Apple เปิดตัว Mac Pro บนเวทีงาน WWDC ที่ผ่านมา หลังจากควรจะประกาศอัพเกรดมาหลายปีแล้ว (รุ่นล่าสุดเปิดตัวปี 2013) เพื่อให้งานสายโปรตัดต่อวิดิโอ หรือทำเพลงสามารถทำงานได้โดยสะดวก
ข่าวลือเดิมนั้นระบุว่า Apple จะเปิดตัว Mac Pro ในปี 2018 แต่ทว่าเกิดความล่าช้าและปัญหาในการพัฒนา ทำให้เลื่อนมาเรื่อยๆ จนถึงงาน WWDC นี้เอง โดยหน้าตาคล้ายกับ Mac Pro รุ่นเก่า แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้าที่หลายคนแซวว่าหน้าตาเหมือนถังขยะเคลื่อนที่ (และไม่มีการอัพเกรดอีกเลยตลอดอายุการจำหน่าย)
สำหรับ Mac Pro ตัวปัจจุบันก็ถูกคนแซวว่าเป็นที่ขูดชีส (Cheese Grater) ออกแบบมาให้ถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนเพื่ออัพเกรดได้ โดยตัวเคสสามารถดึงที่จับแล้วหมุนก็สามารถถอดออกไปได้ง่ายๆ ไม่ต้องไขน็อต ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนฝั่งพีซี
ขิปประมวลผลใช้ Intel Xeon เป็นหลัก โดยรองรับรุ่นบนสุดที่เป็น 28 คอร์ ส่วนแรมนั้นมีช่องใส่ทั้งสิ้น 12 แถว (แถวละสูงสุด 128GB) ทำให้สามารถใส่แรมได้สูงสุดที่ 1.5TB มากมายมหาศาลจนหลายๆ คนต้องหันมาดูอีกรอบว่าตัวเลขนี้จริงๆ เหรอ
อีกข้อดีคือมีการนำพอร์ต PCI Expansion กลับมา มีดังนี้
- Double Wide Slots จำนวนสี่ช่อง
- Single Wide Slots จำนวนสามช่อง
- Half-width Slots จำนวนหนึ่งช่อง
ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มพอร์ตจำนวนมากบน Mac Pro ได้ ไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3, USB, 3.5 มม รวมไปถึง Ethernet และการ์ดจอได้ โดยสามารถใส่ Radeon Pro Vega II ได้สองตัว (โดยจะใส่การ์ดไหนก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้งาน)
ตัวเครื่องมีการติดตั้งฮาร์ดแวร์พิเศษของ Apple ที่ชื่อว่า Afterburner ทำให้สามารถเล่นวิดิโอฟุตเตจเพื่อตัดต่อสูงสุดที่ระดับ 8K ได้สามวิดิโอพร้อมกัน หรือ 4K จำนวน 12 วิดิโอพร้อมกัน โดยการ์ดดังกล่าวสามารถประมวลผลภาพ 6,000 ล้านพิกเซลต่อวินาทีได้ และเพื่อควบคุมระดับความร้อนข้างในมีพัดลมสามตัวคอยเป่าลมระบายความร้อนออก แต่ไม่เกิดเสียงดังมาก ทาง Apple บอกว่าไม่ดังกว่า iMac Pro
สำหรับรุ่นล่างสุด Mac Pro จะใช้ Intel Xeon จำนวนแปดคอร์ และ RAM 32GB และ SSD 256GB การ์ดจอประมวลผลเป็น Radeon Pro 580X ราคาเริ่มต้นที่ $5,999 ดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 188,550 บาท) เริ่มวางจำหน่ายฤดูใบไม้ร่วง หรือราวๆ ไตรมาสที่สามเป็นต้นไป
สุดท้ายนี้ Mac Pro มีล้อให้ติดตั้งแล้ว! ทำให้การย้ายตำแหน่งหรือเคลื่อนย้ายทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก เนื่องจากน้ำหนักของรุ่นนี้กลายเป็น 18 กิโลกรัมนั่นเอง
ที่มา – Engadget