Xiaomi ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ได้ทำการเปิดตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในกลุ่ม Mi Ecosystem เมื่อไม่นานมานี้ และหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ทางทีมงาน What Phone ได้รับมาทดสอบใช้งานก็คือ Mi Robot Vacuum หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจฉริยะ ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี LDS (Laser Distance Sensor) และ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping) มาช่วยในการทำงาน ซึ่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่นรุ่นนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามกันเลย
อุปกรณ์ภายในชุดจัดจำหน่าย
สำหรับอุปกรณ์ที่มาในชุดจัดจำหน่ายนอกเหนือจากหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot Vacuum นี้ ได้แก่ แท่นชาร์จ, สายไฟ, หวีทำความสะอาด และคู่มือการใช้งานมาให้
ดีไซน์
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot รุ่นนี้จะมาในรูปวงกลม วัสดุเป็นสีขาวมันวาว มีปุ่มสำหรับเปิด/ปิดเครื่องวางอยู่ตรงกลาง ด้านบนสุดเป็นแท่นวงกลมที่มีเซ็นเซอร์อยู่ด้านในคอยยิงเลเซอร์และร่วมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ ในตัวเครื่อง เช่น เซ็นเซอร์ตรวจจับขอบบันได เซนเซอร์ตรวจจับการชน เซ็นเซอร์ตรวจจับด้วยพลังงานเสียง และเครื่องวัดการหมุนวน ทำการตรวจสอบสภาพรอบห้องเพื่อวางแผนการเดินก่อนทำความสะอาด
ตัว Bumper จะเป็นครึ่งวงกลมด้านหน้า มีเซ็นเซอร์วางอยู่รอบๆ สามารถเปิดฝาด้านบนขึ้นมา เพื่อถอดถังเก็บเศษฝุ่น เศษผมออกมาเพื่อทำความสะอาดถังได้ ทั้งนี้ยังมีรายละเอียดการใช้งานปุ่มเปิด/ปิดเครื่องเพื่อใช้งานในโหมดอื่นๆ มาให้ด้วย
ด้านหลังมีแถบเหล็กสำหรับชาร์จไฟกับแท่นชาร์จและรูระบายอากาศจากที่ตัวหุ่นยนต์ทำการดูดขึ้นมา
ด้านล่างจะพบกับแปรงแบบผสม ซึ่งจะเป็นแบบขนกับแบบแผ่นยาง จะช่วยในการปัดเศษฝุ่น เศษผมขึ้นมาพร้อมกับพลังดูดของตัวหุ่นยนต์ ช่วยให้สะอาดมากขึ้น และมีล้อหลักที่ใหญ่ ดอกยางพร้อมลุยทำความสะอาดในพื้นที่แตกต่างกัน และยังมีแปรงปัดด้านข้างไว้สำหรับทำความสะอาดตอนชิดขอบกำแพงมาให้ รอบๆ ก็จะประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์ต่างๆ อีกด้วย
ตัวแปรงนี้เราสามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาดได้ เพราะเนื่องจากมีการใช้งานไปนานๆ เศษผมจะมีพันติดตัวแปรงได้ เราต้องใช้หวีที่มาพร้อมกับชุดจัดจำหน่ายมาหวีสางเพื่อนำเศษผมออกจากแปรงนั่นเอง
สั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน Mi Home ได้
Mi Robot หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัจริยะรุ่นนี้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อสั่งงานผ่าน Wi-Fi ด้วยแอปพลิเคชั่น Mi Home ได้ และแน่นอนว่ารองรับทั้ง Android และ iOS
หลังจากที่เราทำการติดตั้งและสมัครบัญชี Mi Home เรียบร้อยแล้ว ในการเชื่อมต่อครั้งแรกนั้น เราต้องทำการเพิ่มอุปกรณ์เสียก่อน ซึ่งการเพิ่มอุปกรณ์และทำการเชื่อมต่อก็ไม่ยาก เพียงกด 2 ปุ่มที่ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นจะขึ้นไฟสีฟ้ากระพริบ แล้วก็ทำตามขั้นตอนที่ปรากฏหน้าแอปพลิเคชันก็เชื่อมต่อได้แล้ว
เดินทำความสะอาดแบบมีแบบแผน
ด้วยเทคโนโลยี LDS (Laser Distance Sensor) กับ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping) ทำให้ก่อนเริ่มทำความสะอาด หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot จะทำการสำรวจพื้นที่รอบห้องก่อน ซึ่งเวลาไม่นาน ก็เริ่มเดินทำความสะอาดแล้ว โดยจะทำการเดินทำความสะอาดรอบๆ ห้องและชิดกำแพงก่อน แล้วค่อยมาเดินรอบด้านใน ซึ่งการเดินก็จะเป็นเส้นทางที่มีแบบแผน ไม่เดินมั่ว และเราสามารถดูเส้นทางการเดินทำความสะอาดได้จากแอปพลิเคชัน Mi Home
*เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง SLAM (Simultaneous Localization and Mapping) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการจัดตำแหน่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางในยานพาหนะที่ไม่มีคนขับและยานพาหนะสำรวจ
นอกจากนี้การสั่งหุ่นยนต์ดูดฝุ่น เราสามารถตั้งเวลาให้ทำงานล่วงหน้าได้ อาทิ ทำความสะอาดทุกวัน ในเวลา 9.00 น. หรือจะเลือกเป็นวันเว้นวันก็ได้ เมื่อมีอะไรมาติดในแปรงจนไม่สามารถทำงานได้ ก็จะมีการแจ้งเตือนมายังแอปพลิเคชันเพื่อให้เราทำความสะอาดแปรงหรือดึงสิ่งที่อุดตันออก
ไม่ต้องเชื่อมต่อแอปพลิเคชันก็ทำความสะอาดได้
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นนี้ ไม่จำเป็นต้องทำการเชื่อมต่อสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันก็สามารถใช้งานทำความสะอาดได้ เพียงแค่กดปุ่มเปิด 1 ครั้ง ตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นก็จะใช้ LDS (Laser Distance Sensor) กับ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping) และเซ็นเซอร์อื่นๆ มาตรวจสอบสภาพรอบห้องก่อนเดินทำความสะอาด หลังจากนั้นก็ปล่อยหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเดินทางเพื่อทำความสะอาดได้เลย เมื่อทำความสะอาดเสร็จ ก็จะเดินกลับแท่นชาร์จเอง แต่อย่างไรก็ตาม หากเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน เราก็จะเห็นข้อมูลการทำความสะอาดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นด้วย
สรุป
ด้วยเทคโนโลยี LDS (Laser Distance Sensor) กับ SLAM (Simultaneous Lacalization and Mapping) ทำให้การเดินทำความสะอาดนั้นไม่สะเปะสะปะ ช่วยให้ทำความสะอาดได้ทั่วห้องมากกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ขาดเทคโนโลยีแนวนี้ บวกกับสามารถเชื่อมต่อสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันได้ และยังดูผลการทำความสะอาดของหุ่นยนต์ดูดฝุ่นได้ด้วย ใครที่กำลังมองหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นอยู่ Mi Robot Vacuum ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจลำดับต้นๆ เลย ทั้งประสิทธิภาพและราคา 12,990 บาท ที่ถูกกว่าแบรนด์อื่นๆ อยู่พอสมควร หาซื้อหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Mi Store และร้านค้า IT ชั้นนำ
ข้อดี
- ไม่ต้องเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่น ก็ทำงานได้
- แชร์หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Mi Robot ไปให้บัญชีอื่นใช้งานร่วมกันได้
- ฉลาด เดินทำความสะอาดไม่สะเปะสะปะ
ข้อเสีย
- ไม่มีอุปกรณ์สำรอง (แปรง, แผ่นกรองฝุ่น) มาให้
- ถังเก็บเศษฝุ่นค่อนข้างเล็ก