จไม่น้อยกับ Lazada นอกจากจะเป็นช่องทางการจำหน่ายใหม่แล้วยังเป็นช่องทางการโฆษณาสินค้าได้อย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น แต่ด้วยข้อจำกัดของตลาดออนไลน์ที่มีผู้ซื้อยังไม่มากเท่าร้านค้าปลีกทั่วไป ทำให้ตลาดนี้ถึงแม้จะใหม่แต่ยังไม่สามารถใช้เป็นช่องทางหลักได้ และใครๆ ก็ทำได้ง่ายจนไม่เป็นที่แปลกใหม่อีกต่อไป
Samsung ยังคงยืนเป็นเบอร์ 1 ในตลาดประเทศไทย การออกสมาร์ทโฟนของพวกเขาแต่ละครั้งยังคงเป็นที่จดจำในสายตาต่อผู้บริโภคมากกว่าแบรนด์อื่นๆ ตรงนี้เองทำให้หาผู้ที่จะแข่งขันแบบสูสีได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะอยู่เฉยๆ ได้ เนื่องจากการแข่งขันที่มากขึ้นจากแบรนด์จีนและเครือข่ายทั้ง 3 ค่ายที่ลงมาทำตลาดมือถือเอง
เครือข่ายมือถือหลักทั้ง 3 ค่าย ลงมาทำมือถือแบรนด์ของตัวเองถึงแม้จะมีรูปแบบที่มาที่ต่างกัน แต่ด้วยวิธีการขายนั้นไม่ต่างกัน การเน้นเอาค่าโทรค่าเน็ตมาใช้งานเป็นส่วนลด ทำให้ยอดขายมือถือของ 3 เครือข่ายนั้นสูงมาก โดยเฉพาะ AIS ที่ประสบความสำเร็จกับ Lava อย่างสูงจนขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดมืดถืออันดับ 2 ได้ในช่วงเวลาไม่ถึงปี ซึ่งการมาของ 3 เครือข่ายนี้เองทำให้ตลาดมือถือช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานั้นเปลี่ยนรูปโฉมไปมาก และยังส่งผลกระทบต่อมือถือแบรนด์อื่นๆ ในราคาระดับล่างอย่างมาก
มือถือจาก 3 เครือข่าย นี้เองทำให้มีแบรนด์มือถืออื่นๆ ต้องหนีออกจากตลาดนี้ขึ้นไปขายเครื่องในระดับราคาที่ไม่แข่งขันกับ 3 เครือข่าย เช่นเดียวกัน ปี 2559 นี้ก็ไม่ใช่งานง่ายแบรนด์มือถือหลายๆ เจ้าจะสามารถยืนอยู่ได้โดยทำตลาดเหมือนกับปีที่ผ่านมา การลงทุนน้อยแต่หวังได้มากคงยากที่จะเกิดได้ ลงทุนมากก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จ
การแข่งขันที่มากขึ้นส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างเราๆ โดยตรง แต่อย่างไรก็ดีหากตลาดขับเคี่ยวกันมากเกินไปก็อาจจะไม่มีที่ยืนให้กับคนที่ตั้งใจจะทำสินค้าและบริการที่ดีเท่าที่ควร การสู้กันด้วยราคาและสเปคเครื่องอาจจะไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่วัดกันจริงๆ ก็คือความขยันและวิธีการ ซึ่งอาจเป็นสิ่งใหม่ที่เข้ามาประยุกต์ทำให้ตลาดมือถือเปลี่ยนแปลงกลับมาคึกคักอีกครั้ง