Garmin ผู้นำอุปกรณ์ GPS ได้ทำการต่อยอดนาฬิกามัลติสปอร์ตที่มีดีไซน์สุดสวยงาม Garmin Fenix 3 HR ที่เพิ่มระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate Monitor) แบบแสงที่จะเป็นไฟ LED ใต้ตัวเรือน แทนการใช้เป็นสายรัดหน้าอกแบบเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ Garmin ได้นำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้กับอุปกรณ์ของตนเองหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกา GPS สำหรับวิ่ง Forerunner 225, 235 และสายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ VivoSmart HR
แกะกล่อง
ตัวกล่องยังคงเป็นกล่องทรงสูง ภายนอกมีบอกคุณสมบัติคร่าวๆ ของรุ่นนี้ไว้ ต้องดันกล่องด้านในออกไปทางด้านข้าง ถึงจะสามารถเปิดดูอุปกรณ์ภายในกล่องได้
เมื่อเปิดออกมาจะพบกับนาฬิกา ด้านล่างจะเป็นกล่องสำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ จะต้องทำการดึงตัวกล่องขึ้นมาเพื่อแกะกล่องเอาอุปกรณ์ออกมา
ภายในกล่องมีนาฬิกาพร้อมสาย, สายชาร์จ, อแดปเตอร์, คู่มือการใช้งานและใบรับประกัน
ดีไซน์
Garmin Fenix 3 HR มาพร้อมขอบสแตนเลสสีเทาดำและมีหน้าตาเหมือนกับ Garmin Fenix 3 ทุกประการที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตคลาสสิค ดุดันด้วยการโชว์ตัวน็อตให้เห็นกันแบบชัดเจน ดูมาดเท่และแข็งแรง หน้าจอสี มองเห็นชัดเจนแม้อยู่ท่ามกลางแสงแดดจ้า สำหรับกระจกก็จะเป็นแซฟไฟร์มาเลย ไม่สามารถเลือกได้แบบรุ่นก่อนแล้ว ตัวเลขและขีดสีที่อยู่รอบๆ หน้าปัดจะเป็นสีขาวเหมือนกับรุ่นแซฟไฟร์ ซึ่งหากเป็น Fenix 3 จะเป็นสีแดง
ส่วนสายรัดเป็นซิลิโคนสีดำ ไม่มีแถมสายสแตนเลสมาให้ ตัวเข็มขัดยังคงมีตัวล็อคสายด้านในแบบทุกรุ่น เพื่อเพิ่มความกระชับในการสวมใส่ ไม่หลุดง่าย ในขณะออกกำลังกาย
ใต้ตัวเรือนจะเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจกับข้อมือ (Elevate heart rate) นูนออกมา ที่ทำให้ไม่ต้องสวมใส่สายคาดอกให้วุ่นวายก่อนออกกำลังกาย แต่ถ้าจะใส่ลงว่ายน้ำไฟ LED นี้จะไม่สามารถทำงานได้ ต้องซื้อสายคาดอกแบบกันน้ำมาใช้งานเพิ่มเติม
สายชาร์จ ยังคงเป็นแบบหนีบแบบเดิม โดยมีพอร์ตสำหรับชาร์จอยู่ใต้ตัวเรือน ตำแหน่งเดียวกันกับ Garmin Fenix 3 สามารถใช้สายชาร์จร่วมกันได้ อแดปเตอร์สำหรับชาร์จก็มีมาให้ ซึ่งจะชาร์จกับคอมพิวเตอร์หรือพาวเวอร์แบงค์ผ่านพอร์ต USB ก็ได้
Garmin Fenix 3 HR สามารถสวมใส่ไปได้ทุกงาน เหมาะมากสำหรับหนุ่มๆ มาดแมนผู้รักการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะใส่ไปทำงานก็ดูดีหรือจะใส่ออกกำลังกายก็ดูเท่
Garmin Fenix 3 HR
Garmin Fenix 3 HR ไม่มีหน้าจอสัมผัส ดังนั้นการใช้งานต่างๆ จะต้องสั่งงานผ่านปุ่มกดรอบตัวเรือน ซึ่งหากเป็นผู้ใช้งานจาก Fenix 3 ก็จะคุ้นเคยกันดี แต่ถ้าเป็นผู้ที่ขยับมาใช้งานจาก Forerunner 225, 235 หรือรุ่นอื่นๆ ก็จะต้องทำการศึกษาปุ่มต่างๆ ใหม่อย่างพอสมควร แค่การเข้าเมนู Settings ก็แตกต่างกันแล้ว แต่ไม่ยากเกินที่จะทำความเข้าใจ เพราะแต่ละปุ่มมีการทำสัญลักษณ์ไว้ที่ตัวปุ่ม และมีคำอธิบายอยู่ที่หน้าปัดตรงกับตำแหน่งของปุ่มด้วย กดเล่นดูสักชั่วโมงก็ทำความเข้าใจได้แล้ว
สำหรับการมาของรุ่นนี้ จุดเด่นคงหนีไม่พ้นการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบตลอดวัน เพราะมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจแบบไฟ LED อยู่ใต้ตัวเรือน หากทำงานก็จะมีแสงสีเขียวออกมา ถ้าแสงไฟไม่ขึ้น นั่นหมายความเราเซ็นเซอร์นี้ไม่ทำงาน ซึ่งเราสามารถเลือกเปิดหรือปิดการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบตลอดวันได้ พร้อมแสดงโซนอัตราการเต้นของหัวใจเป็นกราฟสี เข้าใจง่าย เหมือนกับ Forerunner 235 ซึ่งเป็นการแสดงอัตราการเต้นของหัวใจ 4 ชั่วโมงล่าสุด และเมื่อกดเข้าไปอีกครั้ง จะเป็นการดูอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยในแต่ละวัน โดยจะแสดง 7 วันล่าสุด พร้อมอัตราการเต้นเฉลี่ยของทั้ง 7 วันด้วย
สามารถทำงานเป็น Activity Tracking นับจำนวนก้าว, นับแคลอรี่ที่จะเผาผลาญ, วัดคุณภาพการนอนหลับในแต่ละวัน และมีการแจ้งเตือนเมื่ออยู่นิ่งอยู่กับที่นานเกินไปอีกด้วย หากไม่มีการขยับ ก็จะมีแถบสีแดงขึ้นให้เห็นว่าคุณไม่ได้ขยับเลย แต่เมื่อมีการลุกเดินอย่างต่อเนื่องสักระยะนึง แถบสีแดงนั้นก็จะหายไปจากหน้านับก้าว
Garmin Fenix 3 HR รองรับการบันทึกข้อมูลกิจกรรมการออกกำลังกาย วิ่ง (ในร่มและกลางแจ้ง), ปั่นจักรยาน (ในร่มและกลางแจ้ง), ว่ายน้ำ (ในสระและ Open water), การเล่นสกี, Paddle sport, วิ่งเทรล, ปีนเขา และการฝึกฝนต่างๆ และมีระบบ Auto switch เปลี่ยนรูปแบบการบันทึกการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติ สำหรับการแข่งไตรกีฬา
สำหรับการออกกำลังกายด้วยการจะสามารถตั้งค่าการแสดงผลข้อมูลบนหน้าจอได้สูงสุด 4 หน้าจอ และ 4 ช่อง ในขณะออกกำลังกายสามารถเลื่อนหน้าจอเพื่อดูข้อมูลต่างๆ ตามที่เราตั้งค่าไว้ได้ และมีปุ่มเพื่อกดนับรอบได้ด้วยตนเอง
หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว จะมีการแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ เช่น ระยะทาง, เวลา, ความเร็ว, แคลอรี่ที่เผาผลาญ, อัตราการเต้นของหัวใจ, Cadence จำนวนก้าวต่อนาที, ช่วงความยาวในการก้าวเท้า และถ้าหากเป็นการออกกำลังกายกลางแจ้ง (ที่มีการจับ GPS) จะสามารถดูเส้นทางการออกกำลังกายของเราได้
ตัวเรือนของ Garmin Fenix 3 HR ถูกออกแบบมากันน้ำได้ลึก 100 เมตร สามารถใส่ลงว่ายน้ำได้ เพราะมีโหมดสำหรับว่ายน้ำในสระ, แม่น้ำ, ทะเล มาให้ใช้งาน แต่จะไม่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ จะต้องซื้อสายคาดอกเพิ่ม เพื่อจะวัดอัตราการเต้นของหัวใจในน้ำได้
Garmin Fenix 3 HR ยังมีโหมด Recovery Advisor แนะนำเวลาการพักหลังจากออกกำลังกายให้ด้วย เพื่อเป็นการพักผ่อนร่างกาย ไม่ฝืนออกกำลังกายจนหนักเกินไป (Over Training), VO2 Max (ความสามารถในการใช้ออกซิเจนของร่างกาย) เพื่อดูว่าร่างกายเราสามารถใช้ได้ดีแค่ไหน, Race Predictor การคาดคะเนเวลาในการวิ่งหรือปั่นระยะต่างๆ และ Lactate Threshold (ความสามารถในการเปลี่ยนกรดแลคติคมาเป็นพลังงาน) เพื่อดูว่าร่างกายเราสามารถเปลี่ยนกรดมาเป็นพลังงานได้ดีแค่ไหน เพราะกรดนี้จะทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้า หากไม่ถูกใช้จนหมด ดังนั้นหากเรารู้ค่าต่างๆ แล้ว ก็สามารถกำหนดตารางการฝึกและกำหนดวันพักผ่อนได้เลย
ตัวนาฬิกายังมีการบันทึกสถิติในการออกกำลังกาย และเมื่อใดที่เราทำลายสถิติเดิมของเราได้ ก็จะมีการแสดงผลมาให้ดูหลังจากออกกำลังกายเสร็จ และเราสามารถดูภายหลังได้เช่นกัน
เมื่อมีการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนยังทำหน้าที่เป็น Smart watch ไปในตัว โดยจะสามารถรับการแจ้งเตือน Smart Notifications ได้ สำหรับรุ่นนี้รองรับการแจ้งเตือนเป็นภาษาไทยแล้ว และดูสภาพอากาศ, นัดหมายจากปฏิทิน พร้อมกับควบคุมการเล่นเพลงบนสมาร์ทโฟนผ่าน Garmin Fenix 3 HR ได้
ข้อมูลการออกกำลังกายทั้งหมดจะสามารถซิงค์มายังสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น Garmin Connect เพื่อดูรายละเอียดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รองรับการสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android, iOS และ Windows Phone ทั้งนี้ Garmin Fenix 3 HR สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อทำการซิงค์ข้อมูลไปยังเว็บไซต์ได้โดยตรง ไม่ต้องซิงค์ผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้ ในตัวแอพพลิเคชั่นสามารถปรับแต่งหน้าปัด (Watch Face), แอพฯ ในนาฬิกา, วิดเจ็ด เพิ่มเติมได้ หรือจะผ่าน Garmin Express บนคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อนาฬิกากับสายชาร์จแบบหนีบก็ได้เช่นกัน
Garmin Fenix 3 HR เหมาะกับใคร?
นาฬิกามัลติสปอร์ท GPS รุ่นนี้มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากรองรับการออกกำลังกายที่หลากหลาย ใช้วัสดุที่คุณภาพและแข็งแรง มีขนาดค่อนข้างใหญ่ อีกทั้งยังมีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจจากข้อมือติดมาด้วย ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน ดังนั้นคนที่ใส่อาจจะต้องมีข้อมือที่ใหญ่หน่อย และเน้นการออกกำลังกายหรือมีการแข่งขันที่ค่อนข้างจริงจัง ถ้าใครที่มีข้อมือเล็ก ให้ลองใส่และลองวิ่งดูว่านาฬิกาจะกระแทกมือหรือไม่? มีบางท่านที่ลองถึงกับบอกว่าเจ็บเพราะ Garmin Fenix 3 HR มีน้ำหนักค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับนาฬิกา GPS รุ่นอื่นๆ ถ้าใครที่เน้นวิ่งและปั่นจักรยานแนะนำให้ลองมองเป็น Garmin Forerunner 235 ดู แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบดีไซน์แบบผู้เขียนเป็นพิเศษ ก็จัดมาใช้งานได้เลย ด้วยดีไซน์ที่ดูเท่และมาดแมนนี้ ทำให้ใส่กับชุดไหนก็ดูดีได้ตลอด
คุณสมบัติ
- หน้าปัด 2 นิ้ว ความละเอียด 218 x 218 พิกเซล กระจกแซฟไฟร์
- ขนาดตัวเรือน 0 x 2.0 x 0.6 นิ้ว
- น้ำหนัก 1 กรัม
- แบตเตอรี่ 300 mAh ชาร์จซ้ำได้
- อายุการใช้งาน 2 สัปดาห์ (โหมด Smartwatch พร้อม 24/7 HR monitoring) 40 ชั่วโมงสำหรับการออกกำลังกาย และ 16 ชั่วโมง สำหรับ GPS โหมด
- กันน้ำได้ลึก 100 เมตร
- รองรับการบันทึกข้อมูลกิจกรรมการออกกำลังกาย วิ่ง (ในร่มและกลางแจ้ง), ปั่นจักรยาน (ในร่มและกลางแจ้ง), ว่ายน้ำ (ในสระและ Open water), การเล่นสกี, Paddle sport, วิ่งเทรล, ปีนเขา และการฝึกฝนต่างๆ และมีระบบ Auto switch เปลี่ยนรูปแบบการบันทึกการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติ สำหรับการแข่งไตรกีฬา
- มี GPS และ GLONASS
- เซ็นเซอร์ Barometer, Altimeter และ เข็มทิศแบบ 3 แกน
- รองรับการแจ้งเตือนภาษาไทย