ยิ่งรถยนตร์อัจฉริยะพัฒนาไปมากขึ้น และพึ่งพิงการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทเท่าไหร่ ความปลอดภัยไซเบอร์ก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นเท่านั้น BlackBerry ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จึงจับมือ Amazon เพื่อพัฒนาระบบความปลอดภัยสำหรับรถยนต์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทได้
BlackBerry เองมีส่วนร่วมกับรถยนต์อัจฉริยะมาตั้งแต่ยุคแรก โดยในอดีตเคยพัฒนาแพลตฟอร์ม QNX ควบคู่ไปกับมือถือ (ก่อนจะถอนตัวออกจากวงการมือถือ และพัฒนาต่อเพื่อรถยนต์อัจฉริยะโดยเฉพาะ)
ปัจจุบันนี้ผู้ผลิตรถยนต์ที่เพิ่มระบบทำงานร่วมกับอินเตอร์เน็ทนั้นมักจะทำงานได้ไม่มากนัก เช่นสตาร์ทรถยนต์ ติดตามการเดินทาง และสูงสุดก็อาจจะเป็นการขับรถยนต์อัตโนมัติในบางประเทศ และบางพื้นที่ โดยแพลตฟอร์มที่ BlackBerry พัฒนานี้จะใช้ AWS (Amazon Web Services – บริการคลาวด์ของ Amazon) เป็นหลัก เพื่อรับข้อมูลจากเซนเซอร์ต่างๆ รอบตัวรถยนต์ และส่งข้อมูลไปยัง Machine Learning เพื่อวิเคราะห์สภาพแวดล้อมต่างๆ
เนื่องจากมีการส่งข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ทนี้เอง ทำให้ความปลอดภัยไซเบอร์กลายเป็นประเด็นขึ้นมา เราคงไม่อยากนั่งอยู่ในรถ แล้วถูกลักพาตัวไปโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือคนร้ายรู้เวลาและตำแหน่งของเราขณะที่จะปล้นบ้านอย่างแน่นอน ในเมื่อโลกรถยนต์อัจฉริยะยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย BlackBerry ที่เคยเป็นผู้นำวงการความปลอดภัยบนโลกมือถือมีหรือจะมองข้ามไปได้
ก่อนหน้านี้ BlackBerry เคยขายซอฟท์แวร์ที่ชื่อ Jarvis System เพื่อใช้หาช่องโหว่ในระบบที่แฮคเกอร์อาจจะใช้โจมตีผ่านอินเตอร์เน็ทได้ และรถยนต์อัจฉริยะทุกวันนี้ก็มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ช่องโหว่ก็มีโอกาสจะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้แฮคเกอร์อาจจะมองเห็นโอกาสทำเงินจากการขายช่องโหว่เหล่านี้ในที่สุด (เหมือนกับ Windows ในอดีตที่ผู้ใช้งานเยอะ การลงทุนพัฒนาซอฟท์แวร์โจมตีแต่ละครั้งสามารถทำเงินได้คุ้มค่าเหนื่อยและความเสี่ยง)
ณ ตอนนี้ความร่วมมือของทั้งสองยังอยู่ในระยะแรก อีกทั้งวงการรถยนต์อัจฉริยะก็ยังไม่มีแพลตฟอร์มมาตรฐาน คงต้องรออีกอย่างน้อย 5 – 10 ปีเราถึงจะเห็นผลงานของความร่วมมือครั้งนี้ครับ
ที่มา – Engadget