Garmin ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอุปกรณ์วิ่งและจักรยานได้ฤกษ์ออกรุ่นใหม่ Garmin Forerunner 235 นาฬิกา GPS สำหรับนักวิ่งพร้อมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ Optical ต่อยอดรุ่นเก่าอย่าง Garmin Forerunner 225 โดยรุ่นนี้ยังเปิดตัวพร้อมๆ กับ Garmin Forerunner 230 และ Forerunner 630 ไปเมื่อปลายปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา
สำหรับ Garmin Forerunner 235 จะเป็นนาฬิกา GPS ในระดับกลางของซีรี่ย์นี้ ซึ่งจะมีจุดเด่นที่เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจแบบ Optical และฟีเจอร์สำหรับการฝึกซ้อมวิ่งที่ครบครันกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการฝึกแบบ Interval, Pace alert, Virtual pacer, V02 max estimate, Recovery advisor, Race predictor, Accelerometer (ที่สามารถคำนวณระยะทางจากการฝึกวิ่งในร่มโดยไม่ต้องใช้ Foot pod เป็นอุปกรณ์เสริม) และการเก็บบันทึกสถิติ สำหรับนาฬิกา GPS พร้อมเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจรุ่นนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ไปดูกันเลย
แกะกล่อง
เรามาเริ่มต้นจากการแกะกล่องกันเลย สำหรับตัวกล่องด้านหน้าจะเป็นพลาสติกใส มองเห็นตัวนาฬิกาชัดเจน ซึ่งสีที่ได้มารีวิวนี้จะเป็นสีแดง จึงมีเส้นสีแดงที่ขอบหน้าปัดของตัวเรือน และสายเป็นสีแดง
เมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ สายสำรอง ไขควงสำหรับเปลี่ยนสาย สายชาร์จ และคู่มือการใช้งาน
สายชาร์จซึ่งเป็นแบบหัวหนีบเข้ากับตัวเรือน ซึ่งมีพิน 4 พอดี สามารถใช้งานร่วมกับ Garmin Forerunner 225 และ Forerunner 630 อีกด้านจะเป็นหัว USB สำหรับเชื่อมต่อกับอแดปเตอร์เพื่อชาร์จอื่นๆ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อทำการส่งข้อมูลผ่านโปรแกรม Garmin Express ได้
สำหรับสายสำรองจะเป็นอีกสีที่อยู่ด้านในของสายหลัก อย่างสีที่ได้มาคือสีแดง ด้านในจะมีสีดำอยู่ ส่วนสายสำรองจะเป็นสีดำที่มีด้านในเป็นสีแดง
ไขควงสำหรับถอดเปลี่ยนสายจะเป็นแบบรูปดาว 6 แฉก ที่ให้มา 2 อันเพราะต้องใช้งานพร้อมกัน ด้านนึงหมุนอีกด้านนึงจะต้องนิ่งเพื่อคลายแกนออกสำหรับการเปลี่ยนสาย
ดีไซน์
Garmin Forerunner 235 ยังคงดีไซน์หน้าปัดกลม และมีแถบสีอยู่ที่หน้าปัดคล้ายกับ Garmin Forerunner 225 แต่รุ่นนี้มีขนาดหน้าจอสีที่ใหญ่ขึ้นจาก 1.0 นิ้ว เป็น 1.23 นิ้ว โดยมีความละเอียดหน้าจอ 250 x 180 พิกเซล และมีนำหนักเพียง 42 กรัมเท่านั้น
ด้านซ้ายของตัวเรือนมีปุ่มเปิด/ปิดไฟแบ็คไลท์หน้าจอ หากกดค้างไว้จะเป็นการปิดเครื่อง ส่วน 2 ปุ่มถัดลงมาจะเป็นปุ่มบังคับทิศทางขึ้น-ลงในเมนูต่างๆ ที่แสดงในหน้าจอ
กลับมาดูด้านขวาจะพบกับปุ่มสีแดง สำหรับปุ่มนี้เป็นปุ่มเริ่มและหยุดการจับเวลาในการวิ่ง และเป็นปุ่มตกลงในการเข้าเมนูอื่นๆ ภายในตัว ถัดมาอีกปุ่มนึงนั้นเป็นปุ่มย้อนกลับไปหน้าก่อนหน้า และเป็นปุ่มกำหนดรอบ (Lap) ใหม่ในขณะจับเวลา
พลิกกลับมาดูด้านหลังจะพบกับเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แน่นอนว่ารุ่นนี้ไม่ต้องพึ่งสายคาดอก เพราะติดมากับตัวนาฬิกาแล้ว เหนือเซ็นเซอร์ก็มีชื่อของรุ่นที่ระบุเป็น Garmin Forerunner 235
ตัวล็อคยังเป็นเหมือนนาฬิกาทั่วไป แต่สามารถปรับระดับได้ถี่กว่า พร้อมกับที่รัดสายยังมีปุ่มยื่นออกมาเพื่อล็อคสายให้แน่นยิ่งขึ้นอีกด้วย
Running
ก่อนที่จะทำการจับเวลาและสถิติต่างๆ ในการวิ่งนั้นจะต้องทำการเลือกกิจกรรมว่าจะเป็นการวิ่งกลางแจ้ง หรือ วิ่งในร่ม (Run Indoor) ด้วยการกดปุ่มเริ่มกิจกรรมสีแดงเสียก่อน จากนั้นก็ทำการเลื่อนกิจกรรมที่ต้องการด้วยปุ่ม ขึ้น-ลง
ในขณะจับเวลา เราสามารถเลือกรูปแบบเลเอาท์ของหน้าจอได้ว่าจะแสดงเป็นกี่ส่วน (สูงสุด 4 ส่วน) และเลือกข้อมูลมาแสดงได้ ไม่ว่าจะเป็น ระยะทาง, ระยะเวลา, ความเร็ว, อัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งจะสามารถเลื่อนไปหน้าได้ถึง 5 หน้าปัด และสามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้ดังนี้
- หน้าแรก สามารถแก้ไขการแสดงข้อมูลได้ 1-4 ส่วน
- หน้าที่ 2 สามารถแก้ไขการแสดงข้อมูลได้ 1-4 ส่วน
- หน้าที่ 3 แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ โดยจะแสดงผลเป็น HR bpm และ HR zone
- หน้าที่ 4 แสดงอัตราการเต้นของหัวใจพร้อมเกจชี้ HR Zone Gauge
- หน้าที่ 5 แสดงเวลาและวันที่ ณ ปัจจุบัน
หลังจากวิ่งเสร็จ Garmin Forerunner 235 จะมีการแจ้งเตือนเวลา Recovery หรือเวลาที่เราควรต้องพักก่อนที่จะออกกำลังกายในครั้งต่อไปนั่นเอง
Garmin Forerunner 235 ยังรองรับกับการปั่นจักรยาน และยังมี Other สำหรับการออกกำลังกายต่างๆ ให้เลือก โดยยังคงทำการจับเวลาและแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจได้เช่นกัน
Tracker
Garmin Forerunner 235 นอกจากจะใช้งานสำหรับการวิ่งและปั่นจักรยานแล้ว ยังติดตามก้าวเดินของคุณในแต่ละวันอีกด้วย โดยสามารถกำหนดเป้าหมายจำนวนก้าวในแต่ละวันได้ พร้อมกับสถิติรวมของแต่ละสัปดาห์ในหน้าแอพพลิเคชั่น Garmin Connect
และแน่นอนว่ารุ่นนี้มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจมา และได้มีฟีเจอร์ HR Monitor ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจของคุณได้ทั้งวันอีกด้วย โดยจะแสดงเป็นกราฟ พร้อมกับค่าเฉลี่ยมาให้ดู หากกดปุ่มกิจกรรมเข้าไปก็จะแสดงอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ยในแต่ละวันให้ดู
เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
เมื่อเราต้องการดูข้อมูลและสถิติแบบเต็มๆ ก็ควรที่จะเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น Garmin Connect ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านทาง Bluetooth โดยการแสดงผลของกิจกรรมนี้ก็จะดูได้หลากหลายรูปแบบ โดยจะมีการแสดงผลโดยรวมของแต่ละวันมาให้ เราสามารถเลือกการแสดงข้อมูลต่างๆ เช่น จำนวนก้าว, เวลาในการนอนหลับ, กิจกรรมออกกำลังกาย เช่น วิ่ง, ว่ายน้ำ, ปั่นจักยานมาไว้ดูได้ และเมื่อแตะเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมของกิจกรรมต่างๆ ก็จะพบกับข้อมูลระยะทาง, ความเร็ว, Cadence จำนวนก้าวใน 1 นาที, อัตราการเต้นของหัวใจ และแสดงเวลาที่อยู่ในโซน
ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่งหน้าตา (Watch Faces) เพิ่ม Widget หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับ Garmin Forerunner 235 จากแอพพลิเคชั่น Garmin Connect เพิ่มเติมได้
นอกจากนี้เรายังใช้ Garmin Forerunner 235 เป็นสมาร์ชวอชแจ้งเตือนข้อความต่างๆ , แจ้งเตือนสายโทรเข้า, เป็นรีโมทบังคับเพลงในสมาร์ทโฟน และกดค้นหาสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย
Battery
ด้านความอึดของ Garmin Forerunner 235 หลังจากใช้งานจริง รู้สึกได้เลยว่าอึดมากโดยใช้งานทั่วไปพร้อมกับเปิด Bluetooth ทิ้งไว้มีการเชื่อมต่อเกือบตลอดเวลา และมีการใช้งาน GPS ในการวิ่งด้วยก็สามารถอยู่ได้เกิน 4 วันสบายๆ
Garmin Forerunner 235 ถือเป็นนาฬิกา GPS ที่ครบครันสำหรับนักวิ่งมือใหม่หรือที่วิ่งประจำอยู่แล้ว อยากได้อุปกรณ์ที่เอาไว้วัดสถิติต่างๆ เพื่อการพัฒนาการวิ่งของเรา นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดตารางการฝึกจาก Garmin มาไว้ในนาฬิกาได้ ทำให้เราออกวิ่งได้อย่างสะดวกไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนออกไป ตัดความกังวลใจว่าจะเปียกเหงื่อหรือหลุดมือหล่นหน้าจอแตกไปได้เลย แถมการจับสถิติต่างๆ ยังเก็บข้อมูลได้ละเอียดกว่าแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน
