บริษัทวิจัยจากจีนตีพิมพ์รายงานว่าอุปทานของหน้าจอ OLED ประเภทดัดงอได้ (Flexible OLED) ยังคงขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการต่อไปในอนาคตอีกหลายปี สาเหตุก็เพราะโรงงานที่สามารถผลิตปริมาณมากได้มีอยู๋น้อย และส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมตัวเข้าสู่การผลิตจำนวนมหาศาลเพื่อตอบโจทย์อุตสาหกรรม
Sigmantell บริษัทวิจัยดังกล่าวเผยว่าโรงงานใหญ่ๆ อย่าง LG Display, Samsung Dislay, Tianman และ BOE น่าจะกลายเป็นเจ้าตลาด OLED (และ POLED) ในอนาคตไม่ยากนัก โดยคาดว่าในสามปีข้างหน้าจะมีเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมหน้าจอดังกล่าวราวๆ $90,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเป็นจากฝั่งจีนราวๆ $30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากการประเมินคาดว่ากว่าสถานการณ์ของหน้าจอประเภท Flexible OLED จะเริ่มนิ่งและมีเพียงพอต่อความต้องการอาจจะต้องรอไปจนถึงอีก 5 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว ระหว่างนั้น Samsung จะยังคงเป็นเจ้าตลาด ทั้งในแง่ของผู้ผลิตได้มากที่สุด และมีลูกค้ามากที่สุด เนื่องจากผลิตทั้ง POLED (Plastic OLED) และ Flexible OLED ไปพร้อมๆ กัน
ความนิยมของหน้าจอ OLED ทั้งสองแบบเริ่มได้รับความสนใจจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายต่างๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทำให้ออกแบบสมาร์ทโฟนแตกต่างไปจากเดิมได้มากขึ้น เช่นการทำตัวอ่านลายนิ้วมือใต้หน้าจอที่จะเป็นมาตรฐานของปีหน้า หรือสมาร์ทโฟนจอไร้ขอบที่หลายๆ เจ้าเริ่มทำกันมากขึ้น โดยคาดว่าในปี 2020 สมาร์ทโฟนจะมีอัตราส่วนหน้าจอเยอะขึ้น โดยมือถือกลุ่มหน้าจอใหญ่อัตราส่วนเยอะนี้จะเป็นสัดส่วน 80%ข องมือถือทั้งหมดเลยทีเดียว
แน่นอนว่าปัจจัยที่หนุนให้ OLED เกิดเต็มที่ในปีนี้มีหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ AMOLED มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า LCD เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว และ Apple ทำการสั่งซื้อหน้าจอ OLED จาก Samsung เป็นจำนวน 70 ล้านชิ้น ทำให้เกิดการขาดแคลนไปทั่วโลก
นอกจากนี้หน้าจอ OLED ยังถูกใช้งานในวงการหน้าจอขนาดใหญ่อย่าง TV ด้วยเช่นกัน
ที่มา – FirstPost