หลังจาก Apple ออกมายอมรับว่าลดความเร็วของ iPhone ที่แบตเตอรีเสื่อมจริงๆ กระแสก็ตีกลับอย่างรุนแรงจน Apple ต้องลดราคาแบตเตอรีลงเพื่อบรรเทากระแสสังคม
ราคาเปลี่ยนแบตเตอรีนั้นแต่เดิมอยู่ที่ $79 ดอลลาร์สหรัฐ โดยปรับลดลงมาใหม่เป็น $29 ดอลลาร์สหรัฐ (บ้านเราจาก 2,900 บาท เหลือ 1,000 บาท แต่อาจจะมีค่าแรงเพิ่มเติมอีก 2 – 300 บาท) นักวิเคราะห์ประเมินว่าการลดราคาแบตเตอรีครั้งนี้จะทำให้ยอดขายของ iPhone ในปีนี้หายไปราวๆ 16 ล้านเครื่อง
นักวิเคราะห์จาก Barclays Analysts ประเมินว่าโทรศัพท์ที่แบตเตอรีเสื่อมสภาพและต้องเปลี่ยนน่าจะมีมากถึง 77% ของทั้งหมด (ราวๆ 519 ล้านเครื่อง) และคาดว่าผู้ใช้ราวๆ 10% จะไปเปลี่ยนแบตเตอรีเนื่องจากราคาที่ลดลงมานี้ ทำให้เครื่องกลับมาเร็วเหมือนเดิมและไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ในปีนี้อีก 30% ของผู้ที่เปลี่ยนแบตเตอรี ทำให้ยอดขายหายไปอย่างน้อย 16 ล้านเครื่อง
ถ้าใครติดตามกันอย่างใกล้ชิดก็คงจะทราบดีว่า Apple เคยประกาศให้ iPhone 6s จำนวนหนึ่งเข้ามาเปลี่ยนแบตเตอรีที่ศูนย์ เนื่องจากแบตเตอรีที่ใช้มีปัญหา แต่ดูเหมือนว่าปัญหาจะใหญ่กว่าที่ Apple ประเมินเอาไว้ ทำให้มีผู้ที่ใช้ๆ ไปแล้วเครื่องดับเยอะมาก ก็เลยแก้ไขด้วยการลดความเร็วเครื่องลง ซึ่งไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรถ้าหากมีการแจ้งผู้ใช้งานก่อน แต่เนื่องจาก Apple ทำเองโดยไม่บอกผู้ใช้งาน ทำให้หลายคนมองว่าจงใจลดความเร็วเครื่องเพื่อให้รู้สึกว่าเครื่องช้าและต้องซื้อใหม่
เครื่องที่ได้รับผลกระทบจากกรณีนี้มีตั้งแต่ iPhone 6 ไล่ขึ้นมาจนถึง iPhone 7 Plus ในกรณีที่แบตเตอรีเสื่อม ถ้าเครื่องช้าๆ และแบตหมดไวก็ควรจะลองไปถามเรื่องเปลี่ยนแบตเตอรีที่ศูนย์บริการแอปเปิลดูนะ
ที่มา – Phone Arena