1. เป็นสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ที่มีตัวเลือกหลากหลายถึง 4 รุ่น
Redmi Note 13 Series มีให้เลือกถึง 4 รุ่นตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่อย่าง Redmi Note 13 Pro+ 5G, รุ่นกลาง Redmi Note 13 Pro 5G, Redmi Note 13 5G และรุ่นเล็กอย่าง Redmi Note 13 โดยแต่ละรุ่นก็จะมีสเปกที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยรวมแล้วทั้ง 4 รุ่นจะมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยงามทันสมัย ใช้งานสะดวก หากต้องการสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพสูง เล่นเกมหนักๆ ก็อาจจะเลือกเป็น Redmi Note 13 Pro+ 5G หรือ Redmi Note 13 Pro 5G ที่มาพร้อมชิปเซ็ตที่เร็ว แรง กล้องถ่ายภาพสวย แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จเร็วทันใจสูงสุดถึง 120 วัตต์
แต่หากต้องการสมาร์ทโฟนที่เน้นใช้งานทั่วไป เล่นเกมนิดๆ หน่อยๆ ก็มีให้เลือกอีก 2 รุ่นคือ Redmi Note 13 5G ที่รองรับการใช้งานบนเครือข่าย 5G และ Redmi Note 13 ที่รองรับเครือข่าย 4G มีราคาย่อมเยากว่า และแน่นอนว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ก็มีดีไซน์สวยงามไม่แพ้กัน สามารถเลือกได้ตามความต้องการ
2. กล้องถ่ายภาพสวย คมชัดทุกระยะ ความละเอียดสูงสุดถึง 200 ล้านพิกเซล
ในด้านการถ่ายภาพเป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเลยสำหรับรุ่นนี้ โดยกล้องของ Redmi 13 Pro+ 5G และ Redmi 13 Pro 5G มีมาให้เลือกใช้ครบทุกระยะถึง 3 เลนส์ โดยกล้องเลนส์หลักมีความละเอียดสูงสุดถึง 200 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์รับภาพ Samsung ISOCELL HP3, กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS ที่เหมาะกับการถ่ายวิดีโอที่มีความละเอียดสูงถึง 4K
สำหรับ Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 ทั้ง 2 รุ่นมีสเปกกล้องที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้องเลนส์หลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล, กล้องเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้คมชัดทุกระยะ เรียกได้ว่ากล้องของทั้ง 4 รุ่นนั้นถ่ายภาพได้คมชัดสวยงาม สีสันสดใส เก็บความสว่างได้คมชัดแม้ในที่แสงน้อย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง
3. สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 Series ที่มีดีไซน์สวยทุกรุ่น
สมาร์ทโฟน Redmi Note 13 Series ถือเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่มีดีไซน์สวยงามทั้ง 4 รุ่น โดยแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป สำหรับรุ่นแรกที่ออกแบบได้สวยงามน่าประทับใจมากๆ นั่นก็คือ Redmi Note 13 Pro+ 5G ดีไซน์ด้านหน้าของรุ่นนี้มีเป็นจอแบบโค้ง พร้อมฝาหลังที่เป็นดีไซน์โค้งเช่นกัน เมื่อถือในอุ้งมือความโค้งจะรับกับอุ้งมือพอดี ทำให้จับถือได้ถนัดมากยิ่งขึ้น มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Moonlight White, Aurora Purple และ Mystic Silver
Redmi Note 13 Pro 5G มีความโดดเด่นที่โมดูลกล้อง โดยเฉพาะในรุ่นสี Aurora Purple ที่ใช้โทนสีแบบพาสเทล 3 สี แบบไม่เหมือนใคร ขอบตัวเครื่องดีไซน์แบบเหลี่ยมที่สามารถจับถือได้ถนัดเช่นเดียวกัน ด้านหลังดีไซน์แบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือ มีให้เลือก 3 สี Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple
Redmi Note 13 และ Redmi Note 13 5G มาในดีไซน์แบบเหลี่ยม โดยด้านหลังของ Redmi Note 13 ที่ด้านหลังจะมีดีไซน์แบบเรียบกว่า แต่ Redmi Note 13 5G ที่โมดูลกล้องจะมีกรอบที่เลนส์กล้องแต่ละเลนส์ ทำให้ดูเป็นสัดส่วนเป็นระเบียบจัดเรียงสวยงาม โดยฝาหลังของทั้ง 2 รุ่นยังเป็นพื้นผิวแบบด้าน ไม่ติดรอยนิ้วมือง่ายอีกด้วย
4. จัดเต็มสเปกเร็ว แรง พร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED 6.7 นิ้ว และชาร์จเร็วทุกรุ่น
จัดเต็มความแรงกับสเปกของ Redmi Note 13 Pro+ 5G หน้าจอแสดงผลความละเอียด 1.5K CrystalRes AMOLED 6.67 นิ้ว 120 Hz ชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 7200-Ultra สถาปัตยกรรมการผลิต 4 นาโนเมตร รองรับการใช้งาน เล่นเกม 3D แบบหนักๆ ได้สบาย มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ให้เลือกสูงสุดถึง 512GB กล้อง ISOCELL HP3 ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh พร้อมอแดปเตอร์ชาร์จเร็วสูงสุดถึง 120 วัตต์ จัดว่าเป็นที่สุดของสมาร์ทโฟนซีรี่ย์นี้เลยก็ว่าได้
ต่อกันด้วย Redmi Note 13 Pro 5G หน้าจอแสดงผล AMOLED 6.67 นิ้ว 120 Hz ความละเอียด 1.5K จัดเต็มความเร็วไม่แพ้กันด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 7s Gen 2 มีหน่วยความจำขนาดใหญ่ให้เลือกสูงสุดถึง 512GB กล้อง ISOCELL HP3 ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5100 mAh พร้อมอแดปเตอร์ชาร์จเร็วสูงสุด 67 วัตต์
Redmi Note 13 5G และ Redmi Note 13 มาพร้อมจอแสดงผล FHD+ AMOLED 6.67 นิ้ว 120 Hz กล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 108 พิกเซล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh พร้อมอแดปเตอร์ชาร์จเร็วสูงสุด 33 วัตต์ โดย Redmi Note 13 5G ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 6080 หน่วยความจำมีให้เลือกสูงสุด 12GB+512GB ส่วน Redmi Note 13 ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 685 ที่ให้ความเร็วแรงไม่แพ้กัน หน่วยความจำ 8GB+256GB
5. ตอบโจทย์ความคุ้มค่า ในราคาเบาๆ
นอกจากสเปกที่เร็ว แรง ใช้งานลื่นไหลแล้ว ยังมาพร้อมราคาที่สบายกระเป๋า สเปกที่จัดเต็มคุ้มค่าคุ้มราคา โดยทั้ง 4 รุ่นมีราคาดังนี้
- Redmi Note 13 Pro+ 5G มีให้เลือก 2 รุ่น
- รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท
- รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท
- Redmi Note 13 Pro 5G
- รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท
- Redmi Note 13 5G มีให้เลือก 2 รุ่น
- รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท
- รุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท
- Redmi Note 13
- รุ่นความจุ 8GB+256GB วางจำหน่ายในราคา 6,999 บาท