ในงานแถลงผลประกอบการณ์ไตรมาสล่าสุดของ Qualcomm เผยว่าตอนแรกคิดว่าปีหน้าจะได้ส่งโมเดมให้ Apple เพียง 20% ของจำนวน iPhone ทั้งหมดเท่านั้น
เมื่อตอนที่ Apple ประกาศยุติคดีความกับ Qualcomm ทั้งหมดและประกาศว่าจะใช้ชิปโมเดมของ Qualcomm ใน iPhone ก็ระบุว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวจะเป็นแบบ 2 + 4 ปี คือจะใช้แน่ๆ สองปี และหลังจากนั้นอาจจะเปลี่ยนไปเป็นชิปโมเดม 5G ของตัวเอง แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ก็จะหันมาใช้ของ Qualcomm ต่อ โดยทั้งหมดคาดว่าไม่เกิน 6 ปีจะเปลี่ยนไปใช้โมเดมของตัวเองทั้งหมด
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีข่าวเรื่องโมเดม 5G ของ Apple ประสบปัญหาในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความร้อนที่สูงเกินไป และพลังงานที่บริโภคมากจนอายุการใช้งานไม่ยาวนานเท่าที่ควร ทำให้มีข่าวว่า Apple จะไม่เปลี่ยนไปใช้โมเดมของตัวเองในปีนี้ (2022) หรือปีหน้า (2023) ทำให้อย่างเร็วที่สุดที่เราจะได้เห็นการใช้งานคือปี 2024 และอาจจะอยู่ใน iPad ก่อนจะมาใช้งานจริงบน iPhone 16
แน่นอนว่า Apple ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเรื่องข่าวลือนี้ แต่ข่าวนี้กลับถูกคอนเฟิร์มผ่าน Qualcomm ว่าปีหน้า Apple จะยังคงเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อโมเดม 5G จากตนต่อไป และคาดว่าในปี 2025 ซึ่งเป็นปีที่ iPhone ทั้งหมดเปลี่ยนไปใช้โมเดมของ Apple เอง รายได้ที่เกิดจาก Apple จะลดลงอย่างมาก
ที่มา – Yahoo!