ศึกระดับราคาต่ำหมื่นต้องสะเทือนเมื่อเหล่าสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังต่างก็ขนตัวเด็ด สเปกแรง ราคาคุ้มค่าออกมาวางตลาดในประเทศไทยกันแล้ว วันนี้ทาง WhatPhone ก็ขอนำสมาร์ทโฟน 3 รุ่นดังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้อย่าง Xiaomi Mi 8 Lite, Huawei Y9 2019 และ Realme 2 Pro มาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัด ๆ ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี?
ดีไซน์การออกแบบ
Xiaomi Mi 8 Lite : รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ LCD ขนาด 6.26 นิ้วความละเอียด FHD+ มีติ่งหน้าจอแบบเล็ก รวมถึงมีให้เลือกถึง 2 สี ทั้งสี Aurora Blue แบบไล่เฉดม่วงฟ้า และสีดำ Midnight Black และด้านหลังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีช่องเสียบรูหูฟังขนาด 3.5 mm แล้วแต่ก็แทนด้วยช่องเสียบชาร์จ/ถ่ายโอนข้อมูลแบบ USB-C มาแทน (มีตัวแปลงเป็นรูฟังให้ในกล่อง)
Huawei Y9 2019 : มาในดีไซน์จอ LCD แบบติ่งขนาดใหญ่ถึง 6.5 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รวมถึงดีไซน์ที่มีลักษณ์คล้ายกระจกหรูหราสะท้อนแสงได้ ดูดีไปอีกแบบ มีให้เลือก 2 เฉดสีคือ สีดำและสีเขียว และยังมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย พอร์ตชาร์จไฟก็ยังคงเป็นแบบ MicroUSB อยู่ครับ
Realme 2 Pro : สมาร์ทโฟนน้องใหม่มาแรงที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในบ้านเราได้ไม่กี่วันนี้ ก็จัดเต็มด้วยหน้าจอ LCD แบบติ่งหยดน้ำขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ในบอดี้ที่ไม่ใหญ่มากสุดขอบเลยกว่าได้ ดีไซน์ทีผ่านการเคลือบสีมาถึง 15 ชั้นทำให้สีด้านหลังตัวเครื่องนั้นเงางามพอสมควร มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง รวมถึงยังมากับ 2 สี คือสีฟ้า และสีดำ ครับ
ชิปเซ็ตหน่วยประมวลผล
Xiaomi Mi 8 Lite : ใช้หน่วยประมวลผลสุดเร็วแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 660 AIE ที่ความเร็ว 2.2 GHZ เต็มสปีด พร้อมแรม 4/6 GB และมีความจุ 64/128 GB
Realme 2 Pro : ค่อนข้างน่าสนใจเพราะเจ้าเรียลมีจะใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 AIE ที่ความเร็ว 1.8 GHz (ลดสปีดลงมาจากปกติเล็กน้อย) พร้อมกับแรม 4/8 GB และความจุ 64/128 GB
Huawei Y9 2019 : ฉีกออกมาด้วยหน่วยประมวลผล Kirin 710 ที่มีประสิทธิภาพการทำงานเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด เร็วแรงพอสมควร แถมยังมีระบบ GPU turbo ลิขสิทธิ์เฉพาะจากหัวเว่ยเพื่อให้ประสบการณ์การเล่นเกมส์ขั้นสุด รวมถึงยังมีแรม 4 GB และมีความจุ 64 GB
กล้องถ่ายภาพ
Xiaomi Mi 8 Lite
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 24 MP ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX576 + f/2.2 รองรับ AI ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอ (AI Beauty ขณะถ่ายวีดีโอ หน้าสวยสดอย่างอัตโนมัติ)
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP + 5 MP (f/1.9) รองรับระบบ AI ไว้แยกฉากหลังพร้อมปรับแต่งภาพให้อัตโนมัติตามฉากนั้น ๆ มีเทคโนโลยี Dual Pixel และใช้เซ็นเซอร์ใหญ่ 1.4 um
Huawei Y9 2019
- กล้องคู่หน้า 16 + 2 ล้านพิกเซล (color), f/2.0 + f/2.4 aperture ถ่ายรูปสวยได้แม้ในที่แสงน้อยด้วยเทคโนโลยี AI ที่แสดงผลแบบ 3 มิติ สำหรับภาพถ่ายบุคคลจะเพิ่มแสงที่ให้ความมีนุ่มนวลมากขึ้น แสงเวที สีสันของผีเสื้อและหมวดหมู่อื่นๆ จะสวยขึ้นด้วยอัลกอริทึม เพื่อสร้างภาพให้มีคุณภาพสูงระดับสตูดิโอถ่ายภาพ
- กล้องคู่หลัง: 13 + 2 ล้านพิกเซล (color), f/1.8 + f/2.4 aperture เพิ่มแสงได้มากถึง 50% สำหรับภาพที่มีแสงน้อย ทำงานควบคู่กับโหมดกลางคืนกับ AI ที่สามารถเปิดรับแสงได้นานถึง 6 วินาที เพื่อเก็บรายละเอียดภาพได้อย่างคมชัดแม้ในที่แสงน้อย
- รองรับเทคโนโลยี AI ที่สามารถปรับแต่งฉากหลังได้อย่างชาญฉลาดมากกว่า 500 ฉาก โดยมี 22 หมวดหมู่เลือกอย่างมีประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ เพื่อให้รูปภาพของคุณดูดีที่สุด
Realme 2 Pro
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียดกล้อง 16 ล้านพิกเซล มีระบบ AI Beauty ที่ปรับความเนียนสวยได้ถึง 6 ระดับหรือใช้ AI ประมวลผลให้สวยที่สุดตามสภาพแสงก็ได้ เซลฟี่แบบฉากหลังเบลอสวยด้วย Depth Effect และอย่าลืมเมนู Sticker ที่มีสติกเกอร์ให้เล่นมากมายแบบไม่ซ้ำใคร
- กล้องคู่ของรุ่นนี้มีความละเอียดที่ 16+2 ล้านพิกเซล ซูมภาพแบบออพติคอลได้ 2 เท่า มีโหมดถ่ายภาพที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น Expert ปรับแต่งภาพแบบฉบับมือโปรทั้งค่าไวท์บาลานซ์ ไอเอสโอ ความเร็วชัตเตอร์และอื่นๆ, Portrait ที่มีโหมดแสงและปรับฉากหลังเบลอให้เลือกทั้ง Natural Light, Film Light, Mono-tone Light เซลฟี่แบบขาวดำ, Rim Light และ Bi-Color Light หรือจะใส่สติกเกอร์ฮาๆ แบบในกล้องหน้าก็สามารถเลือกได้ในกล้องหลัง
ตารางเปรียบเทียบสเปก
สรุปซื้อรุ่นไหนดี? (ความเห็นจากทีมงาน WhatPhone)
เลือก Xiaomi Mi 8 Lite : ถ้าต้องการสมาร์ทโฟนเซลฟี่แบบจัดเต็มรองรับ AI ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สเปกแรงสุด ดีไซน์พรีเมี่ยมพร้อมสีสันสดใส ดีไซน์ก็ถือว่าออกแบบมาได้บางเบาใช้ได้ รวมถึงยังเปลี่ยนมาใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C ตามสมัยนิยมแล้วด้วย แต่ก็น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีช่องเสียบรูหูฟังขนาด 3.5 mm แล้วครับ
เลือก Huawei Y9 2019 : ถ้าคุณเป็นคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนที่มีเคส อุปกรณ์เสริม มากมาย มีให้ลองเล่นตามหน้าร้านก่อนซื้อ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของแบตเตอรี่ที่อึด กล้องหน้าคู่ หลังคู่รองรับ AI เล่นเกมส์ดีมี GPU Turbo
เลือก Realme 2 Pro : ถ้าต้องการความคุ้มค่า คุ้มราคาที่สุดในช่วงระดับราคานี้ (มีโปรโมชั่นลดราคาอยู่เรื่อย ๆ) จอใหญ่ภาพสวย แถมยังมีกล้องถ่ายภาพได้ดีที่สุดในเรทราคานี้เลยก็ว่าได้ แต่น่าเสียดายที่ตัวเครื่องและอุปกรณ์เสริม เคส ฟิล์มอาจจะหาซื้อยาก ต้องซื้อผ่านทางออนไลน์เท่านั้น
ก็จบกันไปแล้วสำหรับบทความเปรียบเทียบสเปกของสมาร์ทโฟนทั้งสามรุ่นที่เรานำมาฝากกันครับ ก็หวังว่าคงจะถูกใจใครที่กำลังจะเลือกซื้อทั้งสามรุ่นอยู่ไม่มากก็น้อย และสำหรับใครที่อยากติดตามบทความดี ๆ แบบนี้ หรือข่าวสารใหม่ ๆ ก็สามารถกดไลค์เพจ WhatPhone.net หรือเข้ามาพูดคุยกันได้ที่ WhatPhone – Commu ได้เลยครับ