สาธารณรัฐแอฟริกากลาง (CAR หรือ Central African Republic) เป็นประเทศที่สองของโลกที่ประกาศให้สกุลเงิน Bitcoin เป็นสกุลเงินที่สอง หลังจากปีที่แล้ว El Salvador ประกาศแบบเดียวกันไปก่อนหน้า
สำนักข่าวรอยเตอร์และบีบีซีรายงานว่ารัฐบาลของสาธารณรัฐแอฟริกากลางผ่านร่างกฏหมายแบบฉันทามติว่ารองรับ Bitcoin เป็นสกุลเงินที่สอง โดยสกุลเงินเดิมที่ใช้คือ CFA Franc (เงินฟรังก์แอฟริกากลาง) ซึ่งสกุลเงินดังกล่าวมีราวๆ 6 ประเทศในละแวกนั้นใช้งานอยู่ ค่าเงิน CFA Franc ยึดโยงอยู่กับค่าเงินฟรังก์ของฝรั่งเศส และยูโรของยุโรป
แน่นอนว่าประธานธิบดีก็ต้องออกมาพูดว่าการผ่านร่างกฏหมายครั้งนี้จะทำให้คุณภาพชีวิตชาวแอฟริกากลางดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการกระทำครั้งนี้เป็นการกระทำที่กล้าหาญอย่างยิ่ง และยกระดับชาติเป็นผู้มีวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากบริบทของประเทศแล้ว แรงผลักดันเบื้องหลังที่แท้จริงไม่น่าจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวแอฟริกากลาง เนื่องจากประเทศถูกห้อมล้อมด้วยประเทศอื่นทุกทิศ ไม่มีทางออกสู่ทะเล สิ่งมีค่าของประเทศคือทรัพยากรธรรมชาติล้วนแต่เป็นแร่สำคัญ ได้แก่ทอง ยูเรเนียม ซึ่งเป็นสิ่งมีค่าในโลกยุคปัจจุบันอย่างยิ่งยวด แต่ประเทศแอฟริกากลางกลับเป็นหนึ่งในประเทศที่ยากจนที่สุดของโลกประเทศหนึ่ง แถมยังบอบช้ำจากสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2012 อีกต่างหาก โดยปัจจุบันมีประชากรทั้งประเทศราวๆ 4.8 ล้านคน แต่มีเพียง 11% เท่านั้นที่เข้าถึงอินเตอร์เน็ท เห็นได้ชัดว่าการใช้ Bitcoin ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตของประชากรดีขึ้นอย่างแน่นอน
นักวิเคราะห์เชื่อว่าแรงขับเคลื่อนที่แท้จริงอาจจะเป็นการที่แอฟริกากลางต้องการลดบทบาทการพึ่งพิงเงินฟรังก์ของฝรั่งเศส และยึดโยงค่าเงินของตัวเองกับ Bitcoin แทน และต้องการสร้างภาพอธิปไตยโดยไม่พึ่งพิงอดีตเจ้าอาณานิคมอย่างฝรั่งเศส
อีกสาเหตุอาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างแอฟริกากลาง กับรัสเซียนั้นมีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้น (ในสงครามรุกรานยูเครนนั้น แอฟริกากลางเป็นหนึ่งในไม่กี่ชาติงดออกเสียงประนามรัสเซีย) และมีทหารรับจ้างจากรัสเซียเพื่อสู้กับกองกำลังปฏิวัติในประเทศอีกด้วย การลดการพึ่งพิงฝรั่งเศสในแง่ของค่าเงินในยามที่ทั้งโลกกำลังวิจารณ์การกระทำของรัสเซีย (และชาติที่สนับสนุน) ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าอีกด้วย
ที่มา – The Verge