ฟิตบิทเปิดตัว Fitbit Charge 5 ฟิตเนสแทรคเกอร์สุดล้ำ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณสามารถวัดความพร้อมของร่างกาย ตรวจเช็คความเครียด ดูแลสุขภาพหัวใจ วัดคุณภาพการนอนหลับ และสุขภาพในทุกมิติไว้ในเครื่องเดียว ด้วยดีไซน์ที่บางลงและทันสมัยมากขึ้น จอภาพสีที่สว่างขึ้น กับแบตเตอรีที่อึดสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 วัน โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สะดวกสบายให้คุณได้ใช้งานตามต้องการโดยไม่มีอุปสรรค์ใด ๆ
และด้วยสมาชิก Fitbit Premium นาน 6 เดือนที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง[1] ทำให้คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้านสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติตามได้และวิธีการออกกำลังกายกว่า 500 แบบ ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจิตและการกินที่ช่วยให้คุณสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับร่างกายของคุณได้ในแต่ละวัน
เสียเหงื่ออย่างชาญฉลาด
ด้วยฟังก์ชั่นใหม่ Daily Readiness ที่มาพร้อมกับ Fitbit Premium ซึ่งจะสามารถใช้ได้เร็ว ๆ นี้ในฟิตบิทรุ่น Charge5, Sense, Versa 3, Versa 2, Luxe และ Inspire 2 ทำให้คุณสามารถทำความเข้าใจร่างกายของตัวเอง ว่าพร้อมสำหรับการออกกำลังกายหรือไม่ หรือควรจะให้ความสำคัญกับการพักฟื้น โดยในตอนเช้าของทุกวัน คุณจะได้รับคะแนนที่ประเมินความอ่อนล้าของร่างกาย ระดับการเต้นของหัวใจ (HRV) และคุณภาพจากการนอนหลับครั้งล่าสุด และข้อมูลที่วิเคราะห์ว่าปัจจัยใดมีผลกับคะแนน พร้อมคำแนะนำ เช่น Active Zone Minutes และคอนเทนท์บน Fitbit Premium ที่ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง โดย Fitbit Charge 5 ยังมาพร้อมกับ GPS ในตัวเครื่อง พร้อมโหมดการออกกำลังกว่า 20 แบบ ระบบตรวจจับการออกกำลังกายอัตโนมัติ และค่าประมาณ V02 max ของคุณ นอกจากนี้ ด้วยสมาชิก Fitbit Premium คุณยังสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การออกกำลังกายกว่า 200 แบบจากเทรนเนอร์ที่ได้รับการรับรองและแบรนด์ดังต่าง ๆ เช่น Daily Burn, barre3, obé และการออกกำลังกายด้วยพลังงานสูงแบบใหม่จาก LES MILLS
ลดความเครียด ผ่อนคลายจิตใจ
ในช่วงปี 2020 พบว่า ผู้ใหญ่กว่า 40% ต้องเผชิญกับความเครียดเป็นอย่างมาก และเพื่อช่วยให้คุณสามารถจัดการความเครียดได้ดียิ่งขึ้น Charge5 จะเป็นแทรคเกอร์ตัวแรกที่มีเซนเซอร์ EDA ที่คอยวัดการตอบสนองของร่างกายของคุณต่อความเครียด ที่วัดจากการเปลี่ยนแปลงของต่อมเหงื่อบริเวณนิ้วมือ ซึ่ง ฟิตบิท ได้เปิดตัว EDA เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้วพร้อมกับ Fitbit Sense และพบว่า 70% ของผู้ใช้ สามารถลดอัตราการเต้นของหัวใจลงได้ ในระหว่างการทำ EDA Scan เป็นเวลา 2 นาที ซึ่งพิสูจน์ว่าเครื่องมือเหล่านี้สามารถช่วยลดความเครียดได้จริง[2]
ซึ่ง Charge5 ยังมีฟีเจอร์ Stress Management Score บนแอปพลิเคชัน Fitbit ที่ช่วยให้คุณได้ข้อมูลในทุกเช้าว่า คุณพร้อมสำหรับความท้าทายที่มากขึ้นหรือต้องการการพักผ่อน ด้วยระบบสมาชิก Premium คุณยังสามารถเข้าถึงคอนเทนต์การทำสมาธิกว่า 300 แบบจากแบรนด์และผู้เชี่ยวชาญต่าง ๆ เพื่อช่วยให้คุณจัดการความเครียดได้อีกด้วย นอกจากนี้ ฟิตบิทยังจะประกาศความร่วมมือกับ Calm แอปพลิเคชั่นอันดับ 1 ด้านการนอน นั่งสมาธิ และการผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยให้สมาชิก Fitbit Premium เข้าถึงเนื้อหาของ Calm ได้อีกด้วย[3]
ลงลึกกับสุขภาพของคุณในทุกด้าน
เรายังช่วยให้คุณใส่ใจสุขภาพหัวใจของตัวเอง โดยที่ Charge 5 สามารถตรวจจับการเต้นของหัวใจของคุณตลอดเวลา และทำการแจ้งเตือนเมื่ออัตราการเต้นของหัวใจสูงหรือต่ำกว่าระดับปกติที่เป็นระดับเฉพาะตัวของคุณ ซึ่งอาจจะช่วยบ่งบอกอาการของหัวใจที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์
นอกจากจะช่วยจัดการสุขภาพหัวใจของคุณแล้ว Charge 5 ยังนำเสนอภาพรวมของเมตริกที่สำคัญต่อสุขภาพของคุณผ่านทาง Health Metrics Dashboard ในแอป Fitbit ซึ่งรวมถึงข้อมูลอัตราการหายใจ การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิผิวหนัง และ SpO2[4] และด้วยสมาชิกแบบ Premium คุณยังสามารถแทร็คการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวและข้อมูลเฉพาะตัวของคุณ
และเพราะว่าการนอนก็สำคัญกับสุขภาพ คุณจะได้รับบริการจากเครื่องมือเกี่ยวกับการนอนหลับชั้นนำอย่างต่อเนื่อง เช่น Sleep Score แบบรายวัน Sleep Stages และฟีเจอร์ปลุกอย่าง SmartWake นอกจากนี้ สมาชิก Fitbit Premium จะได้รับบทวิเคราะห์เชิงลึกและแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการนอนอีกด้วย
ออกแบบมาสำหรับความสะดวก สมรรถภาพ และความสบาย
นอกเหนือจากการสนับสนุนด้านสุขภาพและฟิตเนสแล้ว ยังมอบฟีเจอร์เพื่อความสะดวกให้คุณ ด้วยการปัดเพียงปลายนิ้ว ดูสถิติ จ่ายเงินแบบไร้การสัมผัส รับ/ส่งการแจ้งเตือน จากสมาร์ทโฟนของคุณ (พร้อมฟังก์ชั่นตอบกลับด่วนบนมือถือในระบบ Android) ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถเลือกหน้าปัดนาฬิกาสีสดใสได้ถึง 20 แบบเพื่อปรับเปลี่ยนการมองเห็นข้อมูลที่คุณอยากรู้มากที่สุด
ด้วยขนาดที่บางกว่ารุ่นก่อนหน้า 10% ฟิตบิต Charge 5 ยังมีดีไซน์แบบแอโรไดนามิกส์ที่เพิ่มสมรรถภาพและดีไซน์ทางวิศวกรรมสำหรับการสวมใส่แบบไร้รอยต่อ ด้วยหน้าจอสีแบบ AMOLED Charge 5 เป็นแทรคเกอร์ตัวแรกที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Always-on-display ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้คุณมองเห็นหน้าจอได้ตลอดเวลาออกกำลังกาย ด้วยหน้าจอที่สว่างเป็นสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า คุณยังสามารถมองเห็นค่าต่าง ๆ ได้แม้ในวันแดดจ้า นอกจากนี้ คุณยังสามารถปรับเปลี่ยนลุคได้ตลอดเวลา ด้วยสายรัดข้อมือซิลิโคนแบบอินฟินิตีน้ำหนักเบา สายรัดข้อมือแบบสปอร์ตระบายอากาศ สายรัดข้อมือไนลอนแบบนิ่ม และสายรัดข้อมือหนังทำมือสุดพรีเมี่ยมจาก Horween
Fitbit Charge 5 จะจำหน่ายที่ราคา 7,690 บาท และจะมาพร้อมกับสมาชิก Fitbit Premium เป็นเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ คุณสามารถสั่งจอง Charge 5 ทางช่องทางออนไลน์ได้แล้ววันนี้ทางเว็บไซต์ Fitbit.com โดยสินค้าจะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
[1] สำหรับผู้ใช้งานใหม่และผู้ใช้งานปัจจุบันของ Fitbit Premium โดยเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข คอนเทนต์ Fitbit Premium อาจแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ และบางคอนเทนต์มีให้ใช้งานเฉพาะในภาษาอังกฤษ
[2] จากการรวบรวมข้อมูลโดยไม่ระบุตัวตนจากผู้ใช้ Fitbit Sense ที่อายุมากกว่า 18 ปี 10,000 คนจากทั่วโลก ระหว่างเดือนธันวาคม 2020 ถึงเดือนมกราคม 2021
[3] คอนเทนต์จาก Calm รองรับการใช้งานในภาษาอังกฤษ สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส เยอรมัย ญี่ปุ่น และเกาหลี
[4] Health Metric Dashboard สามารถใช้งานได้ในบางพื้นที่ และไม่ควรใช้สำหรับการวินิจฉัยทางการแพทย์