Sony ได้ทำการเปิดตัว Smart B-Trainer หูฟังกันน้ำสำหรับนักวิ่ง ที่มาพร้อมเทรนเนอร์ในตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยหูฟัง Smart B-Trainer นี้ได้ผลิตขึ้นมาสำหรับนักวิ่งโดยเฉพาะ ทำให้การวิ่งเพื่อออกกำลังกายด้วยการวิ่งนั้นสะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายด้วยการวิ่งอีกด้วย เพราะมีการแนะนำการวิ่งของคุณ พร้อมกับมีการแจ้งระยะทางความเร็วในขณะวิ่งอีกด้วย Smart B-Trainer จะเป็นหูฟังที่มีน้ำหนักเบา สวมใส่ง่าย ทำให้ไม่รู้สึกรำคาญในขณะวิ่ง และรายละเอียดต่างๆ ของ Smart B-Trainer จะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมกันเลย
คุณสมบัติทั่วไป Smart B-Trainer
- หน่วยความจำ 16 GB สามารถเก็บไฟล์เพลงแบบ MP3 ได้ถึง 3,900 เพลง
- มี GPS ภายในตัว
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ตัววัดความเร่ง, ไจโร, เข็มทิศดิจิตอล และเซ็นเซอร์วัดความดันอากาศ
- รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟน Android และ iOS
- รองรับการเชื่อมต่อผ่าน NFC, Bluetooth
- แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ชาร์จซ้ำได้
- น้ำหนัก 43 กรัม
- กันน้ำมาตรฐาน IPX 5 / IPX 8
กล่องของ Smart B-Trainer นั้นเป็นแบบสี่เหลี่ยมจตุรัส ด้านหน้ามีบอกจุดเด่นของหูฟังชัดเจน ว่ามี GPS ภายในตัว, เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate), เล่นเพลงได้ และกันน้ำ
ภายในกล่องจะมาพร้อมกับคู่มือการใช้งาน แท่นชาร์จแบตเตอรี่พร้อมสาย USB โดยที่ชาร์จนี้จะสามารถใช้เสียบกับหูฟัง Smart B-Trainer เพื่อโอนถ่ายเพลงจากคอมพิวเตอร์ไปไว้ในหูฟังได้
และยังมีกระเป๋าซิปสีขาวสวยสำหรับใส่หูฟัง Smart B-Trainer มาให้ด้วยภายในกระเป๋าจะมีจุกยางซิลิโคนสำหรับเปลี่ยนตามขนาดหูของเรา พร้อมกับยางซิลิโคนสำหรับหุ้มหูฟังด้วย โดยจะมีให้เลือกอย่างละ 3 ขนาด และแบบกันน้ำ (สีเข้ม) และแบบปกติ
นอกจากจุกยางซิลิโคนและยางหุ้มหูฟังแล้ว ยังมีตัวล็อคหูฟังสำหรับเก็บในกระเป๋าเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้หูฟังเสียรูปหรือบิดงอโดยไม่ตั้งใจอีกด้วย
ปุ่มเปิด/ปิดจะอยู่หูฟังด้านขวา พร้อมกับปุ่มเปิด/บลูทูธและปุ่มปรับระดับเสียง เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และมีแถบสำหรับเสียบเข้ากับแท่นชาร์จเพื่อชาร์จไฟอยู่ฝั่งนี้ด้วย นอกจากนี้ปุ่มเปิด/ปิด ยังใช้ร่วมกับปุ่มรับสาย/วางสาย เมื่อมีสายโทรเข้าในขณะที่ทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ที่หูฟังฝั่งซ้ายจะมีปุ่มเปลี่ยนเพลง พร้อมปุ่มเริ่ม/หยุดเล่นเพลง และปุ่ม Start/Stop สำหรับการเริ่มวิ่งและหยุดวิ่ง
การใช้งาน Smart B-Trainer
ในการใช้งาน Smart B-Trainer จะต้องทำการเชื่อมกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่น Smart B-Trainer for Running ที่เปิดให้ดาวน์โหลดใน Google Play Store และ App Store สำหรับสมาร์ทโฟน Android และ iPhone เพื่อทำการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ และทำการตั้งค่ารูปแบบการวิ่งด้วย นอกจากนี้การดูสถิติการวิ่งต่างๆ จะต้องดูผ่านแอพพลิเคชั่น Smart B-Trainer for Running เท่านั้น
สำหรับการใช้งานวิ่งคู่กับ Smart B-Trainer จะมีเพลงอยู่ในตัวอยู่แล้ว 30 เพลง โดยจะมีความเร็วแตกต่างกันสำหรับการกระตุ้นการวิ่งในความเร็วต่างๆ ถ้าหากจะเพิ่มเพลงในหูฟังก็เสียบกับแท่นชาร์จและเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์เพื่อโอนถ่ายเพลงได้ทันที
ก่อนจะออกวิ่งพร้อมกับ Smart B-Trainer จะต้องทำการตั้งค่ารูปแบบการวิ่งผ่านแอพพลิเคชั่นก่อน โดยจะมีรูปแบบการวิ่งให้เลือกถึง 8 แบบ ได้แก่ แบบวิ่งปกติ (Free), แบบกำหนดระยะเวลา (Set time), แบบกำหนดระยะทาง (Set distance), แบบกำหนดแคลอรี่ที่เผาผลาญ (Set calories), แบบกำหนดความเร็ว (Set pace), แบบซ้อมเพื่อเผาผลาญไขมัน (Fat burning training), แบบฝึกความอึด (Endurance training), แบบตั้งค่าเอง (Custom) และทำการ Transfer มาเก็บไว้ใน Smart B-Trainer เพื่อใช้งานแบบไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
ตามที่กล่าวไว้ในตอนแรกนั้น Smart B-Trainer จะมีเทรนเนอร์มาให้ ก็คือจะมีเสียงคอยแนะนำว่าจะต้องเพิ่มหรือลดความเร็วในการวิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจเต้นเร็วเกินไปหรือหรือต่ำเกินไป Smart B-Trainer ก็จะทำการเปลี่ยนความเร็วของเพลงให้เข้ากับจังหวะการเต้นหัวใจของเราเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่งด้วย โดยเราสามารถตั้งค่าให้ทำการเปลี่ยนเพลงอัตโนมัติได้ สำหรับน้ำเสียงของเทรนเนอร์ใน Smart B-Trainer นี้ขอบอกได้เลยว่าเสียงหวาน น่าฟังมาก
และก่อนวิ่ง เราสามารถเช็ค Training Plan ใน Smart B-Trainer ด้วยการกดปุ่มเปิด/ปิด 1 ครั้ง และในขณะวิ่ง เราสามารถเช็คระยะทาง, เวลา, ความเร็ว และอัตราการเต้นของหัวใจได้ด้วยการกดปุ่มนี้เช่นเดียวกัน ทำให้เรารู้ว่าวิ่งไปเท่าไร และเหลืออีกเท่าไรแล้ว
และสะดวกที่สุดคือไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนไปวิ่งด้วย แค่มีหูฟัง Smart B-Trainer ก็พอแล้ว และเมื่อวิ่งเสร็จค่อยทำการซิงค์ข้อมูลกับสมาร์ทโฟนเพื่อดูสถิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล GPS, ระยะทาง, เวลา, ความเร็วเฉลี่ย, จำนวนก้าว, จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญ และอัตราการเต้นของหัวใจ โดยจะแสดงผลออกมาให้ดูเข้าใจง่าย หรือจะเลือกดูแบบกราฟ, รอบ และ เพลงที่เล่นไปในการวิ่งครั้งนั้น โดยในหน้า Home จะมีการคัดแสดงรูปภาพจาก Google Street View มาแสดงในหน้านี้ด้วย
Smart B-Trainer ยังสามารถใช้เป็นหูฟังบลูทูธ ฟังเพลง คุยสายในขณะเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ โดยรองรับการใช้งานคีย์ลัดการเปลี่ยนเพลงต่างๆของ iPod และ iPhone อีกด้วย
Smart B-Trainer นอกจากจะกันน้ำและเหงื่อในขณะตอนออกกำลังกายได้ดีแล้ว ยังสามารถใส่ลงไปว่ายน้ำได้เช่นกัน เพราะมีการกันน้ำมาตรฐาน IPX 5 / IPX 8 แต่ต้องไม่ลืมทำการเปลี่ยนยางซิลิโคนแบบกันน้ำด้วย ไม่เช่นนั้นหูฟังจะได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
สรุป
Smart B-Trainer เป็นหูฟังที่ตอบโจทย์นักวิ่งหรือคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายด้วยการวิ่งได้ดี เพราะนอกจากจะเป็นหูฟังสำหรับฟังเพลงเพื่อความเพลิดเพลินและกระตุ้นในการวิ่งได้แล้ว ยังสามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ รวมถึง GPS, ระยะทาง, ความเร็ว, เวลา ในการวิ่งต่างๆ สรุปผลออกมาให้ดูเข้าใจง่ายภายในแอพพลิเคชั่น เพื่อนำไปปรับปรุงการวิ่งของเราให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์ส่วนตัวที่จะคอยเตือนและแนะนำในขณะวิ่งได้ สำหรับราคา 7,990 บาท อาจจะสูงไปหน่อย แต่ถ้าใครที่ไม่อยากพกสมาร์ทโฟนตอนออกวิ่ง และต้องการเก็บสถิติต่างๆ พร้อมกับวัดอัตราการเต้นของหัวใจภายในตัว Smart B-Trainer ก็ถือว่าคุ้มค่า
จุดเด่น
- น้ำหนักเบา ไม่เกะกะรำคาญตอนวิ่ง
- มีเทรนเนอร์ส่วนตัว
- มี GPS และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจในตัว
- กันเหงื่อและกันน้ำ
- ใช้งานออกกำลังกายและฟังเพลงได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน
จุดด้อย
- เซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นหัวใจจะหลุดบ่อย ตรวจจับไม่เจอ หากปรับไม่กระชับให้พอดี
- GPS ตรวจจับได้ไม่เร็วนัก
- ไม่รองรับการวิ่งบนลู่ ใช้การคำนวณระยะทางจาก GPS เท่านั้น
- ดูข้อมูลสถิติต่างๆ ได้จากแค่ในแอพพลิเคชั่นเท่านั้น ไม่สามารถดูผ่านเว็บไซต์ได้