จากเดิมชุดหูฟัง True Wireless ที่มีราคาค่อนข้างแพงเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ราคาค่อนข้างเกินเอื้อม มาจนถึงตอนนี้เริ่มมีราคาถูกลงและยังพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย มาถึงวันนี้ทีมงาน What Phone จะมา รีวิว Galaxy Buds ชุดหูฟัง True Wireless รุ่นใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวพร้อมกับ Samsung Galaxy S10+
แกะกล่อง รีวิว Galaxy Buds ขนาดเล็กลง ดีไซน์เฉียบกว่าเดิม
จาก Gear Icon X 2018 ปีที่แล้ว มาถึง Galaxy Buds 2019 ปีนี้หากดูจากดีไซน์แล้วค่อนข้างคล้ายกันมาก แต่พิจารณาดีๆ แล้ว Galaxy Buds ดูโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม โดยเฉพาะบริเวณปุ่มสัมผัสที่ใช้วัสดุเงา ทำให้ดูแปลกตากว่าเดิม
กล่องของชุดหูฟังมีขนาดเล็กลงกว่า Gear Icon X มากพอสมควร แต่ยังคงมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ครบเหมือนเดิม สำหรับชุดหูฟังที่ได้มาเป็นชุดสีขาว เมื่อเปิดกล่องออกมาจะพบกับเคสเก็บหูฟังและชาร์จแบตเตอรี่ไปในตัว ส่วนกล่องกระดาษเล็กๆ เป็นกล่องเก็บสายชาร์จแบบ USB-C และจุกยางอีก 2 ขนาดสำหรับปรับเปลี่ยนให้พอดีกับหูของแต่ละคน สำหรับคู่มือการใช้งานจะเป็นแผ่นพับมาให้
สำหรับ Charging case หรือกล่องเก็บหูฟังและชาร์จในตัวจะมีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ที่ด้านหน้า 3 สีคือสีแดงเมื่อแบตเหลือ 30% สีเหลืองเมื่อแบตเหลือ 30%-60% และสีเขียวเมื่อแบตเต็ม หรือมากกว่า 60% เมื่อเปิด Charging case ออกมาจะพบกับชุดหูฟังที่อยู่ในช่องชาร์จ มีไฟบอกสถานะการชาร์จหูฟังเป็นสีแดงสีเดียว
ที่ตัวหูฟังมีตัวอักษรกำกับ L และ R ที่แต่ละข้าง แต่ละข้างจะมีหน้าสัมผัสชาร์จแบตสีทอง 2 จุด และ Touch-sensitive sensor ตรวจจับการใส่หูฟัง ส่วนด้านข้างหูฟังเป็นปุ่มแตะสัมผัสเพื่อหยุด หรือเล่นเพลง
เชื่อมต่อ Bluetooth ใช้งานร่วมกับแอพฯ Galaxy Wearable
สำหรับการเชื่อมต่อนั้นทำได้อย่างง่ายดาย ในกรณีที่ใช้สมาร์ทโฟน Samsung เพียงแค่เปิดหน้าจอมือถือค้างเอาไว้แล้วหยิบหูฟังออกมา หน้าจอจะขึ้นเตือนให้กดเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ต้องเข้าเมนู Bluetooth ให้วุ่นวาย จากนั้นจะมีการอัพเดทเล็กน้อยในครั้งแรก จากนั้นก็สามารถฟังเพลงได้ทันที
แอพฯ Galaxy Wearable เป็นแอพฯ ที่จะบอกสถานะ และการตั้งค่าต่างๆ ของชุดหูฟังทั้งสองข้าง ไม่ว่าจะเป็นระดับแบตเตอรี่
- การปรับแต่งโทนเสียง มีให้เลือกปรับ 5 แบบคือ Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost
- ตั้งค่าการแจ้งเตือน
- ตั้งค่า Touch pad หรือปุ่มสัมผัสข้างหูฟังทั้งสองข้าง สามารถแตะสั่งงานได้ 3 แบบคือ แตะ 1 ครั้งเพื่อหยุด/เล่นเพลง, แตะ 2 ครั้งเพื่อข้ามไปเพลงถัดไป, แตะ 3 ครั้งเพื่อย้อนกลับเพลงก่อนหน้า และหากแตะค้างไว้เป็นการเรียกใช้งาน Bixby หรือคำสั่งเสียง
- Ambient sound หรือการเปิดรับเสียงรอบข้าง เพื่อให้การเดินถนน หรือหากมีคนเรียกก็จะได้ยินเสียงเข้ามาในหูฟังด้วย
- Find my Earbuds สำหรับค้นหาหูฟัง เมื่อแตะที่เมนูนี้ หากชุดหูฟังอยู่ในรัศมีการเชื่อมต่อก็จะยินเสียงดังเบาๆ ออกมาจาก Galaxy Buds
แตะสั่งงานได้จาก Touchpad ที่หูฟัง
ด้านข้างของหูฟังจะมี Touch pad หรือปุ่มสัมผัสข้างหูฟังทั้งสองข้าง สามารถแตะสั่งงานได้ 3 แบบคือ
- แตะ 1 ครั้งเพื่อหยุด/เล่นเพลง หรือรับสาย/วางสาย
- แตะ 2 ครั้งเพื่อข้ามไปเพลงถัดไป หรือรับสาย/วางสาย
- แตะ 3 ครั้งเพื่อย้อนกลับเพลงก่อนหน้า และหากแตะค้างไว้เป็นการเรียกใช้งาน Bixby หรือปฏิเสธสายเรียกเข้า
- แตะ 2 ข้างพร้อมกันเพื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น (Paring mode)
ใช้ชีวิตแบบไร้สายได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Charging case ของรุ่นนี้สามารถชาร์จไร้สายร่วมกับแท่นชาร์จ หรือชาร์จไร้สายจาก Samsung Galaxy S10+ ได้ เมื่อวางลงบนแท่นชาร์จ ด้านหน้าจะมีไฟสีแดงบอกสถานะการชาร์จแบตเตอรี่บ่งบอก จึงทำให้ Galaxy Buds เป็นชุดหูฟัง True Wireless ที่ปราศจากการสายสัญญาณอย่างแท้จริง และหากไม่สะดวกที่จะชาร์จไร้สายก็ยังมีพอร์ต USB-C มาให้เสียบเช่นเดิม ส่วนระยะเวลาในการฟังเพลงเมื่อชาร์จเต็มตามสเป็คแล้วทำได้นานถึง 6 ชั่วโมง นานกว่า Gear Icon X รุ่นก่อนที่ทำได้ 5 ชั่วโมง และหากแบตหมดแล้วนำไปชาร์จกับ Charging case ก็จะฟังเพิ่มได้อีกนานประมาณ 7 ชั่วโมง
ตัดฟังก์ชั่นบางอย่างที่ไม่จำเป็นจาก Gear Icon X เพื่อทำให้ราคาถูกลง
จาก Gear Icon X ที่จำหน่ายในราคา 5,900 บาท แต่สำหรับ Galaxy Buds จำหน่ายเพียง 4,990 บาท เพราะตัดฟังก์ชั่นบางอย่างที่ไม่จำเป็นออก เช่น
- Fitness tracker ติดตามการออกกำลังกายโดยอัตโนมัติ
- หน่วยความจำภายในสำหรับเล่นเพลงโดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน (Gear Icon X หน่วยความจำภายใน 4 GB)
- ฟีเจอร์การปรับระดับเสียงโดยแตะที่ Touch pad แล้วลากขึ้นหรือลง
จะเห็นว่าทั้งหมดเป็นฟังก์ชั่นที่ใช้สำหรับการออกกำลังกายทั้งหมด ซึ่งสำหรับผู้ใช้บางคนก็ถือว่าไม่จำเป็น และยังทำให้มีราคาถูกลงถึง 1 พันบาทเลยทีเดียว แถมรุ่นใหม่นี้ยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายด้วย
บทสรุปการใช้งาน
ตัวผู้เขียนเองใช้ Gear Icon X เป็นหูฟังประจำอยู่แล้ว เมื่อได้ รีวิว Galaxy Buds มาใช้งานพบว่าการใช้งานแทบจะไม่ต่างกันเลย ทั้งโทนเสียงที่กำลังดีทั้งเสียงแหลมเสียงเบส แต่ Gear Icon X เสียงเบสจะดีกว่าเล็กน้อย และการสวมใส่ดูเหมือนว่า Galaxy Buds จะไม่อึดอัดเท่า Gear Icon X ด้วย จากการใช้งานพบกว่ารุ่นใหม่นี้ยังรู้สึกว่ารับสัญญาณได้ดีกว่า ไม่กระตุกเท่ากับรุ่นก่อน แต่เสียดายที่ตัดฟีเจอร์ปรับระดับเสียงออกจาก Gear Icon X ต้องไปปรับระดับเสียงที่มือถือแทน โดยรวมแล้วถือว่าเป็นชุดหูฟังที่ถูกใจทั้งราคา และโทนเสียง เอาเป็นว่าถ้าไม่ชอบหูฟังดีไซน์ประหลาดๆ เราขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมจากเวบไซต์ของ Samsung Galaxy Buds