เราได้ยินข่าวมาหลายปีแล้วว่า Google จ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐให้ Apple เพื่อให้ใช้ Google เป็น Default Search Engine บน Safari สำหรับ iOS
ตัวเลขล่าสุดมีการประมาณการโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ที่ทำการสืบสวนมาหลายปี คาดว่าเงินที่ Google จ่ายให้ Apple นี้มากถึง 8,000 – 12,000 ล้านดอลลาร์หรัฐ แน่นอนว่าดีลนี้ทั้ง Apple และ Google ได้ผลประโยชน์ทั้งคู่ เพราะเมื่อผู้ใช้งานทำการค้นหาอะไรก็ตามบน Safari ทาง Google ก็จะขายโฆษณาแทรกไปได้ด้วย
ทาง Apple เองก็เตรียมตัวเผื่อกรณีที่ถูกฟ้องเรื่องการผูกขาด และไม่สามารถใช้งาน Google Search ได้อีกต่อไปอยู่ โดยจะพัฒนาเสิร์ชเอนจิ้นใช้งานเองเพื่อทดแทน Google ที่หายไปนี้ โดยหลายปีที่ผ่านมา Apple เองก็ประกาศรับสมัครวิศวกรที่เชี่ยวชาญด้านการค้นหาข้อมูล และจ้างอดีตประธานฝ่ายธุรกิจค้นหาของ Google เข้าร่วมงานด้วย แม้ว่าจะจ้างให้ไปทำงานด้าน AI ก็ตามที
ในตอนนี้ชื่อเรียก Crawler ที่เก็บข้อมูลบนอินเตอร์เน็ทเพื่อนำไปทำ indexing ของ Apple นั้นเรียกว่า Applebot มีการทำงานที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นหลักฐานว่า Apple กำลังเร่งพัฒนาและสร้างเสิร์ชเอนจิ้นเพื่อป้องกันกรณีถูกฟ้องเรื่องการผูกขาด และไม่สามารถใช้งาน Google ได้
Apple เองเติบโตมาในฐานะบริษัทฮาร์ดแวร์ แม้ระยะหลังจะมีการขายบริการต่างๆ (เช่น Apple TV+, Apple Arcade) แต่สุดท้ายแล้วการที่จะหันมาสร้างเสิร์ชเอนจิ้นเอง และทดแทน Google ที่เรียกได้ว่าเป็นเสิร์ชเอนจิ้นที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลกก็ดูจะเป็นภารกิจล้มยักษ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นง่ายๆ แม้จะมีเงินให้ถลุงหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐก็ตามที
ที่มา – Android Police