Fitbit Versa สมาร์ทวอชรุ่นที่ 2 ต่อจาก Fitbit Ionic สำหรับรุ่นนี้ทางฟิตบิตเองก็ยังคงเน้นไปที่ด้านฟิตเนสและเพื่อสุขภาพเช่นเคย อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่ออกแบบมาให้มีความเป็นแฟชั่นสูง ใส่ได้ทุกโอกาส และยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย
สมาร์ทวอชรุ่นนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายแล้ว โดยจะมีรุ่นธรรมดา และรุ่น Special Edition ที่มาพร้อมกับสายถัก ทางทีมงาน WhatPhone เองก็ได้รุ่นพิเศษมาทดสอบ ซึ่งจะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามดูกันเลย
แกะกล่อง
ตัวกล่องของฟิตบิตนี้ต้องขอชมเลยว่ามีการจัดทำมาอย่างดี เรียกว่าใส่ใจตั้งแต่ภายนอกยันภายใน ถึงแม้จะมีรูปทรงเดิมๆ ก็ตาม (ก็ไม่รู้จะเอารูปทรงอื่นไปทำไมเนอะ) สำหรับรุ่นพิเศษ จะมีเขียนคำว่า Special Edition อยู่ที่หน้ากล่อง
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะเห็นว่ามีการจัดเรียงอุปกรณ์ต่างๆ มาอย่างดี และมีสัญลักษณ์บ่งบอกชัดเจน
สำหรับรุ่น Special Edition นี้ จะมาพร้อมกับสายถักพิเศษเพิ่มเติม และยังมีสายแบบธรรมดามาให้ด้วย ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีมาให้ 2 ขนาด สายสั้นสำหรับไซส์ S และสายยาวสำหรับไซส์ L โดยสายแต่ละไซส์นั้นจะสามารถปรับระดับความแน่นได้เหมือนนาฬิกาทั่วไป เท่ากับว่าภายในกล่องจะมีสมาร์ทวอช Versa 1 เรือน, คู่มือการใช้งาน, สายถัก 3 เส้น(สายหลัก,สายไซส์ S และ L), สายธรรมดา 3 เส้น(สายหลัก,สายไซส์ S และ L)
ดีไซน์
Fitbit Versa มีดีไซน์ที่โค้งกว่า Fitbit Ionic หากมองผ่านก็จะคล้ายกับ Apple Watch และ Pebble แต่ด้วยดีไซน์โดยรวมถือว่าทำได้อย่าลงตัวตัวเรือนทำจาก anodised aluminum ให้ความแข็งแรง ทนทาน แต่มีน้ำหนักเบา ซึ่งรุ่นที่ได้มาจะเป็นสีกราไฟต์ Graphite สีออกเทาๆ ดำๆ การใช้งานหลักๆ จะเป็นการสัมผัสหน้าจอและใช้งานร่วมกับปุ่มด้านข้างของตัวเครื่องทั้ง 2 ข้าง ด้านล่างจะมีเขียนคำว่า fitbit อยู่ สำหรับหน้าจอจะมีความสว่างสูงถึง 1,000 nits สามารถใช้งานในที่กลางแจ้งได้สบายๆ และใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3 ที่มีความทนทานมากกว่ากระจกทั่วไป
ปุ่มด้านซ้ายของตัวเรือนจะมี 1 ปุ่ม หลักๆ จะเป็นปุ่มสำหรับกลับมาหน้า Home, เรียกหน้าจอขึ้นมา เมื่อกดค้างไว้จะเป็นเมนูการตั้งค่าแบบด่วน โดยจะเป็นการตั้งค่าหน้าจอสว่างอัตโนมัติ, การแจ้งเตือน และ การควบคุมเพลง
ด้านขวาของตัวเรือน จะมีปุ่มมาให้ 2 ปุ่ม ซึ่งสามารถใช้งานเป็นปุ่มลัดเข้าสู่เมนูต่างๆ มาให้
ตัวสายเป็นสายถักสีชาโคล (Charcoal) สามารถปรับระดับได้เหมือนสายนาฬิกาทั่วไป
ด้านหลังจะเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และแท่นทองเหลืองสำหรับเสียบสายชาร์จ โดยสายชาร์จะเป็นแบบหนีบเข้ากับตัวเรือน ส่วนการเปลี่ยนสาย ก็เพียงแค่กดปุ่มที่อยู่ด้านใน จากนั้นก็ถอดออกมาเพื่อทำการเปลี่ยนสายใหม่ได้เลย และใครที่เห็นว่าปุ่มที่มีไว้สำหรับเปลี่ยนสายนูนออกมาแล้วจะทิ่มเข้ากับข้อมือหรือไม่นั้น บอกเลยว่าไม่โดน เนื่องจากตัวเรือนยื่นออกมามากกว่านั่นเอง แต่ถ้าหากรัดสายแน่นเกินไป ก็อาจจะทำให้โดนข้อมือได้
การใช้งาน
การใช้งานสมาร์ทวอชรุ่นนี้ก็ยังคงใช้งานกับแอปพลิเคชั่น Fitbit เอาไว้ทำการซิงค์ข้อมูลต่างๆ จากสมาร์ทวอชไปยังสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่นไว้ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ที่ Google Play Store สำหรับ Android และ App Store สำหรับ iOS นอกจากนี้ยังต้องใช้โปรแกรม Fitbit Connect บนคอมพิวเตอร์ สำหรับการส่งเพลงเข้าไปยังสมาร์ทวอช Versa
ก่อนจะใช้งาน ต้องทำการเชื่อมต่อ Versa เข้ากับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่น Fitbit เรียบร้อยเสียก่อน โดยทำตามขั้นตอนที่แสดงขึ้นมาในหน้าจอด้วยการเสียบสายชาร์จ Versa เข้ากับคอมพิวเตอร์ หรือแหล่งจ่ายไฟต่างๆ เพื่อทำการเริ่มเชื่อมต่อ จากนั้นจะมีหน้าจอปรากฏที่ Versa ให้นำตัวเลขชุดนั้นไปกรอกที่หน้าจอสมาร์ทโฟน จากนั้นก็รอระบบทำการเชื่อมต่อและซิงค์ข้อมูลต่างๆ
เมื่อเชื่อมต่อเรียบร้อยแล้ว เราสามารถทำการเชื่อมต่อ Versa เข้ากับ Wi-Fi ที่เรารู้จัก เพื่อนำเพลงเข้าไปยังสมาร์ทวอชด้วย Fitbit Connect บนคอมพิวเตอร์ จำเป็นต้องมีการตั้งค่า Wi-Fi เสียก่อน
Fitbit Versa สมาร์ทวอชเพื่อสุขภาพ
สำหรับรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้า Dashboard แบบใหม่ สามารถดูข้อมูล Today ของคุณได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเข้าดูในแอปพลิเคชัน ซึ่งข้อมูล Today นี้ก็เพียงแค่เลื่อนหน้าจอขึ้นมาก็สามารถดูสถิติต่างๆ ของวันนั้นได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าวเดิน, อัตราการเต้นของหัวใจ, ข้อมูลการออกกำลังกาย นอกจากนี้ยังสามารถดูปริมาณแบตเตอรี่ได้จากหน้านี้เช่นกัน
Versa ยังมีการแจ้งเตือนเมื่อคุณอยู่นิ่งเกินไป เพื่อกระตุ้นให้คุณได้มีการเคลื่อนไหวหรือออกแรงมากขึ้น เหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศที่มักจะนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ จนหลายคนเป้นโรคออฟฟิศซินโดรมกันไปแล้ว
ด้วยความเป็นสมาร์ทวอช แน่นอนว่าสามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอ Clock faces ได้ โดยมีให้เลือกเปลี่ยนมากมายในแอปพลิเคชั่น Fitbit และนอกจากนี้ยังมีแอปพลิเชั่นให้เลือกติดตั้งและใช้งานใน Versa อีกด้วย
ขึ้นชื่อว่าสมาร์ทวอชทั้งที แน่นอนว่าสามารถรับการแจ้งเตือนต่างๆ จากสมาร์ทโฟนที่เราทำการเชื่อมต่อไว้ นอกจากจะมีการแจ้งเตือนทันทีแล้ว เราสามารถเข้ามาดูการแจ้งเตือนภายหลังได้ด้วยการเรียกหน้าจอขึ้นมาจากการยกข้อมือขึ้นมาดู หรือทำการเคาะหน้าจอ 2 ครั้ง แล้วเลื่อนหน้าจอลงมา ก็จะพบกับการแจ้งเตือนต่างๆ น่าเสียดายที่ยังไม่รองรับภาษาไทย
ออกกำลังกาย
สมาร์ทวอช Versa นั้นมีเมนู Exercise มาให้ โดยจะมีการออกกำลังกายด้วยการ วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ, วิ่งบน Treadmill, เวท เทรนนิ่ง, ออกกำลังกายทั่วไป โดยการวิ่งและการปั่นจักรยานกลางแจ้งนั้น หากต้องการให้ทำการจับเส้นทาง, ระยะ, จังหวะก้าว และความเร็วที่แม่นยำมากขึ้น ก็จะต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งาน GPS และต้องพกไปออกกำลังกายพร้อมกัน ต่างจาก Ionic ที่มี GPS ในตัวเลย
ใครที่ชื่นชอบการออกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ Versa ก็กันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร ใส่ลงทะเลได้ แน่นอนว่าการใส่อาบน้ำหรือเดินตากฝนนั้นทำได้สบายๆ นอกจากนี้ยังมี SmartTrack ติดตามการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติ เมื่อมีการเคลื่อนไหวติดต่อกันเกิน 15 นาที
Fitbit Coach เป็นอีกแอปพลิเคชั่นที่ติดมาในเครื่องแนะนำให้ใช้งาน ซึ่งภายใน Fitbit Coach นี้ได้ทำการรวบรวมเมนูออกกำลังกายมาให้ โดยที่เราไม่ต้องคิดหรือวางแผนเอง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกที่เน้นหน้าท้อง, ออกกำลังกายครบทั้งร่างใน 7 นาที, เน้นฝึกกล้ามเนื้อหน้าอก เพียงแค่คุณเชื่อมต่อหูฟังกับสมาร์ทวอช Versa และทำตามท่าทางที่ปรากฏในสมาร์ทวอชตามเวลาที่กำหนดให้ แค่นี้คุณก็สามารถออกกำลังกายได้ในทุกๆ วันแล้ว และท่าทางส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้ใช้อุปกรณ์อะไรเพิ่มเติมเลย ตรงนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับคนที่อยากจะออกกำลังกาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะออกกำลังกายท่าไหนดี
ตรวจคุณภาพการนอนหลับ
การนอนหลับที่ดี บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี Fitbit จึงมีฟีเจอร์ติดตามและตรวจคุณภาพการนอนหลับด้วย ซึ่งจะทำงานแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ก่อนจะนอน มีการเก็บข้อมูลระยะเวลาการนอนหลับ และมีการแบ่งการนอนหลับเป็น หลับตื้น, หลับลึก, หลับระยะ REM เพื่อให้รู้ข้อมูลเชิงลึกในการนอนหลับของคุณ ซึ่งแต่ละรูปแบบการนอนหลับก็มีความหมายที่แตกต่างกัน
- Light Sleep ช่วงหลับตื้น มักจะเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน มีความสำคัญต่อความจำ, ความรู้ และการฟื้นฟูของร่างกายที่ใช้งานมาตลอดทั้งวัน คิดเป็นร้อยละ 50-60 ของการนอนหลับ
- Deep Sleep ช่วงหลับลึก จะเป็นการช่วงที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น รวมถึงการซ่อมแซมกล้ามเนื้อ โดยทั่วไปจะเป็นร้อยละ 10-25 ของการนอนหลับ
- REM Sleep ช่วงหลับลึกจนฝัน เป็นช่วงสำคัญมากสำหรับการฟื้นฟูสภาพจิต และการพัฒนาด้านความจำ คิดเป็นร้อยละ 20-25 ของการนอนหลับ ระยะ REM Sleep นี้มักจะเกิดช่วงท้ายคืนหรือใกล้จะตื่นนั่นเอง
- Awake Periods ถือเป็นส่วนหนึ่งของวงจรการนอนหลับ ซึ่งหากมีเกิดขึ้น 10-30 ครั้ง ก็ถือว่าเป็นปกติของการนอนหลับในแต่ละคืน
ฟังเพลงจากสมาร์ทวอช
Fitbit Versa สามารถฟังเพลงจากสมาร์ทวอชได้เลย เพียงแค่นำเพลงไปใส่ในสมาร์ทวอชและเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธก็สามารถฟังเพลงจากสมาร์ทวอชได้เลย หรือจะเลือกฟังจาก Deezer ก็ได้เช่นกัน ซึ่งใน Deezer จะมีเพลย์ลิสต์ให้เลือกฟังมากมาย ซึ่งมีโค้ดให้เรานำไปใช้งานได้ฟรี 3 เดือน
แบตเตอรี่
Versa มีแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างอึด จากการทดลองใช้งานมีการออกกำลังกาย เชื่อมต่อ GPS บ้าง ก็สามารถใช้งานได้ประมาณ 3 วัน จากที่ Fitbit เคลมไว้ว่าได้ถึง 4 วัน สำหรับการทดลองใช้งานก็ถือว่าทำได้ดีแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมากกว่าทั่วไป
ฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะมาในเดือนพฤษภาคมนี้
ถือเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับสาวๆ เลยทีเดียว Female Health Tracking การติดตามรอบเดือน จะถูกอัพเกรดใน Fitbit Ionic และ Versa เพื่อช่วยให้ติดตามและเข้าใจเกี่ยวกับรอบเดือนมากขึ้น พร้อมกับช่วยคำนวณรอบเดือนที่กำลังจะมาถึงและแจ้งล่วงหน้า
อีกฟีเจอร์ก็คือ ตอบข้อความเร็ว สามารถตอบข้อความจาก Whatsapp หรือ Facebook Messenger ได้จากหน้าปัดสมาร์ทวอชทันที แต่จะมีเฉพาะการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android เท่านั้น
และ Fitbit Pay ตอนนี้ได้ทำการพูดคุยกับทางธนาคารในประเทศไทยแล้ว ซึ่งตรงนี้ต้องรอดูกันว่าจะเป็นอย่างไร หากสามารถใช้งานได้สมาร์ทวอชจาก Fitbit ก็จะทำให้การใช้งานต่างๆ สะดวกขึ้น
สรุป
Fitbit Versa สมาร์ทวอชสำหรับผู้ที่รักการออกกำลังกายและรักสุขภาพ ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม น้ำหนักเบา ทำให้ใส่ออกกำลังกาย หรือใส่ออกไปท่องเที่ยวกับคุณได้ทุกที่ ตัวสายสามารถหาซื้อสายใหม่ๆ มาเปลี่ยนได้ และหากเป็นรุ่น Special Edition ก็มีสายถักสวยงามมาให้ใช้งานกันเลย ส่วนฟีเจอร์การออกำลังกายต่างๆ ก็มีให้ครบ อีกทั้งยังสามารถกันน้ำได้ลึก 50 เมตร ไม่ต้องกังวลเรื่องเปียกเลย แบตเตอรี่ก็อยู่ได้นานถึง 4 วัน น่าเสียดายที่ไม่มี GPS ภายในตัว ไม่อย่างนั้นจะครบเครื่องมาก นอกจากตัวสมาร์ทวอชที่ดีแล้ว ตัวแอปพลิเคชัน Fitbit บนสมาร์ทโฟนก็ทำได้ดีเช่นกัน หน้าตาใช้งานง่าย มีกราฟและตัวเลขสวยงาม ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทวอชเพื่อสุขภาพดีๆ อยู่ บอกได้ว่า Fitbit Versa เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าใครที่อยากได้ครบๆ ขอแนะนำ Fitbit Ionic เลย
