คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Fortnite เป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในปี 2018 โดยกระแสเริ่มมาแรงตั้งแต่ปลายปีที่แล้วและกลบกระแส PUBG ไปหมดในเวลาอันรวดเร็ว
Epic Games เผยรายได้ตลอดทั้งปีว่ามีกำไรรวมทั้งสิ้น $3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้รายได้พุ่งทะยานสูงขนาดนี้เป็นเพราะ Fortnite นั่นเอง แต่ไม่ใช่แค่ตัวเกมส์ดังเปรี้ยงปร้างเท่านั้นที่ทำให้รายได้พุ่งสูงเป็นประวัติการ
ตัวเกมส์ Fortnite นั้นออกมาตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว แต่เพิ่งมาดังเอาสุดๆ ก็ตอนที่ออกโหมด Battle Royale และลง iOS ทำให้ฐานผู้เล่นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีแค่คอมพิวเตอร์ กับเครื่องเล่นเกมส์คอนโซล (PS4, Xbox One) พอเข้ามาปี 2018 ก็มีเพิ่ม Android กับ Nintendo Switch เข้ามาอีก ทำให้ตัวเกมส์ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มสมกับที่เป็นเกมส์จากผู้พัฒนาเอนจิ้นเกมส์ดังอย่าง Unreal Engine
ทาง Sensor Tower วิเคราะห์พบว่า Fortnite เวอร์ชัน iOS สร้างรายได้ทั้งสิ้น $385 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีนี้ แต่ไม่มีข้อมูลสำหรับ Android เนื่องจากตัวเกมส์ไม่ได้อยู่บน Google Play Store
จากความสำเร็จนี้ทำให้เอนจิ้น Unreal Engine ดีขึ้นไปอีก เนื่องจาก Epic Games ต้องพัฒนาเกมส์ลงทุกแพลตฟอร์ม และเจอบั๊ก และช่องโหว่ต่างๆ ทำให้แก้ไขได้รวดเร็ว ส่งผลให้นักพัฒนาเกมส์สนใจ Unreal Engine มากขึ้นเพราะว่าทำเกมส์แล้วพอร์ตไปลงเครื่องเล่นอื่น (หรือแม้กระทั่งมือถือ) ได้ไม่ยากนัก น่าเสียดายที่ Fortnite น่าจะทำรายได้ได้เยอะกว่านี้ แต่ทว่ารัฐบาลจีนสั่งระงับการออกใบอนุญาตให้เกมส์เข้าไปจำหน่าย หรือเปิดให้เล่นในจีนได้ไปพักใหญ่ๆ ทำให้ไม่สามารถหาเงินจากตลาดจีนได้โดยตรง
นอกจากนี้ Epic Games ยังเปิดสโตร์เกมส์ของตัวเองในชื่อ Epic Games Store แข่งกับ Steam ของ Valve ที่ครองตลาดร้านขายเกมส์ออนไลน์บนพีซีมานับสิบปี โดยระบุว่าจะให้ส่วนแบ่งกับนักพัฒนาเกมส์มากกว่า และมีส่วนลดให้ถ้าหากใช้เอนจิ้น Unreal Engine แล้วขายบน Epic Games Store
แม้จะฟังดูดี แต่ก็มีเรื่องน่าเสียดายอยู่บ้าง เพราะ Epic Games แทบจะขนทีมงานนักพัฒนาทั้งหมดไปทำเกมส์ Fortnite ทำให้เกมส์อื่นๆ ในเครือชะงักไปไม่น้อย กว่าเราจะเห็นเกมส์อื่นจาก Epic ก็คงจะอีกพักใหญ่ๆ เพราะตอนนี้ทุ่มทรัพยากรเต็มที่เพื่อจะหาเงินจาก Fortnite ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
ที่มา – Android Authority