แม้ว่าการเปิดตัว OnePlus 11 รุ่นวางจำหน่ายทั่วโลกจะระบุว่าวันเปิดตัวคือ 7 กุมภาพันธ์ แต่รุ่นสำหรับในประเทศจีนนั้นเปิดตัวก่อนถึงหนึ่งเดือนเต็มๆ
ตัวสเปคของ Oneplus 11 มีดังนี้
- หน้าจอ: 6.7 นิ้ว (LTPO 3.0 AMOLED)
- หน่วยประมวลผล: Snapdragon 8 Gen 2
- หน่วยความจำ: 12 / 16 GB (LPDDR5X)
- พื้นที่เก็บข้อมูล: 256 / 512 GB (UFS 4.0)
- กล้องหลัง: 50 (Main) + 48 (UltraWide) + 32 (Telephotos) Megapixel
- กล้องหน้า: 16 Megapixel
- แบตเตอรี: 5,000 mAh (100W Charge)
สเปคค่อนข้างตรงกับข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ และอยู่ในความคาดหมายของหลายๆ คน (เช่นหน่วยประมวลผลน่าจะเป็นรุ่นบนสุดของ Qualcomm, พื้นที่เก็บข้อมูลใช้รุ่นที่เร็วที่สุด) เรื่องที่น่าสนใจก็คือหน้าจอ LTPO รอบนี้ระบุว่าเป็น LTPO 3.0 AMOLED เวอร์ชันล่าสุดที่ทำการปรับแต่งคุณภาพหน้าจอให้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนฟีเจอร์เดิมนั้นยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการทำ VRF (Variable Refresh Rate) ตั้งแต่ 1 – 120Hz
กล้องหลังรอบนี้กลับมาเป็นผลงานร่วมกับ Hasselblad อีกครั้ง โดยใช้เซนเซอร์ของ SONY ทั้งหมด แบ่งออกเป็นสามตัวได้แก่
- เลนส์หลัก: 50 Megapixel (SONY IMX890) รองรับการทำ Multidirectional PDAF และมี OIS กันสั่นในตัว
- เลนส์อัลตราไวด์: 48 Megapixel (SONY IMX581) เก็บภาพมุมกว้าง และกล้องมาโคร มีออโต้โฟกัส
- เลนส์เทเล: 32 Megapixel (SONY IMX709) สามารถทำการถ่ายภาพซูมได้สองเท่า
ส่วนกล้องหน้านั้นเป็นกล้องธรรมดา อยู่ในด้านซ้ายบนของหน้าจอแบบ Punch Hole ครับ เรื่องที่น่าแปลกใจก็คือรอบนี้ตัวเครื่องกลับไม่รองรับการชาร์จไฟไร้สายเหมือนที่ผ่านๆ มา
ตัวเครื่องมีสองสีได้แก่สีเขียว และสีดำ โดยรุ่นสีเขียวจะเป็นฝาหลังแบบขรุขระด้านคล้ายกระดาษทราย ส่วนสีดำฝาหลังใช้กระจกครับ โดยจะมีการแยกราคาตามสเปคดังนี้
- RAM 12GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ราคา 3,999 หยวน (ราวๆ บาท)
- RAM 16GB พื้นที่เก็บข้อมูล 256GB ราคา 4,399 หยวน (ราวๆ บาท)
- RAM 16GB พื้นที่เก็บข้อมูล 512GB ราคา 4,899 หยวน (ราวๆ บาท)
สำหรับรุ่นที่จะวางจำหน่ายในจีนนั้นจะใช้ Color OS 13 ที่เป็นผลงานการพัฒนาของ OPPO นั่นเอง วางจำหน่ายในร้าน OPPO Store และตัวแทนจำหน่ายรายอื่นๆ วันที่ 9 มกราคมนี้ คาดว่ารุ่นที่วางจำหน่ายทั่วโลกน่าจะมีสเปคที่ใกล้เคียงไม่หนีไปจากนี้มากนักครับ
ที่มา – GSMarena