บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ผู้นำค้าปลีกและแพลตฟอร์มออมนิแชแนลอันดับ 1 ของประเทศไทย ประกาศปิดดีลใหญ่ เข้าซื้อหุ้น Grab ประเทศไทย ซึ่งเป็นเบอร์ 1 Superapp ของอาเซียน ด้วยเงินลงทุน 4,500 ล้านบาท ซึ่งลงทุนในแกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด การปิดดีลในครั้งนี้ถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญเพื่อต่อยอดให้ เซ็นทรัล รีเทล เป็น Digital Retail ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของประเทศไทย และตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบวงจรตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง นอกจากนั้น มีโอกาสที่ เซ็นทรัล รีเทล จะได้ประโยชน์จากการลงทุนเพิ่มจากสิทธิ์ในการแลกหุ้นในแกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ไปเป็นหุ้นของ Grab Holdings Limited (“GHL”) บริษัทแม่ของ Grab ที่จะทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 3 ธันวาคม 2564 (ตามเวลาในประเทศไทย) โดยมูลค่าหุ้น GHL ณ ราคา IPO (10 ดอลลาร์สหรัฐ) ที่ Porto WW จะถือหากใช้สิทธิ์แลกหุ้น คิดเป็นประมาณ 14,000 ล้านบาท*
*มูลค่าหุ้นคิดตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ 1 USD = 33.72 บาท
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “Grab ถือเป็นบริษัทสตาร์ทอัพระดับ Decacorn รายแรกของอาเซียน (บริษัท สตาร์ทอัพที่มีมูลค่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป) CRC ตัดสินใจลงทุนใน Grab เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของ Grab Superapp ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน สำหรับในประเทศไทย เซ็นทรัล รีเทล เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญกับ Grab มาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเปิดธุรกิจในประเทศไทย จนทำให้ Grab ประสบความสำเร็จเป็นผู้นำอันดับ 1 ของแพลตฟอร์มการบริการที่ครบวงจร ครอบคลุมธุรกิจ บริการเดินทาง บริการส่งอาหาร บริการระบบโลจิสติกส์ บริการจองโรงแรมและที่พัก และบริการทางด้านการเงิน เราจะนำเอาความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายมาเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าคนไทยทุกคน วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญและความภาคภูมิใจที่เราได้มีพันธสัญญาร่วมกัน เพื่อยกระดับวงการค้าปลีกและบริการของไทย ร่วมผลักดันเศรษฐกิจประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง เรามีความมุ่งมั่นและพร้อมที่จะนำพาองค์กรไปสู่การพัฒนาและการเติบโตอย่างยั่งยืน”
###################
รายละเอียดตามสารสนเทศที่เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีดังนี้
เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 OAL Holding Limited (“OAL”) ได้ใช้สิทธิขายคืนหุ้น Porto Worldwide Limited (“Porto WW”) จำนวน 133,545,740 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 67.0[1] ในราคาที่ตกลงกันไว้ตามสัญญาซื้อขายหุ้น ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2562 (“สัญญาซื้อขายหุ้น”) ให้แก่ Hillborough Group ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ การได้หุ้น Porto WW โดย Hillborough Group ดังกล่าวเป็นการปฏิบัติตามภาระผูกพันในสัญญาซื้อขายหุ้น ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2562 และที่ประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 โดยบริษัทฯ ได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) และได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับภาระผูกพันดังกล่าวต่อนักลงทุนในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้นสามัญเป็นครั้งแรกของบริษัทฯ แล้ว (“หนังสือชี้ชวน”)
โดยมีรายละเอียดของการซื้อหุ้นตามภาระผูกพันของสัญญา ดังนี้
วันที่คาดว่ารายการจะเสร็จสมบูรณ์ : ภายในเดือนธันวาคม 2564
ทุนจดทะเบียนของ Porto WW : 199,322,000 ดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าการลงทุน : ไม่เกิน 4,500 ล้านบาท (คำนวณตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่กำหนดไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้นซึ่งได้เปิดเผยไว้ในหนังสือชี้ชวนของบริษัทฯ)
สัดส่วนการลงทุน : 133,545,740 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 67.0 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ Porto WW
แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้น : กระแสเงินสดภายในของบริษัทฯ และวงเงินสินเชื่อจากธนาคาร
ประเภทธุรกิจ : ลงทุนในบริษัท แกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด สัดส่วนร้อยละ 40.0
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : การลงทุนในธุรกิจ Grab ในประเทศไทย จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาอีโคซิสเต็มและแพลตฟอร์มออมนิแชแนลของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่ง เนื่องจาก Grab เป็นผู้นำแพลตฟอร์มบริการออนไลน์สู่ออฟไลน์ที่มีการเติบโตและมีการขยายการให้บริการอย่างรวดเร็วทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย Grab มีบริการที่หลากหลายและครบถ้วนทั้งบริการส่งอาหาร บริการเดินทาง บริการระบบโลจิสติกส์ บริการจองโรงแรมและที่พัก และบริการการเงิน ที่จะส่งเสริมและผลักดันองค์กรให้เป็น Digital Retail อย่างสมบูรณ์แบบ และช่วยในการต่อยอดการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ อาจได้รับประโยชน์อีกด้านหนึ่ง หาก Porto WW ใช้สิทธิที่มีเพียงครั้งเดียว ในการแลกหุ้นแกร็บแท็กซี่ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) ที่มีอยู่ทั้งหมดหรือบางส่วนไปเป็นหุ้นของ Grab Holdings Limited (“GHL”) ประเภท Class A Ordinary Share ที่จะทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา วันที่ 2 ธันวาคม 2564 (เวลาสหรัฐอเมริกา Eastern Time) ในราคาที่กำหนดไว้แล้วที่ 6.1629 ดอลล่าสหรัฐต่อหุ้น โดย Porto WW สามารถใช้สิทธิการแลกหุ้นดังกล่าวได้ภายในระยะเวลา 60 วันนับจากวันทำการแรกหลังจากครบ 6 เดือนหลังจากวันแรกที่หุ้นของ GHL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ และภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ ของสัญญาที่เกี่ยวข้องและข้อมูลที่เปิดเผยในแบบแสดงรายการข้อมูลของ GHL (Form F-4) ทั้งนี้ ในกรณีที่ Porto WW ใช้สิทธิในการแลกหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด จะถือหุ้น GHL Class A Ordinary Shares ประมาณร้อยละ 1.06 ของจำนวนหุ้น GHL Ordinary Shares ทั้งหมด (ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท ณ ราคา GHL IPO ที่ 10.0 ดอลล่าสหรัฐต่อหุ้น) ทั้งนี้ หาก Porto WW ประสงค์จะใช้สิทธิในการแลกหุ้น บริษัทฯ จะดำเนินการขออนุมัติและปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป
[1] Chipper Global Limited เป็นผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 33.0 ใน Porto WW โดย Chipper Global Limited เป็นบริษัทที่บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100