ปัญหาดราม่าใหญ่โตล่าสุดของ Apple ก็คือการที่ลดความเร็วของ iPhone ที่แบตเตอรีเสื่อมโดยไม่บอกผู้ใช้งาน ทำให้หลายคนคิดว่าเครื่องเก่าและต้องซื้อใหม่ทั้งที่ความจริงแล้วแค่เปลี่ยนแบตเตอรีก็พอ
ในจดหมายประกาศอย่างเป็นทางการของ Apple ระบุเอาไว้ว่าแบตเตอรีทั้งหมดในปัจจุบัน (ไม่จำกัดแค่ Apple เท่านั้น) ล้วนมีการเสื่อมไปตามกาลเวลา โดยเป็นผลจากปฏิกริยาสารเคมี ทำให้การสะสมประจุพลังงานไม่ดีเท่าตอนที่ซื้อไปใหม่ๆ
ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อนตอนที่ Apple เปิดตัว iPhone รุ่นแรกบนเวทีปี 2007 สิ่งที่ถูกวิจารณ์มากก็คือการที่มันถอดเปลี่ยนแบตเตอรีเองไม่ได้ ซึ่ง Greg Joswiak รองประธานฝ่ายการตลาดได้ให้สัมภาษณ์กับทาง MacWorld ว่า “สิ่งที่ผู้ใช้งาน iPhone จะพบนั้นไม่ต่างจากผู้ใช้งาน iPod เคยเจอมาก่อน คือเจ้าของ iPhone ไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี ทำให้มันถูกดีไซน์ให้เปลี่ยนเองไม่ได้”
แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกว่า iPhone จะมีแบตเตอรีที่ไม่มีวันเสื่อมสภาพ แต่หลายๆ คนก็ติดภาพว่าแบตเตอรีของ Apple นั้นทนทานและใช้งานได้ยาวนาน อีกทั้งไม่ใช่สาเหตุของการที่เครื่องช้าลงด้วย
งานนี้ทาง Apple ก็ถูกฟ้องโดยกลุ่มผู้ใช้งานไอโฟนในสหรัฐหลายชุดแล้ว ทาง Apple บอกว่าในปี 2018 จะออกอัพเดทที่ทำให้ผู้ใช้งานตรวจได้ว่าแบตเตอรีถึงเวลาเปลี่ยนใหม่แล้วหรือยัง และลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรีจาก $79 เหลือเพียง $29 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ส่วนบ้านเราค่าเปลี่ยนแบตเตอรีแพงไม่น้อยอยู๋ที่ 3,900 บาท ไม่รู้ว่าจะลดลงไปเหลือเท่าไหร่
สวัสดีเรามาจากโลกอนาคต อีกสิบปีข้างหน้า Apple จะโดนฟ้องเพราะเรื่องแบตเตอรีที่อวดว่าไม่ต้องเปลี่ยนนี่แหละเธอว์
ที่มา – Phone Arena