ไม่กี่วันหลังการวางจำหน่ายของ Call of Duty: Modern Warfare ผู้เล่นหลายคนออกมาแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการนำเสนอภาพของทหารรัสเซียในเกม โดยสิ่งที่ชัดที่สุดของความไม่พอใจนี้คือการนัดกัน “บอมบ์รีวิว” (ช่วยกันรุมรีวิวเกมในเชิงลบ) บนเว็บไซต์ Metacritic ทำให้คะแนนฝั่ง user บนเว็บเหลือเพียง 2.4/10 ผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นบางคนถึงกับกล่าวหาทาง Infinity Ward ว่าพยายามเบี่ยงเบนเหตุการณ์จริงทางประวัติศาสตร์ในตะวันออกกลางให้รัสเซียโดนด่าแทน ทั้งๆ ที่ความจริงเป็นความผิดของสหรัฐและกลุ่มประเทศตะวันตก
“ขยะน่ารังเกียจที่มีแต่ความเกลียดกลัวรัสเซีย สร้างขึ้นมาเพื่อสิ่งเดียวเท่านั้น – เป็นโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัสเซีย ซึ่งตอนนี้ก็มีเต็มไปหมดตามหน้าสื่อ ‘อิสระ’ ตามคำสั่งของเจ้านายที่อยู่กรุงวอชิงตัน 0/10” หนึ่งในผู้รีวิวบน Metacritic เขียนไว้
“ถึง Activition อาการเกลียดกลัวรัสเซีย เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมเลย มันไม่มีสิ่งที่เรียกว่าพื้นที่สีเทาทางศีลธรรมในเกมนี้เลย มีแต่รัสเซียเลว กับอเมริกันดี ช่วยแสดงภาพอาชญากรรมสงครามตั้งหลายร้อยครั้งของชาวอเมริกันต่อสายตาชาวโลกในเกมถัดไปด้วยสิ?” อีกหนึ่งนักรีวิวเขียนไว้
ส่วนของพล็อตของเกมนี้ เป็นการกล่าวโทษกองทัพรัสเซียที่ก่อความอยุติธรรมและอาชญากรรมสงครามจำนวนมากที่ปรากฎในเกม มีทั้งทหารรัสเซียธรรมดาและสเปซนาซ (หน่วยรบพิเศษรัสเซีย) ทำงานรับใช้ตัวร้ายของเกม นายพลโรมาน บาร์คอฟ โดยหนึ่งในภารกิจสะเทือนอารมณ์ของเกม เป็นเหตุการณ์ทหารรัสเซียใต้บัญชาของบาร์คอฟ บุกเข้าบ้านของ ฟาราห์ คารีม ตัวเอกของเกมสมัยที่เธอยังเป็นเด็ก ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างที่รัสเซียกำลังโจมตีหมู่บ้านของเธอด้วยอาวุธเคมี ฟาราห์และน้องชายจึงเข้าจับทหารรัสเซียและทำร้ายเขาด้วยไขควง ก่อนใช้ไรเฟิลปลิดชีวิตทหารคนนั้น เป็นฉากที่รุนแรง และเป็นฉากที่ทหารรัสเซียดูตลกอย่างแปลกๆ ด้วย
“เป็นความผิดผมเอง” โจเอล เอมสลีย์ ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ของ Infinity Ward กล่าว “ผมรับผิดชอบในส่วนของภาพลักษณ์ตัวละคร แต่ผมก็ทำเพื่อให้มันเป็นศิลปะนะ… เราพยายามสร้างประสบการณ์แบบภาพยนตร์ ผมอยากจะสร้างบางอย่างที่น่าจดจำ และคิดเชิงอุปมาอุปมัยว่าเด็กๆ พวกนี้กำลังถูกปีศาจไล่จับในเขาวงกต ผมเลยคิดถึง ตัวมิโนทอร์ มันตลกดี – แต่เขาก็เกือบจะเหมือนหุ่นยนต์เลย”
อีกฉากหนึ่งที่นักรีวิวต้องงงกัน มาจากองก์ที่ 2 ภารกิจที่ชื่อว่า Highway of Death ในฉากนี้ผู้เล่นต้องรับบทเป็นเจ้าหน้าที่ CIA ที่เข้ามาร่วมกับกองกำลังติดอาวุธในตะวันออกกลางในประเทศสมมติที่ชื่อ “อูร์ซีคสถาน”ผู้เล่นต้องตั้งรับที่แนวป้องกันบริเวณหมู่บ้านร้าง โดยฟาราห์จะเล่าเรื่องว่า Highway of Death มาจากการที่รัสเซียโจมตีใส่บริเวณนี้หลายสิบปีก่อน สังหารหมู่คนที่พยายามหลบหนีออกจากเมืองที่ถูกปิดล้อม แต่ทางนักรีวิวบน Metacritic และที่อื่นๆ ระบุว่า Highway of Death “ในโลกความจริง” เป็นสิ่งที่เกิดจากน้ำมือของกองกำลังพันธมิตรตะวันตกและสหรัฐอเมริกาในอิรัก (สงครามอ่าวครั้งที่ 2) แน่นอน เกมนี้เป็นเรื่องแต่ง แต่ในเกมที่เล่าผ่านการเล่นแบบ single player ผู้เล่นจะต้องเป็นพันธมิตรกับกองทัพรัสเซียในตอนท้าย แม้แต่ที่งาน E3 ทีมพัฒนาเองก็ย้ำว่า สิ่งสำคัญคือการแสดงให้เห็นว่าทหารจากทุกประเทศนั้นไม่ต่างกัน
“สิ่งที่พวกคุณเห็น คือส่วนหนึ่งของนายพลเลวๆ ที่เป็นแบบเดียวกับผู้พันเคิร์ซในหนัง Apocalypse Now” คุณเจคอบ มินคอฟ ผู้กำกับผู้ออกแบบการเล่นคนเดียว กล่าวในการสัมภาษณ์ที่ E3 “สุดท้ายแล้วกองกำลังตะวันตกก็ร่วมมือกับรัสเซียเพื่อจัดการเขา เพราะเขาเป็นตัวปัญหา … CIA กับ FSB (หน่วยข่าวกรองรัสเซีย) จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคาม นี่คือส่วนหนึ่งของเกมที่เราต้องเป็นพันธมิตรแบบไม่สนิทใจกับรัสเซีย และต้องทำงานกับชาวรัสเซีย ไปจนถึงกองบัญชาการข่าวกรองของรัสเซียเลย”
แต่การเล่าเรื่องเช่นนี้ ก็ไม่ได้หยุดยั้งความไม่พอใจจากการที่เกมนำเสนอภาพของทหารรัสเซียเช่นนี้ได้เลย
“เกมห่วยที่สุดของปี ดีนะขอเงินคืนแล้ว รัสเซียน่ะเป็นตัวร้ายของ CoD มาหลายภาค แต่คราวนี้มันเกิดไป” หนึ่งในนักรีวิวคอมเม้นต์
Call of Duty: Modern Warfare วางจำหน่ายแล้วบน PS4, PC และ Xbox One ในรัสเซีย Sony จะไม่ขายเกมนี้ผ่านร้านค้าออนไลน์ (ประกาศไว้เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม) ไม่กี่วันก่อนที่เกมวางจำหน่ายในรัสเซีย และขณะนี้ บัญชี Twitter ทางการของ Call of Duty ประจำรัสเซีย ได้ออกมาย้ำอีกว่า เกมนี้เป็นเพียงเรื่องสมมติเท่านั้น
ที่มา Polygon