สัปดาห์ที่แล้ว CFIUS (หน่วยงานดูแลการลงทุนจากต่างชาติในสหรัฐ) เข้ามาขอให้ Qualcomm เลื่อนกำหนดการโหวตบอร์ดบริหารชุดใหม่ หลังจาก Broadcom เสนอนอมินีให้ผู้ถือหุ้นโหวตเข้ามาเลือกขายบริษัท
ทาง CFIUS เล็งเห็นว่า Broadcom เป็นบริษัทจากเอเชียพยายามจะซื้อ Qualcomm บริษัทอเมริกัน ทำให้ต้องเข้ามาแทรกแซงและขอให้เลื่อนกำหนดโหวตออกไปก่อน เพราะ Broadcom นั้นขึ้นชื่อเรื่องการลดต้นทุนด้านการวิจัยพัฒนา อาจจะส่งผลให้การพัฒนา 5G ถึงคราวสะดุด และเสียเวลาโดยใช้เหตุ
ปัจจุบัน Broadcom มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ และกำลังพยายามจะเป็นบริษัทในสหรัฐด้วยการจดทะเบียนที่รัฐ Delaware แต่ก็ยังถูกมองว่าเป็นบริษัทข้ามชาติอยู่ดี ทางสหรัฐเองก็ไม่อยากให้การพัฒนา 5G สำหรับใช้ในประเทศตกไปอยู่ในมือของประเทศอื่น โดยเฉพาะแถบเอเชีย
พอไม่สามารถปิดผลโหวตให้เรียบร้อยได้ Broadcom ก็เลยใช้วิธีปล่อยข่าวว่า Qualcomm นั้นมีสัมพันธ์อันดับกับรัฐบาลจีน และภาคเอกชนอย่าง Huawei ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหวในสหรัฐอเมริกา (ถึงขนาดล้มดีล Huawei มาแล้ว เพราะกลัวความลับชาติรั่วไหล) นอกจากนี้ยังบอกว่า Qualcomm มีความสัมพันธ์อันดีกับบริษัทมือถือจีนแทบทุกราย รวมไปถึงเครือข่ายโทรศัพท์อีกด้วย อย่างคดีความนั้นทาง Qualcomm ก็จ่ายให้คนของรัฐบาลจีน $7.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อปิดคดีให้จบอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญคือเอกสารนี้ไม่ได้เปิดเผยลงอินเตอร์เน็ท แต่ถึงขั้นซื้อหนึ่งหน้าใน New York Times เลยทีเดียว เพื่อกล่าวหาว่า Qualcomm นั้นมีเอี่ยวกับจีนอย่างเหนียวแน่น
วันที่ 4 เมษายนนี้ Qualcomm จะทำการโหวตหาบอร์ดบริหารทั้งสิ้น 11 คนโดยผู้ถือหุ้นอีกครั้ง ถ้าหาก Broadcom สามารถชนะใจผู้ถือหุ้นและส่งนอมินีของตัวเองเข้าไปเป็นบอร์ดบริหารได้อย่างน้อย 6 คน ก็น่าจะถูกเสนอมติให้ขายบริษัทให้กับ Broadcom อีกครั้งหนึ่ง
อนาคตของ 5G จะเป็นไปในทางไหน CFIUS จะช่วยอะไร Qualcomm ได้หรือไม่ แล้ว Broadcom จะซื้อไปเพื่อลดต้นทุนงานวิจัยและทำให้ 5G ต้องถึงคราวสะดุดจริงๆ หรือ คำตอบแรกเริ่มต้น 4 เมษายนนี้ในงานโหวตบอร์ดบริหารของผู้ถือหุ้นล่ะครับ
ที่มา – Phone Arena