นอกจากสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแล้ว เหล่าอุปกรณ์เสริมหรืออุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและกำลังมาแรงในยุคนี้ ยิ่งมีความแปลกใหม่ก็ยิ่งช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากลอง อย่างเช่นเจ้าแว่น VR ที่ช่วยสร้างประสบการณ์การดูหนัง เล่นเกมรูปแบบใหม่อันแสนเร้าใจแบบ 360 องศาให้กับคุณ ซึ่งหนึ่งในแบรนด์แห่งแว่น VR อย่าง Samsung ก็เคยมีอุปกรณ์ VR ออกมา อย่าง Samsung Gear VR และในเวลานี้ก็เดินทางมาถึง Samsung Gear VR 2.0 หรือ VR รุ่นใหม่จาก Samsung
Design
Samsung Gear VR 2.0 ยังมีลักษณะภายนอกโดยรวมที่คล้ายคลึงกับ Samsung Gear VR รุ่นแรก แต่จากการสัมผัสและจับถือ พบว่ามีน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นแรก และเปลี่ยนสีของตัวเครื่องจากสีขาวเป็นสีเทาดำและน้ำเงินกรมท่าที่มาในโทนหรูหรา บริเวณด้านบนของเครื่องยังมีสวิตช์แบบหมุนที่ช่วยปรับระยะของการมองภาพขณะใช้งาน ซึ่งการใช้งานในจุดนี้ถือว่าสะดวกดี ซึ่งส่วนสำคัญอย่างเลนส์และมุมมองของภาพ (Field of View) ในตัว Samsung Gear VR 2.0ก็มีความกว้างกว่า VR ทั่วไป ที่ 101 องศา และส่วนของ Touchpad รวมถึงปุ่มควบคุมต่างๆ บริเวณด้านขวาของเครื่องก็มีการเปลี่ยนใหม่ให้ต่างจาก Samsung Gear VR รุ่นแรกโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ Samsung Gear VR 2.0 มีสายรัดศีรษะที่ปรับขนาดได้สะดวก กระชับรับกับศีรษะ ไม่ต้องกังวลว่า VR นั้นจะพอดีกับศีรษะของคุณหรือไม่ และไม่ต้องถือตัวเครื่องให้เมื่อยเลย
Connect
สิ่งที่ Samsung Gear VR 2.0มีความแตกต่างจาก Samsung Gear VR รุ่นแรกก็คือ ส่วนของพอร์ตเชื่อมต่อ (Dongle) เข้ากับสมาร์ทโฟนที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งในเครื่องทดสอบ Samsung Gear VR 2.0 มาพร้อมพอร์ต USB Type-C สำหรับเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงอย่าง Samsung Galaxy Note 7 แต่สามารถถอดเปลี่ยนพอร์ตให้เป็นแบบ micro USB 2.0 ได้ ซึ่งสมาร์ทโฟนที่รองรับการใช้งาน Samsung Gear VR 2.0 ได้แก่ Samsung Galaxy Note 5, Galaxy S7 edge, Galaxy S7, Galaxy S6 edge+, Galaxy S6 edge, Galaxy S6
นอกจากนี้ Samsung Gear VR 2.0ยังมีพอร์ต USB ภายนอก ที่นอกจากจะทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ภายนอกอื่นๆ เช่น External Hard disk, Motion Controller รูปแบบต่างๆ รีโมทควบคุมการเคลื่อนไหว ฯลฯ ซึ่ง Samsung Gear VR 2.0ไม่ใช่อุปกรณ์ที่ทำงานแบบเดี่ยวๆ หรือเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถสร้างความสนุกรูปแบบอื่นๆ เข้ากับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ไม่รู้จบ
Oculus Store
ความพิเศษที่มีอยู่ใน Samsung Gear VR 2.0 เท่านั้น จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Oculus Store ที่มาพร้อม Exclusive Content อย่าง VR Games ที่มีเพียงผู้ใช้งาน Samsung Gear VR 2.0และสมาร์ทโฟน Samsung รุ่นที่รองรับเท่านั้นที่จะได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ สามารถสั่งงานด้วยแผงปุ่มและ Touchpad และการขยับ ส่ายศีรษะเพื่อเลือกคำสั่งที่ต้องการ ซึ่งในส่วนของความเร็ว ความลื่นไหลขณะใช้งานแอปพลิเคชั่น Oculus Store นั้นมีความลื่นไหลที่น่าพอใจ แต่ลักษณะเมนูด้านในหรือคำสั่งลึกๆ ภายใน Oculus Store ยังมีความซับซ้อนอยู่บ้าง ต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยสักหน่อย
ทดสอบการใช้จริง
ในการใช้งาน Samsung Gear VR 2.0ครั้งนี้ เป็นการทดสอบเล่นเกม VR Games ที่ต้องใช้การขยับและส่ายศีรษะเพื่อบังคับทิศทางตัวละครในเกม ซึ่งการสั่งงานขณะเล่นเกมมีความสะดวกดี พบอาการเวียนหัวจากการขยับศีรษะน้อยลง ความเร็ว ความลื่นไหลขณะใช้งานอยู่ในเกณฑ์ดี ยังไม่พบอากาศกระตุก ส่วนการประมวลผลภาพกราฟิกในเกมต่างๆ จาก Oculus Store ก็มีความสวยงามดี ดูเนียนตา
ข้อดี
- ให้ภาพคมชัด พร้อมมุมมองที่มีความกว้างเป็นพิเศษ
- เลือกปรับความคมชัดของภาพขณะใช้งานได้
- รองรับการเชื่อมต่อ USB Type-C สำหรับ Galaxy Note 7 และสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ และยังถอดเปลี่ยนกับพอร์ต Micro USB 2.0 ได้
- รองรับการชาร์จแบบ USB Type-C และยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก เช่น External Hard disk เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่หน่วยความจำในสมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์เชื่อมต่อภายนอกอื่นๆ
- ออกแบบให้มีน้ำหนักเบา พร้อม Trackpad และปุ่มควบคุมแบบใหม่
ข้อเสีย
- รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนซัมซุงบางรุ่นเท่านั้น (Galaxy Note 7, Note 5, S7 edge, S7, S6 edge+, S6 edge, S6)
- เมนูคำสั่งลึกๆ ใน Oculus Store ยังมีความซับซ้อนอยู่พอสมควร
จากการใช้งาน Samsung Gear VR 2.0มาสักระยะ พบว่าเป็น VR ที่ให้ประสบการณ์สุดเร้าใจได้จริง เข้าถึงอารมณ์แบบ 360 องศา ทั้งภาพและเสียง รวมถึงการเชื่อมต่อที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์เสริมหลากหลายประเภท หากเป็นผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนจาก Samsung อยู่แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะพลาดขีดสุดแห่งประสบการณ์จาก Samsung Gear VR 2.0ซึ่งความสามารถทั้งหมดนี้ เป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ในราคาเพียง 3,500 บาทเท่านั้น