ตั้งแต่กรมการค้าสหรัฐสั่งคว่ำบาตรห้ามบริษัทสหรัฐค้าขายกับ ZTE (แซดทีอี) อนาคตของบริษัทก็มืดมนและมีความเสี่ยงจะต้องปิดบริษัทมาตลอด เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของ ZTE มีการใช้ชิ้นส่วนที่มาจากบริษัทสหรัฐจำนวนมาก
เรื่องราวช่วงที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สัญญาว่าจะหาทางปลดสถานะคว่ำบาตรให้ และสภาครองเกรสทั้งสองพรรคเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะคว่ำบาตร ZTE ต่อไปสวนทางกับความพยายามของประธานธิบดี
ณ ตอนนี้ข้อสรุป (ที่ยังไม่ใช่สุดท้าย) คือให้ ZTE จ่ายค่าปรับ $1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเปลี่ยนผู้บริหาร และบอร์ดบริหารจำนวนมากออก รวมไปถึงวางเงินมัดจำเอาไว้ $400 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะถูกยึดหากละเมิดกฏและข้อตกลงอีกครั้ง และต้องจ้างผู้ตรวจสอบที่สหรัฐเลือกมาเพื่อตรวจสอบการทำงานเป็นเวลาสิบปี
แม้ว่าทั้งหมดนี้จะฟังดูเหมือนอนาคตของแซดทีอีจะไม่มืดมนอีกต่อไปแล้ว แต่สภาคองเกรสยังคงมีการประชุมเรื่องคว่ำบาตรห้ามขายของให้กับแซดทีอีต่อ เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ โดยยังไม่มีข้อสรุปสุดท้ายออกมา แต่ยังพอมีลุ้นอยู่บ้างเพราะต้องผ่านการเซ็นต์ของประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทรัมป์ออกตัวกู้ชีพแซดทีอีด้วยตัวเอง ทำให้สุดท้ายแล้วคำสั่งแบนแซดทีอีจากสภาคองเกรสอาจจะไม่ผ่านร่างในท้ายที่สุด
ที่มา – Android Police