วันนี้ (25 กรกฎาคม) คุณ สิทธิโชค นพชินบุตร CMO (รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร) กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ dtac หลังเข้ารับตำแหน่งมาแล้ว 50 วัน ได้มาเล่าเรื่องราวการทำงานพร้อมพูดคุยเปิดใจ กับภารกิจที่ท้าทายนั่นคือ การนำพาดีแทคให้ขึ้นเป็นอันดับ 1 แบรนด์ดิจิทัลของประเทศไทย ทั้งด้านโครงข่ายและงานบริการ ตอบสนองตามพฤติกรรมของลูกค้าส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนมาใช้งานด้านดาต้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
คุณสิทธิโชค กล่าวว่า “ปัจจุบันการใช้โมบายล์อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่ การใช้ดาต้าผ่านโมบายล์ อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คนไทยเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถอยู่ได้ หากไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การใช้ดาต้าในปริมาณที่มากขึ้นขณะที่การใช้งานโทรด้วยเสียงลดลง ถือเป็นโอกาสที่ดีแทคสามารถใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านพฤติกรรมการเสพคอนเทนท์ออนไลน์ ดังนั้นดีแทค จะต้องปรับกลยุทธ์และช่องทางการสื่อสารให้ทันและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้”
ในไตรมาส 2 ปี 2559 ดีแทคมีสัดส่วนผู้ใช้บริการด้านเสียงลดลง ในขณะที่ใช้บริการข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น 60% ของฐานลูกค้ารวมจากเดิมอยู่ที่ 58% ในไตรมาส 1 ปี 2559 รวมทั้งสัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 65% ของฐานลูกค้ารวมโดยมีปัจจัยจากกระแสความนิยมใช้เทคโนโลยี 4G ของผู้บริโภค ข้อเสนอแพ็กเกจที่คุ้มค่าของบริษัท และประสบการใช้งานที่ดียิ่งขึ้นจากการขยายโครงข่าย 4G บริษัทมีจำนวนผู้ใช้บริการ 4G จำนวน 3.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นจาก 2.9 ล้านเลขหมายในไตรมาสที่แล้ว
ตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้า 4G ให้เป็น 6 ล้านเลขหมายภายในสิ้นปี 2016
คุณสิทธิโชค กล่าวว่า “ตอนนี้ในดีแทคทุกคนต่างเข้าใจเป้าหมายร่วมกันที่จะก้าวไปสู่การเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย ในฐานะที่ผมเข้ามาดูแลรับผิดชอบเรื่องการตลาดซึ่งมีบทบาทสำคัญที่จะนำพาองค์กรไปให้บรรลุความปรารถนาอย่างแรงกล้าในข้อนี้ให้ได้ ผมตั้งใจที่จะพัฒนาดีแทคใน 3 เรื่อง คือ
การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และวัฒนธรรมการทำงานที่สะท้อนความเป็นองค์กรดิจิทัล
ในส่วนของการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และคุณลักษณะของพนักงาน เราได้กำหนด DNA ของคนทำงานหลังมีการปรับโครงสร้างองค์กร ที่มีผู้บริหารเลือดใหม่ และพนักงานสายพันธุ์ดิจิทัล เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบของการแหกกฎเดิมๆ ที่มีอยู่เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า (Be a Disruptor) ภายใต้พื้นฐานของความซื่อสัตย์ และจริยธรรม ซึงต้องมีองค์ประกอบ 4 อย่างคือ
- ความหาญกล้าในการลงมือทำงานและตัดสินใจ (Be daring)
- มีความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น (Think differently)
- ลงมือทำอย่างรวดเร็ว (Act Fast)
- มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ (Passion to Win)
ซึ่งทั้งหมดนี้ เราต้องการให้พนักงานทุกคนของ dtac มีเป้าหมายเดียวกันคือ “ทำเพื่อลูกค้า”
นำเสนอบริการดิจิทัลอย่างต่อเนื่องให้ตรงกับความต้องการทุกเซ็กเม้นท์ของตลาด
dtac จะโฟกัสไปที่การนำเสนอบริการดิจิทัล รวมทั้งเน้นจุดยืนในการนำเสนอความคุ้มค่าให้กับลูกค้าและพัฒนาประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยบริการดิจิทัล เช่น บริการ dtac Music Infinite บริการดีแทคแอปพลิเคชั่น และบริการดิจิทัลใหม่ที่จะนำเสนออย่างต่อเนื่อง
พัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในระดับในประเทศและพันธมิตรระดับโลก
ทาง dtac จะเน้นไปที่ความร่วมมือในการคัดสรรค์บริการดิจิทัล มิวสิค วีดีโอสตรีมมิ่ง ที่ให้ความรู้ ความบันเทิง ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำด้านเกมต่างๆที่จะทยอยให้บริการในปีนี้ต่อไป รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรผู้จัดจำหน่าย ในการกระจายสินค้าและบริการให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย
ต่อจากนี้ ดีแทค เราจะมุ่งเน้นไปที่การเป็นพัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์และโครงข่ายให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย
บริษัทจะสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคด้วยการพัฒนาโครงข่ายให้ดียิ่งขึ้น จากผลการวิจัยพบว่า ลูกค้ามีความพึงพอใจในการใช้งานดีขึ้น จาก NPS สกอร์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งคุณภาพโครงข่ายและการให้บริการ แต่ยังมีในบางส่วนที่เราต้องจริงจังกับการแก้ไขปัญหาการใช้งานในบางพื้นที่ หลังจากบริษัทเปิดให้บริการโครงข่าย 4G ในทุกจังหวัดในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้ว รวมทั้งให้บริการ 4G 1800 MHz ด้วยปริมาณคลื่นความถี่เต็ม 20 MHz ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล บริษัทจะพัฒนาโครงข่าย 4G 2.1 GHz ในทุกอำเภอทั่วประเทศภายในไตรมาส 3 ปีนี้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพต่อเนื่อง และโครงข่ายมีความสามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่กำลังเติบโตได้
นอกจากนี้คุณสิทธิโชค ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมว่า ดีแทค ยังดีได้อีก หลังจากที่ได้ลงไปสำรวจตลาดและฟังความเห็นจากลูกค้า เราก็รู้ได้ว่ายังมีลูกค้าที่รักดีแทคอีกมาก ที่ผ่านมาอาจจะมีบางเรื่องที่ทำให้พวกเขาน้อยใจไปบ้าง ต่อจากนี้เราจะพยายามทำตัวเราให้เป็นตัวเรา และทำให้ความสัมพันธ์กับลูกค้าแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิม”
