หลังจากที่มีข่าวเรื่องแบตเตอรี่เสื่อม จนทำให้เครื่องทำงานช้าลง วันนี้เรามีวิธีเช็คเบื้องต้นว่าสมาร์ทโฟนของคุณ แบตเสื่อม ระดับไหน เรามาเช็คระดับความเสื่อมของแบตมือถือง่ายๆ ด้วยวิธีสังเกตง่ายๆ เหล่านี้
1. แบตเสื่อม ระดับเล็กน้อย
อาการที่พบคือ ระยะเวลาใช้งานเริ่มสั้นลง อาการเบื้องต้นเมื่อแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมจะสังเกตได้โดยระยะเวลาการใช้งานเริ่มสั้นลงจากที่เคยเป็นมา ซึ่งอาการนี้จะเกิดเมื่อแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานเข้าใกล้ปีที่ 1 จากที่ซื้อมา แต่ก็ยังสามารถใช้งานต่อได้เรื่อยๆ หากไม่สบายใจ หรือเริ่มหงุดหงิด แบตใช้ได้ไม่ถึงวันก็เปลี่ยนได้เลย
2. เสื่อมระดับปานกลาง
อาการที่พบคือ แบตเตอรี่ลดฮวบ อาการต่อมาของแบตเตอรี่เมื่อเริ่มเสื่อมหนักขึ้นคือใช้งานอยู่ดีๆ แบตเตอรี่จาก 50% ลดเหลือ 20% หรือเหลือแบต 20% แต่อยู่ดีๆ เครื่องดับไปเอง และเมื่อเสียบสายชาร์จ เปิดเครื่องแบตเตอรี่ก็พุ่งไป 20% เหมือนเดิม อาการนี้จะเริ่มเกิดเมื่อใช้งานมาแล้ว 1.5 ปี ขึ้นไป นั่นหมายถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่อย่างจริงจังแล้วล่ะ
3.เสื่อมระดับรุนแรง
อาการที่พบคือ แบตเตอรี่บวม นี่คงเป็นอาการที่หนักสุดของแบตเตอรี่ที่สมควรจะเปลี่ยนอย่างเร่งด่วน เพราะความบวมสามารถดันให้หน้าจอ หรือตัวเครื่องออกมาได้ หากวัสดุห่อหุ้มแบตเตอรี่เกิดปริ หรือแตก อาจจะมีสารเคมีไหลออกมาทำอันตรายต่อแผงวงจรของโทรศัพท์ และอาจจะซึมออกมาทำลายผิวหนังของเราได้
หากโทรศัพท์มือถือของคุณเริ่มมีอาการที่ว่ามาข้างต้น แนะนำให้เปลี่ยนตั้งแต่ระดับ “เสื่อมปานกลาง” เป็นต้นไป หรือหากคิดว่าไม่สามารถทดกับอาการแบตเสื่อมได้ตั้งแต่ระยะแรกก็แนะนำให้เปลี่ยนได้เลยทันที
แต่เราขอแนะนำให้ช่างผู้ชำนาญงานเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ เพราะสมาร์ทโฟนสมัยนี้ไม่สามารถเปิดฝาหลังแล้วเปลี่ยนกันง่ายๆ เหมือนสมัยก่อน อาจจะเข้าศูนย์บริการ หรือร้านที่มีความน่าเชื่อถือ เพราะการแกะสมาร์ทโฟนอาจจะต้องอาศัยความชำนาญพอสมควร หากแกะ หรือรื้อเองอาจจะทำให้เครื่อง หรือแผงวงจร พอร์ทเชื่อมต่อต่างๆ เสียหายได้