นายซิคเว่ เบรคเก้ รองประธานกรรมการเทเลนอร์กรุ๊ป และเจ้าหน้าที่บริหารสูงสุด เทเลนอร์ เอเชีย เปิดเผยว่า วันนี้ (1 เมษายน) dtac ได้เปิดให้บริการ 4G ทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ ได้เสร็จสมบูรณ์ตามคำมั่นสัญญาที่ประกาศไว้ โดยได้ส่งมอบโครงข่าย 3G HSPA และ 4G LTE บนคลื่น 2100 MHz ด้วยจำนวนโครงข่าย 6,700 สถานีฐาน ในกรุงเทพฯ และ 40 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ แบ่งเป็นสถานีฐาน 4G LTE ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ 3,000 สถานี และเป็นสถานีฐาน 3G HSPA อีก 3,700 สถานี พร้อมก้าวสู่จุดหมายในการเป็นผู้นำในการให้บริการอินเทอร์เน็ต
“นับจากวันแรกที่ dtac เริ่มทยอยเปิดให้บริการ 4G LTE อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เราได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า ด้วยจำนวนการใช้งานกว่า 970,000 ราย ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 ล้านรายภายในสิ้นปีนี้”
อย่างไรก็ตาม จากความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่มีความรวดเร็วเพื่อการใช้งาน ด้านข้อมูลนั้น ทำให้ปริมาณการใช้ 4G LTE ของลูกค้า dtac ต่อคนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.2 GB ต่อเดือน ส่วนจำนวนอุปกรณ์ที่พร้อมรองรับการใช้งาน 4G LTE นั้น ปัจจุบันมีสมาร์ทโฟนที่รองรับแล้วกว่า 1.75 ล้านเครื่อง
โดยในปัจจุบัน ทาง dtac ได้ให้บริการ 4G LTE บนคลื่นความถี่ 2100 MHz ด้วยขนาดช่องสัญญาณ 5 MHz และทาง dtac มีแผนเจรจากับทาง กสท. โทรคมนาคม นำการนำคลื่น 1800 MHz จำนวน 10 Mhz ภายใต้สัญญาสัมปทาน นำมาบริการ 4G LTE เพื่อให้การใช้งาน 4G LTE ได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น
นายซิคเว่ กล่าวอีกว่า สำหรับคลื่น 1800 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 25 เมกะเฮิรตซ์ที่เคยยื่นความจำนงว่าจะคืนให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจาย เสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อนำไปใช้ในการประมูลใบอนุญาต 4จีนั้น dtac ก็ยังยืนยันว่าจะคืนคลื่นความถี่ดังกล่าวเช่นเดิม ขณะเดียวกันก็มีความพร้อมในการประมูลใบอนุญาต 4จี อย่างเต็มที่ ส่วนประเด็นที่จะมีการประมูลเพียง 4 ใบอนุญาตนั้น มองว่าเป็นจำนวนที่น้อยเกินไป เนื่องจากแต่ละโอเปอเรเตอร์อาจต้องการรายละ 2 ใบอนุญาต