ปีที่แล้วดราม่ารับต้นปีคือเรื่องที่ Apple ลดความเร็วของ iPhone ที่แบตเตอรีเสื่อมลง แม้จะมีจุดประสงค์ดีคือทำให้เครื่องไม่ดับ แต่เมื่อผู้คนได้ยินว่ามือถือเก่าๆ โดนลดความเร็วก็ทำให้เกิดดราม่าเรื่องความโปร่งใสไม่น้อย
หมดโปรลดราคาเปลี่ยนแบต iPhone
เพื่อดับกระแสดราม่าครั้งนี้ Apple จึงประกาศโครงการลดราคาเปลี่ยนแบตเตอรีสำหรับ iPhone โดยราคาปกติอยู่ที่ $79 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงมาเหลือ $29 ดอลลาร์สหรัฐให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแบตเตอรีทำให้เครื่องกลับไปเร็วได้เหมือนเดิมอีกครั้งทำได้ง่ายขึ้น
ณ ตอนนี้โครงการสิ้นสุดไปแล้ว (ตอนแรกสิ้นสุด 31 ธันวาคม และได้รับการเลื่อนมาเป็นวันที่ 15 มกราคมต่ออายุให้อีกครึ่งเดือน) ข้อมูลเผยว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการเปลี่ยนแบตเตอรี iPhone มากถึง 11 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากปกติมีเพียง 1 – 2 ล้านเครื่องทั่วโลกเท่านั้น
จะว่าไปเรื่องนี้ก็ไม่น่าแปลกใจนัก เนื่องจากต้นปีที่แล้วหลังจาก Apple ประกาศลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี Apple Store และร้านตัวแทนซ่อมทั่วโลกก็ถูกผู้คนถล่มทลายเข้ามาเปลี่ยนแบตเตอรีกันจนระยะแรกแบตเตอรีมีไม่เพียงพอต่อความต้องการ
นอกจากนี้ Apple เองก็ยังโทษว่าโครงการเปลี่ยนแบตเตอรีนี้ทำให้ยอดขาย iPhone รุ่นใหม่น้อยลงด้วย โดยปรับลดความคาดหวังรายได้ลงถึง $5,000 ล้านดอลลลาร์สหรัฐด้วยกัน เนื่องจากแค่เปลี่ยนแบตเตอรีมือถือก็พร้อมจะใช้งานได้อีก 1 – 2 ปีเลยทีเดียว
แม้ว่าระยะลดราคาจะสิ้นสุดโครงการไปแล้ว แต่ Apple ก็แอบปรับราคาค่าบริการลงเงียบๆ โดยตอนนี้ถ้าหากเปลี่ยนแบตเตอรีมือถือที่หมดประกันไปแล้ว ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ $49 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น (ส่วนถ้าเป็นมือถือรุ่นใหม่อย่าง iPhone XS / XS Max / XR จะอยู่ที่ $69 ดอลลาร์สหรัฐ)
ที่มา – Business Insider