หลังจากกรณีที่ทางบริษัท แจส โมบาย บรอดแบรนด์ จำกัด (JAS) ที่ชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ซึ่งจัดโดยสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไม่ดำเนินการชำระค่าประมูลงวดแรกภายในเวลา 90 วันตามข้อกำหนด วันนี้ได้มีประกาศเกี่ยวกับการประมูลครั้งใหม่ออกมาแล้ว
โดยจะตัดสิทธิ์ไม่ให้ทาง JAS เข้าร่วมประมูลครั้งใหม่ แต่อนุญาตให้ True ซึ่งชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่น 900 MHz อีกชุดไปแล้วร่วมประมูลครั้งใหม่นี้ได้ ราคาการประมูลจะเริ่มต้นที่ 75,654 ล้านบาท เท่ากับราคาสุดท้ายที่ประมูลไว้ในครั้งก่อน โดยครั้งนี้การประมูลจะประกาศชื่อผู้ชนะลำดับที่ 1 และ 2 หากผู้ชนะลำดับที่ 1 ไม่มาชำระจะให้สิทธิกับผู้ชนะลำดับที่ 2 แทน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (31 มี.ค. 2559) ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ได้อนุมัติกรอบเวลาในการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ ดังนี้
- วันที่ 5-28 เม.ย. 2559 เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 895-905 MHz/940-950 MHz (หรือ ร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz)
- วันที่ 22 เม.ย. 2559 จัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะต่อร่างประกาศดังกล่าว
- วันที่ 12 พ.ค. 2559 ร่างประกาศฯ จะถูกส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- วันที่ 13 พ.ค.-12 มิ.ย. 2559 ประกาศเชิญชวนเข้าร่วมการประมูล
- วันที่ 13 มิ.ย. 2559 ยื่นคำขอเข้าร่วมการประมูล
- วันที่ 24 มิ.ย. 2559 วันประมูล
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุม กทค. ยังได้อนุมัติร่างหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล ร่างประกาศฉบับนี้ตัดสิทธิ์ผู้ที่ไม่มาชำระเงินค่าประมูลจากการประมูลครั้งที่แล้ว
- ราคาเริ่มต้นการประมูลอยู่ที่ 75,654 ล้านบาท ซึ่งราคาเริ่มต้นนี้เป็นราคาที่ผู้ชนะการประมูลครั้งที่แล้วเสนอ เนื่องจากสำนักงาน กสทช. เป็นหน่วยงานของรัฐ ต้องรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นหลัก
- การวางเงินหลักประกันคิดเป็น 5% ของราคาเริ่มต้นการประมูล 75,654 ล้านบาท ซึ่งจะเท่ากับ 3,783 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์การประมูลครั้งที่แล้ว
- งวดการจ่ายเงินค่าประมูล แบ่งออกเป็น 4 งวด ตามหลักเกณฑ์การประมูลครั้งที่แล้ว คือ งวดแรก 8,040 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีส่วนที่เหลือ งวดที่สอง 4,020 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีส่วนที่เหลือ งวดที่สาม 4,020 ล้านบาท พร้อมแบงก์การันตีส่วนที่เหลือ และงวดสุดท้ายจ่ายที่เหลือทั้งหมด
- กรณีความรับผิด หากผู้ชนะการประมูลไม่มาชำระเงิน นอกจากจะยึดหลักประกัน 3,783 ล้านบาทแล้ว สำนักงาน กสทช. จะเรียกค่ารับผิดเพิ่มอีก 11,348 ล้านบาท รวมเป็น 15,131 ล้านบาท หรือคิดเป็น 20% ของราคาตั้งต้นการประมูล นอกจากนี้หากมีความเสียหายเพิ่มเติมมากกว่านี้ สำนักงาน กสทช. จะมีการเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมในส่วนนี้อีก
- ร่างหลักเกณฑ์การประมูลฉบับนี้ เป็นร่างที่ใช้เฉพาะการประมูลในครั้งนี้เท่านั้น จึงเสนอเงื่อนไขกรณีมีผู้ประมูลรายเดียว แต่มีการเคาะยืนยันราคา 75,654 ล้านบาท ก็ให้ถือว่าเป็นผู้ชนะการประมูล
- การประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล จะประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 หากผู้ชนะการประมูลรายที่ 1 ไม่มาชำระเงินค่าประมูล สำนักงาน กสทช. จะเรียกผู้ชนะการประมูลลำดับที่ 2 มาชำระเงินประมูล และเป็นผู้ชนะแทนได้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และกรณีที่มีผู้เสนอราคาเท่ากัน 2 ราย สำนักงาน กสทช. อาจมีการประกาศเพิ่มเติมให้มีการดำเนินการยื่นซองราคา เพื่อแข่งขันราคาเลยก็ได้
“การวางกรอบหลักเกณฑ์การประมูลทั้งหมดในครั้งนี้ สำนักงาน กสทช. คำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก” นายฐากร กล่าว
ข้อมูลจาก : @TakornNBTC