หลังจากลือกันแล้วลือกันอีกกับนาฬิกาอัจฉริยะของ Apple ที่ลือในชื่อของ iWatch มาอย่างยาวนาน ตอนนี้ Apple ก็ได้ข้อสรุปของชื่อและประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยว่าชื่อ ‘Apple Watch’ ครับ โดย Tim Cook ซีอีโอของ Apple ได้ประกาศว่าอุปกรณ์สวมใส่ตัวนี้นั้นเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของบริษัทเลยทีเดียว
ตัวเรือนของ Apple Watch นั้นทำด้วยสแตนเลสสตีล, อลูมิเนียมเคลือบอโนไดซ์ และมีรุ่นทองคำ 18K ด้วย ตัวนาฬิกานั้นต้องมีการเชื่อมต่อร่วมกันกับ iPhone และสามารถบอกเวลามาตรฐานโลกได้เที่ยงตรงแม่นยำบวกลบไม่เกิน 50 มิลลิวินาที นอกจากนี้ยังสามารถปรับเวลาท้องถิ่นได้โดนอัตโนมัติ
เม็ดมะยม (Digital Crown) คือฟีเจอร์หลักของ Apple Watch ซึ่ง Apple บอกว่าเนื่องจากหน้าปัดของนาฬิกานั้นเล็ก การซูม หรือเลื่อนหน้าจอนั้นอาจจะทำได้ลำบาก และนิ้วมือนั้นจะไปบดบังหน้าจอ เพราะฉะนั้นเม็ดมะยมของ Apple Watch จึงทำหน้าที่เหมือนการกดปุ่ม Home บน iPhone หรือใช้งานฟีเจอร์อื่นๆได้ในบางกรณี ซึ่งก็เป็นลักษณะเฉพาะตัวแบบเดียวกับที่เราใช้ Click Wheel บน iPod หรือ Mouse บน Mac เป็นต้น
ระบบปฏิบัติการใหม่ Watch OS
ระบบปฏิบัติการของ Apple Watch นั้นมีชื่อว่า Watch OS ซึ่ง Apple ทำขึ้นมาใหม่เพื่อตอบโจทย์การใช้งานสำหรับข้อมือโดยเฉพาะ ทั้งหน้า Homescreen ที่สามารถค้นหาแอพที่ชื่นชอบได้อย่างรวดเร็ว, ฟอนต์ที่อ่านง่าย, มีจอ Retina ที่รับสัมผัสของแรงกดได้ นอกจากนี้ยังมีหน้าปัดทื่หลากหลาย
รองรับการใช้งานด้านสุขภาพและฟิตเนส
Apple Watch นั้นสามรถใช้งานควบคู่ไปกับการออกกำลังกายได้ เพราะสามารถนับก้าว, วัดคุณภาพและความถี่ของการเคลื่อนไหวได้ ผ่านทางหน้าจอ Activity ของ Apple Watch และยังมีแอพ workout ที่ใช้สำหรับการออกกำลังกายแบบ Cardio โดยเฉพาะ เพราะมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ (HRM)
Digital Touch
Digital Touch การสื่อสารในรูปแบบใหม่บน Apple Watch ช่วยให้มีการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆได้ผ่านทางการใช้งาน 4 แบบ คือ การวาด (Sketch) , ส่ง Walkie-Talkie, การแตะเพื่อสะกิดเรียก และการเต้นของหัวใจ ที่สามารถบอกความรู้สึกให้คนอื่นๆรู้ได้ผ่านทางอัตราการเต้นของหัวใจที่วัดจาก Apple Watch
มี 2 ขนาดตัวเรือน
Apple Watch มี 2 ขนาดข้อมือ คือ 38 มิลลิเมตร และ 42 มิลลิเมตร
Apple Watch มีทั้งหมด 3 แบบ
Apple Watch (ใช้สแตนเลสสตีล และจอกระจกแซฟไฟร์), Apple Watch Sport มีสีสันสดใส ตัวเรือนเป็นอลูมิเนียมเคลือบอโนไดซ์ และ Apple Watch Edition (ทองคำ 18 กะรัต จอกระจกแซฟไฟร์)
สายของ Apple Watch มีให้เลือกเปลี่ยนเพียบ
ระบบชาร์จไฟแบบ MagSafe
Apple Watch ใช้เทคโนโลยีการชาร์จแบตแบบ MagSafe แค่ถือหัวชาร์จไฟไปไว้ด้านหลังของตัวเรือนก็จะมีแม่เหล็กดูดให้ติดเข้ากับด้านหลังเพื่อชาร์จไฟโดยอัตโนมัติ
ราคาและวันวางจำหน่าย
Apple Watch จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2015 พร้อมราคาเปิดตัว 349 เหรียญ (ราวๆ 11,200 บาท)