Apple® และ Nike ประกาศว่า Apple Watch® Nike+ จะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม โดย Apple Watch Nike+ ได้รวมทุกคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Apple Watch Series 2 เข้ากับแอพ Nike+ Run Club ใหม่ เพื่อมอบแรงกระตุ้นในการวิ่งชนิดที่ยากจะหาใครเทียบ คำแนะนำจากโค้ชและนักกีฬายอดฝีมือระดับโลก ตลอดจนแผนการฝึกที่ปรับให้เข้ากับตารางเวลาและความคืบหน้าของคุณโดยเฉพาะ นอกจากนี้Apple Watch Nike+ ยังมีสาย Nike Sport Band ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ
หน้าปัดนาฬิกาอันโดดเด่นไม่ซ้ำใครที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Nike โดยสามารถปรับแต่งให้เป็นส่วนตัวได้ง่ายๆ ด้วยแอพต่างๆ ที่มีประโยชน์อย่าง Activity Rings, Heart Rate, Stopwatch และ Weather ซึ่งจะช่วยให้นักวิ่งได้รับข้อมูลอยู่เสมอเพียงแค่เหลือบมอง
“การวิ่งนั้นถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก ที่จะช่วยในการรักษารูปร่างและดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และด้วย Apple Watch Nike+ นักวิ่งก็จะมีแรงกระตุ้นมากยิ่งขึ้นเพื่อพิชิตเป้าหมายการออกกำลังกายที่ตั้งเอาไว้” Jeff Williams ประธานฝ่ายปฏิบัติการของ Apple กล่าว “ซึ่งเสียงตอบรับที่เราได้รับนั้นก็เป็นอะไรที่น่าทึ่ง และเราก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะมอบApple Watch Nike+ สู่ข้อมือของลูกค้า เริ่มต้นในวันศุกร์นี้”
“Apple และ Nike มีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นและสนุกยิ่งกว่าเดิม และเราก็รู้สึกตื่นเต้นที่จะมอบประสบการณ์การวิ่งที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าทั่วโลก” Trevor Edwards ประธาน Nike Brand กล่าวApple Watch Nike+ และแอพ Nike+ Run Club ทำงานร่วมกันเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่มีโซลูชั่นการวิ่งที่ใช้งานง่ายสำหรับนักกีฬาทุกคน และนับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Nike ที่จะนำเอาผลิตภัณฑ์อันทันสมัยมาสู่ท้องตลาด”
Apple Watch Nike+ มี GPS ในตัวเช่นเดียวกับ Apple Watch Series 2 ทุกรุ่น จึงสามารถบันทึกเวลาเฉลี่ยต่อระยะทาง ระยะทาง และเส้นทางได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้พก iPhone® ติดตัวไปด้วย ด้วยจอภาพที่สว่างที่สุดเท่าที่ Apple เคยสร้างมา จึงอ่านค่าต่างๆ ได้ง่าย และถ้าคุณอยากจะลงเล่นน้ำในสระหลังจากวิ่งเสร็จแล้ว Apple Watch Nike+ ก็มีความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ 50 เมตร* แอพ Nike+ Run Club ทำงานร่วมกับ Apple Watch Nike+ อย่างราบรื่น และสร้างแรงกระตุ้นในแต่ละวันผ่านการเตือนความจำการวิ่งอัจฉริยะ การท้าทายจากเพื่อนๆ หรือแม้แต่การแจ้งเตือนที่จะบอกให้ทราบเมื่อสภาพอากาศเป็นใจให้ออกไปข้างนอก สำหรับข้อมูลการฝึกซ้อม ซึ่งรวมถึงอัตราการวิ่ง ระยะทางและอัตราการเต้นของหัวใจก็แสดงให้ดูได้ง่ายๆ เพียงแค่เหลือบมอง และด้วยข้อมูลสรุปการวิ่งที่แชร์ไว้ แอพก็จะสนับสนุนการแข่งขันกระชับมิตร อีกทั้งยังให้ผู้ใช้ส่งกำปั้นชนกันได้โดยตรงจากข้อมือ
ราคาและการวางจำหน่าย Apple Watch Nike+
- Apple Watch Nike+จะวางจำหน่ายในตัวเรือนอะลูมิเนียมสองขนาดคือ 38 มม. และ 42 มม. และจับคู่กับสาย Nike Sport Band ที่มีการผสมผสานของสี่สีเฉพาะ ได้แก่ สีดำ/Volt, สีดำ/เทาคูลเกรย์, สีเงินด้าน/ขาว และ สีเงินด้าน/Volt
- Apple Watch Nike+จะวางจำหน่ายในตัวเรือนขนาด 38 มม. ที่ 13,900 บาท และตัวเรือนขนาด 42 มม. ที่14,900 บาท ผ่าน apple.com/th, nike.com, ร้านค้าปลีกของ Nike บางแห่ง, ตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple บางแห่ง และร้านขายสินค้าเฉพาะอย่างบางแห่ง รวมถึงห้างสรรพสินค้า สำหรับข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทย โปรดไปที่ www.apple.com/th/apple-watch-nike หรือ www.nike.com/applewatch
- Apple Watch Nike+จะวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคมในประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, บราซิล, แคนาดา, จีน, โคลัมเบีย, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ฮังการี, อินเดีย, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, มาเก๊า, มาเลเซีย, เม็กซิโก, โมนาโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, รัสเซีย, ไต้หวัน, ไทย, ตุรกี, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา
- Apple Watch Nike+จะวางจำหน่ายในวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมในประเทศบาห์เรน, กรีซ, คูเวต, โอมาน, กาตาร์, ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- Apple Watch Nike+จะวางจำหน่ายในวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคมในประเทศอิสราเอล
- Nike Sport Band จะวางจำหน่ายเฉพาะกับรุ่น Apple Watch Nike+ เท่านั้น และจะไม่วางจำหน่ายแยกต่างหาก
- Apple Watch Nike+ต้องทำงานร่วมกับ iPhone 5 หรือใหม่กว่า ที่ใช้ iOS 10 หรือใหม่กว่า คุณสมบัติบางประเภทไม่สามารถใช้ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา
*Apple Watch Series 2 มีความสามารถในการทนน้ำ โดยมีการป้องกันอยู่ที่ระดับ 50 เมตรตามมาตรฐาน ISO 22810∶2010 ซึ่งสามารถใช้ในกิจกรรมน้ำตื้น เช่น การว่ายน้ำในสระหรือทะเล แต่ไม่ควรใช้ Apple Watch Series 2 ในการดำน้ำลึก การเล่นสกีน้ำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับน้ำที่มีความเร็วสูงหรือต้องอยู่ในน้ำที่ลึกกว่าระดับน้ำตื้น สายสแตนเลสสตีลและสายหนังไม่มีความสามารถในการทนน้ำ