แพทย์ศิริราชได้ออกมาเตือนภัยอันตรายสำหรับผู้ที่ชื่นชอบใช้งานสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ตอนปิดไฟ ซึ่งอาจส่งผลต่อดวงตาและอาจทำให้ตาบอดได้
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2557 รศ. นพ.นริศ กิจณรงค์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ในฐานะเลขาธิการราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับดวงตามากกว่าร้อยละ 80 สาเหตุมาจากการได้รับรังสียูวี (UV) 400, ยูวีเอ (UVA) 1 และแสงสีฟ้าจากการจ้องมองคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน เป็นเวลานานเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน
นอกจากนี้ ผู้ป่วยมีทั้งผู้สูงอายุ วัยทำงาน และเด็ก พฤติกรรมที่พบส่วนใหญ่ คือ ช่วงเวลาก่อนนอนจะหยิบสมาร์ทโฟนมาเล่นในขณะที่ปิดไฟแล้ว ซึ่งเป็นส่วนที่เร่งให้มีอาการทางสายตาเพิ่มขึ้น อันตรายจากแสงยูวี แสงสีฟ้าที่อยู่ในจอสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ จะทำลายดวงตาเมื่อจ้องเป็นเวลานาน เนื่องจากการกะพริบตาจะน้อยลง
โดยปกติคนเราจะกะพริบตาประมาณ 20 ครั้งต่อนาที เพื่อให้ตาได้รับความชุ่มชื้น การเพ่งมองเป็นเวลานานจะทำให้ตาแห้ง แสบตา ส่งผลให้การมองเห็นเริ่มผิดปกติ เห็นภาพซ้อน ภาพไม่ชัด พร่ามัว ปวดเบ้าตา กล้ามเนื้อตาอ่อนล้า คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งเป็นอาการเริ่มต้นของโรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม และเป็นส่วนที่ทำให้เกิดต้อเนื้อ ต้อลม และจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งพบมากขึ้นเรื่อย ๆ และรักษาได้ยากจนอาจส่งผลทำให้ตาบอดได้
ใครที่มีพฤติกรรมดังกล่าวอยู่ ควรที่จะงดการใช้งานอุปกรณืต่างๆในที่มืด เพราะจะส่งผลอันตรายให้กับดวงตาของเราได้ ควรที่จะใช้งานในที่มีแสงสว่างเพียงพอ และไมใ่ควรใช้งานหรือจ้องเป็นเวลานานๆ