Disney+ Hotstar ไม่หยุดพลัส! เตรียมยกระดับประสบการณ์สตรีมหนัง ซีรีส์ แอนิเมชัน วาไรตี้คุณภาพบนแพลตฟอร์มให้ เต็มตา คมชัดแบบ Full HD กับแพ็กเกจล่าสุดอย่าง “แพ็กเกจมาตรฐาน” ที่ตอบโจทย์ด้านอรรถรสการสตรีมมากขึ้น พร้อมมอบความตื่นตาไปกับหลากหลายคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย จนต้องติดดาว
สตรีมจอใหญ่ เต็มตาคมชัดแบบ Full HD ได้สำหรับทุกคน
ล่าสุด Disney+ Hotstar เปิดตัวแพ็กเกจใหม่เพื่อมอบประสบการณ์การสตรีมคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย “แพ็กเกจมาตรฐาน” ซึ่งมาพร้อมฟีเจอร์ให้สามารถสตรีมคอนเทนต์ได้หลากหลายอุปกรณ์ ทั้งมือถือ แล็ปท็อป แท็บเล็ต และโทรทัศน์ที่รองรับได้ จำนวน 2 หน้าจอพร้อมกัน รวมถึงคุณภาพเสียงสูงสุด Dolby Atmos และคุณภาพวิดีโอสูงสุดแบบ Full HD ซึ่งแพ็กเกจมาตรฐานรายเดือนราคา 199 บาทต่อเดือน และแพ็กเกจมาตรฐานรายปี (12 เดือน) ราคา 1,590 บาทต่อปี (เฉลี่ย 133 บาทต่อเดือน)* นอกจากนี้ในส่วนของ “แพ็กเกจพรีเมียม” ฟีเจอร์ทุกอย่างและราคาจะยังคงเดิมที่ราคา 289 ต่อเดือน และรายปี ราคา 2,290 บาทต่อปี (เฉลี่ย 190 บาทต่อเดือน)*
*เมื่อสมัครแพ็กเกจมาตรฐานรายปี (12 เดือน) ราคา 1,590 บาท เฉลี่ย 132.5 บาท/เดือน ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ help.hotstar.com กำหนดให้สมัครสมาชิก ©️ 2567 ดิสนีย์และบริษัทในเครือที่เกี่ยวข้อง สงวนสิทธิ์ทุกประการ
เปิดรายละเอียดแพ็กเกจ Disney+ Hotstar
|
แพ็กเกจมาตรฐาน |
แพ็กเกจพรีเมียม |
ค่าบริการ รายเดือน* |
199 บาท |
289 บาท |
ค่าบริการ รายปี* |
1,590 บาท |
2,290 บาท |
สามารถดูได้ทุกเรื่อง |
✓ |
✓ |
การดาวน์โหลดสำหรับบางคอนเทนต์ (เฉพาะบนอุปกรณ์มือถือเท่านั้น สูงสุด 10 อุปกรณ์)** |
✓ |
✓ |
จำนวนอุปกรณ์ที่เข้าสู่ระบบได้สูงสุด |
สูงสุด 4 อุปกรณ์ |
สูงสุด 10 อุปกรณ์ |
จำนวนโปรไฟล์ที่สร้างได้ |
สูงสุด 7 โปรไฟล์ |
สูงสุด 7 โปรไฟล์ |
จำนวนอุปกรณ์ที่สตรีมได้พร้อมกัน |
2 หน้าจอ |
4 หน้าจอ |
สตรีมผ่าน AirPlay หรือการแคสต์ |
✓ |
✓ |
คุณภาพของวิดีโอสูงสุด^ |
สูงสุด FHD (1080p) |
สูงสุด 4K Ultra HD |
คุณภาพของเสียงสูงสุด^ |
สูงสุด Dolby Atmos (5.1 Dolby) |
สูงสุด Dolby Atmos (5.1 Dolby) |
อุปกรณ์ที่สามารถสตรีมได้ |
มือถือ, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, ทีวี |
มือถือ, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป, ทีวี |
ตื่นตากับคอนเทนต์คุณภาพ จนต้องติดดาว
สำหรับแพ็กเกจใหม่นี้เป็นการตอกย้ำพันธกิจ ในการสร้างประสบการณ์การสตรีมแบบดีเยี่ยม ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์คอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัยจากฮอลลีวูด คอนเทนต์ออริจินัลจากเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ฮิตติดกระแส talk of the town อย่าง Disney and Pixar’s Inside Out 2 กับภาคต่อที่จะติดตามการเติบโตของไรลีย์ ที่ตอนนี้ได้ก้าวเข้าสู่วัยรุ่น และแน่นอนนั่นหมายถึงตัวละครที่แทนอารมณ์ที่เพิ่มขึ้นไปด้วย หรือ Moving จากทางฝั่งเกาหลี กับเรื่องราวของเหล่าเจ้าหน้าที่สายลับจากเกาหลีใต้ที่ทำงานเพื่อปกป้องเหล่าเด็ก ๆ ผู้มีพลังพิเศษจากอันตรายและการแสวงหาผลประโยชน์จากหน่วยงานรัฐบาล โดยซีรีส์ดังกล่าวได้สร้างกระแส “วันพุธแห่งชาติ” จากการตั้งตารอคอยของแฟน ๆ ทุกวันพุธนับตั้งแต่วันเปิดตัววันแรก
คอนเทนต์คุณภาพระดับโลกที่คว้ารางวัล award-winning อย่าง FX’s “The Bear” ซีรีส์คอมเมดี้ยอดฮิตดีกรีรางวัล Emmy® Awards กับเรื่องราวของเชฟหนุ่มผู้ลุกขึ้นมาสานต่อร้านอาหารเก่ากับบททดสอบอันโหดหินบนเส้นทางธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงซีรีส์เกาหลีน้ำดีระดับรางวัลอย่าง Revenant ที่ว่าด้วยเรื่องราวของ กูซานยอง กับคำสาปชะตาชีวิตที่ไม่ว่าไปที่ไหนโศกนาฏกรรมต้องตามติดเธอไปทุกหนแห่ง นำแสดงโดยนางเอกระดับแนวหน้าอย่าง คิมแทรี ที่ได้คว้ารางวัลแดซัง ซึ่งเป็นรางวัลใหญ่ที่สุดจากเวที 2023 SBS Drama Awards
คอนเทนต์ที่นักวิจารณ์ยกให้เป็น critics’ picks อย่าง What If…? ซีรีส์แอนิเมชันจากมาร์เวล กับการตั้งคำถามของ “เดอะ วอชเชอร์” ที่จะมาทำให้ผู้ชมนึกถึงเหตุการณ์อื่น ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยการสมมุติเหตุการณ์ที่นอกเหนือจากเส้นเวลาปกติ
คอนเทนต์ high production ระดับฮอลลิวูด อย่าง Kingdom of the Planet of the Apes กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังยุคของ ซีซาร์ ซึ่งเป็นยุคที่เหล่าวานรต่างอยู่ดีเป็นสุขในฐานะสิ่งมีชีวิตที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ในขณะที่มนุษย์เองต้องใช้ชีวิตอยู่ในเงาของวานร
คอนเทนต์ยอดนิยมที่ทำลายสติถิ record breaking บนดิสนีย์พลัส ฮอตสตาร์ อย่าง A Shop For Killers ที่ได้เปิดสตรีมกันไปเมื่อช่วงต้นปี พร้อมยกขบวนนักแสดงมากความสามารถอย่าง อีดงอุค มารับบท จองจินมัน “คุณอาผู้ลึกลับ” และ คิมฮเยจุน ในบทบาท จองจีอัน นักศึกษามหาวิทยาลัยที่ต้องคอยหลบหนีจากเหล่าฆาตรกรและมือสังหาร
พร้อมด้วยคอนเทนต์อีกมากมาย เพื่อมอบความตื่นตาไปกับหลากหลายคอนเทนต์คุณภาพเพื่อคนทุกวัย จนต้องติดดาวบน Disney+ Hotstar