Apple แจ้ง IATSE (International Alliance of Theatrical Stage Employee) สหภาพผู้ประกอบอาชีพอุตสาหกรรมภาพยนตร์ว่าบริการ Apple TV+ นั้นมีผู้สมัครใช้บริการต่ำกว่า 20 ล้านคน
ตัวเลขผู้ใช้บริการที่ยอดต่ำกว่า 20 ล้านคนนี้ทำให้ Apple TV+ ต้องจ่ายเงินให้กับสหภาพต่ำกว่าผู้ให้บริการสตรีมมิ่งรายอื่นๆ (เช่น Netflix) โดยที่ผ่านมา Apple ไม่เคยเผยตัวเลขผู้สมัครใช้งานอย่างเป็นทางการสักครั้ง แม้จะเปิดให้บริการมาตั้งแต่พฤศจิกายน 2019 ก็ตามที โดยช่อง Apple TV+ นั้นมีแต่ Original Show เป็นของตัวเอง ไม่มีรายการที่เหมือนคู่แข่งอย่าง Netflix / HBO / CBS ทำให้จำนวนรายการตามหลังคู่แข่งอยู่มาก
ในแถลงการณ์ของ IATSE ระบุว่าพนักงานของสหภาพที่ทำงานกับสื่อสตรีมมิ่งรายใหม่จะได้รับค่าจ้างน้อยลง (แต่ส่วนใหญ่แล้วค่าจ้างที่ว่าก็สูงกว่าการทำหนัง หรือทีวีซีรีส์แบบเดิมๆ ตามช่องเคเบิลที่ผ่านมา) แม้จะไม่ระบุชื่อผู้ให้บริการสตรีมมิ่งว่าหมายถึงเจ้าใด แต่โฆษกของ IATSE ให้สัมภาษณ์กับทาง CNBC ภายหลังว่า Apple มีผู้สมัครใช้งานน้อยกว่า 20 ล้านราย (นับในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา)
สหภาพมีแนวโน้มที่จะร่วมกันสไตรค์ไม่ทำงานถ้าหากการเจรจาเรื่องงบประมาณไม่น่าพึงพอใจ เนื่องจากการถ่ายทำท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดเช่นนี้นอกจากจะเป็นเรื่องยากแล้วยังมีต้นทุนที่สูงขึ้นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด การลดค่าจ้างนี้หมายถึงทีมงานเบื้องหลังกว่า 60,000 ชีวิตจะต้องตกงานและไม่สามารถทำรายได้มากเพียงพอสำหรับค่าครองชีพ
Apple เองมีโชว์ที่ทุ่มทุนอยู่หลายรายการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Morning Show หรือ Ted Lasso ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก (รายการหลังได้รับรางวัลจาก Emmys ถึงสามรางวัลด้วยกัน) โดยคาดว่า Morning Show น่าจะมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ตอนละ $15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน Ted Lasso นั้นนักแสดงและคนเขียนบทต่อรองราคาค่าตัวเพิ่มขึ้นสำหรับซีซันถัดไปอยู่
ไตรมาสล่าสุด Apple มีรายรับทั้งสิ้น $81,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นกำไรอยู่ $21,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา – The Verge