Apple ออกมาแถลงเผยว่าจากเดิมที่ประเมินรายได้ไตรมาสล่าสุดที่ $89,000 – $93,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นน่าจะไม่ถึงตามเป้าที่วางไว้ โดยลดลงมาเหลือ $84,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐแทน

เหตุผลที่ทำให้ยอดขาย iPhone ตกต่ำจนต้องลดรายได้ประเมินลงมีด้วยกันหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นเป็นเพราะว่าแค่เปลี่ยนแบตเตอรีก็ทำให้เครื่องเก่าๆ เร็วขึ้นได้ และปีที่แล้วลดราคาค่าเปลี่ยนแบตเตอรี คนจึงเลือกที่จะเปลี่ยนแบตเตอรีมากกว่าซื้อใหม่
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องกำแพงภาษีจีน และปัญหาการเมืองสหรัฐ (ล่าสุดเพิ่งฝากแคนาดาจับตัว CFO ของ Huawei ไป) ทำให้เกิดการต่อต้านสหรัฐในประเทศจีน ทำให้ยอดขายในจีนลดลงไปอีก และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้น ทำให้เมื่อแปลงรายได้กลับมาเป็นดอลลาร์สหรัฐแล้วลดลงไปจากเดิม เรื่องสุดท้ายคือเศรษฐกิจที่แย่ลง โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะเก็บเงินมากกว่านำมาซื้อของ
อย่างไรก็ตามนอกจาก iPhone แล้วอุปกรณ์อื่นๆ ยังเติบโตได้ดี ทาง Apple ประเมินว่ายอดขายอย่างอื่นเติบโตขึ้นราวๆ 19% ในไตรมาสที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาอัจฉริยะ บริการต่างๆ (iCloud, Apple Music, iTunes, App Store) ยังทำรายได้มหาศาลเช่นเดิม
