แหล่งข่าวในประเทศจีนได้เผยข้อมูลสเปกรวมถึงคาดการณ์ราคาและวันวางจำหน่ายของ iPhone 11 Series ที่จะมาด้วยกันถึง 3 รุ่นออกมาแล้วครับ
ลือสเปก iPhone 11
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล (326 ppi)
- ขอบข้างตัวเครื่องทำจาก Aluminum Series 700
- รองรับระบบสแกนใบหน้า 3 มิติหรือ Face ID
- CPU : Apple A13
- RAM : 4 GB
- ROM : 64 GB / 128 GB / 256 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 12 MP
- กล้องหลังคู่ความละเอียด 12 MP (Wide) + 12 MP (Tele)
- แบตเตอรี่ขนาด 3,110 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18 W (แถมมาให้ในกล่อง)
- รองรับระบบชาร์จไร้สาย แถมยังสามารถปล่อยไฟชาร์จไร้สายให้เครื่องอื่นได้ด้วย (Reverse Wireless Charging)
- มีให้เลือกถึง 6 สี ได้แก่ สีเขียว, สีม่วง, สีดำ, สีขาว, สีเหลือง และ สีแดง
- ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Lightning อยู่
- รองรับ Wi-Fi 6
- ไม่รองรับเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง 5G
- ไม่มี 3D Touch
- ไม่รองรับ Apple Pencil รุ่นใหม่
ลือสเปก iPhone 11 Pro
- หน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล (458 ppi)
- รองรับระบบสแกนใบหน้า 3 มิติหรือ Face ID
- CPU : Apple A13
- RAM : 6 GB
- ROM : 128 GB / 256 GB / 512 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 12 MP
- กล้องหลัง Triple Camera สามเลนส์
- ความละเอียด 12 MP (Wide)
- ความละเอียด 12 MP (Ultra-Wide)
- ความละเอียด 12 MP (Tele)
- แบตเตอรี่ขนาด 3,190 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18 W (แถมมาให้ในกล่อง)
- รองรับระบบชาร์จไร้สาย แถมยังสามารถปล่อยไฟชาร์จไร้สายให้เครื่องอื่นได้ด้วย (Reverse Wireless Charging)
- มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีเงิน และ สีทอง
- ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Lightning อยู่
- รองรับ Wi-Fi 6
- ไม่รองรับเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง 5G
- ไม่มี 3D Touch
- รองรับ Apple Pencil รุ่นใหม่
ลือสเปก iPhone 11 Pro Max
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2688 x 1242 พิกเซล (458 ppi)
- ขอบข้างตัวเครื่องผลิตด้วย Stainless Steel ขัดเงาแข็งแรงทนทานหรูหรา
- รองรับระบบสแกนใบหน้า 3 มิติหรือ Face ID
- CPU : Apple A13
- RAM : 6 GB
- ROM : 128 GB / 256 GB / 512 GB
- กล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 12 MP
- กล้องหลัง Triple Camera สามเลนส์
- ความละเอียด 12 MP (Wide)
- ความละเอียด 12 MP (Ultra-Wide)
- ความละเอียด 12 MP (Tele)
- แบตเตอรี่ขนาด 3,500 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 18 W (แถมมาให้ในกล่อง)
- รองรับระบบชาร์จไร้สาย แถมยังสามารถปล่อยไฟชาร์จไร้สายให้เครื่องอื่นได้ด้วย (Reverse Wireless Charging)
- มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีเงิน และ สีทอง
- ยังคงใช้พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Lightning อยู่
- รองรับ Wi-Fi 6
- ไม่รองรับเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง 5G
- ไม่มี 3D Touch
- รองรับ Apple Pencil รุ่นใหม่
ลือเรื่องราคาและวันวางจำหน่าย
- iPhone 11 จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 749 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 22,900 บาท
- iPhone 11 Pro จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 999 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 30,500 บาท
- iPhone 11 Pro Max จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,099 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 33,500 บาท
- โดยราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษีในแต่ละรัฐ
- คาดว่าจะเปิดให้พรีออเดอร์วันที่ 13 กันยายน 2562
- และจะวางจำหน่ายในกลุ่มประเทศแรกอย่างเป็นทางการวันที่ 20 กันยายน 2562
อย่างไรก็ตาม อีกราว ๆ หนึ่งสัปดาห์ต่อจากนี้เราก็จะได้ทราบข้อมูลสเปกรวมถึงราคาที่แท้จริงของเจ้าไอโฟนรุ่นใหม่กันแล้ว ซึ่งถ้าหากทางเว็บไซต์เรามีข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมของเรื่องนี้แล้ว จะรีบมาอัพเดตให้ทราบแน่นอน
ที่มา : GSMArena