สถานการณ์ iPhone ของปีนี้สั่นคลอนไปพักใหญ่ หลังจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ประเทศจีนสั่งปิดโรงงานทั้งประเทศ และสั่งให้ประชาชนกักตัวอยู่แต่ในที่พักตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์
Foxconn ออก statement รายงานสถานการณ์ว่าตอนนี้มีกำลังการผลิตเต็ม 100% หลังจากต้นเดือนที่ผ่านมาประเมินว่ามีกำลังการผลิตเพียง 50% เท่านั้น และพร้อมจะเดินหน้าผลิตตามคำสั่งของบริษัทคู่ค้าต่างๆ
โดยปกติแล้ว Apple จะเริ่มผลิต iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกรกฏาคม (และเปิดตัวในเดือนกันยายน) โดยปีนี้ข่าวลือเผยว่าจะมี iPhone ทั้งหมดสี่รุ่นได้แก่
- iPhone 12 (5.4 นิ้ว)
- iPhone 12 (6.1 นิ้ว)
- iPhone 12 Pro (6.1 นิ้ว)
- iPhone 12 Pro (6.7 นิ้ว)
ทั้งสี่รุ่นจะใช้หน้าจอ OLED ทั้งหมด ไม่มีรุ่นหน้าจอ LCD อีกต่อไป ส่วนชิปประมวลผลจะใช้ Apple A14 ที่ผลิตโดย TSMC และย้ายไปใช้กระบวนการผลิต 5nm ทำให้มีทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม และประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด สำหรับรุ่น iPhone 12 จะคล้ายกับ iPhone 11 ของปีที่ผ่านมา ส่วน iPhone 12 Pro จะมีเหมือนกับรุ่นปีที่แล้ว แต่เพิ่มเซนเซอร์ LiDAR ToF ที่วัดระยะห่างของวัตถุด้านหลังมือถือได้ ทำให้มีเซนเซอร์ด้านหลังรวมทั้งหมดสี่ตัว
อย่างไรก็ตามแม้ว่า Foxconn จะผลิต iPhone 12 ได้มากเพียงพอต่อคำสั่งผลิตของ Apple แต่ปัญหาของปีนี้คงจะเป็นเรื่องการวางจำหน่าย เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส และอาจจะส่งผลให้ยอดขายตกต่ำลงกว่าเดิมนั่นเอง เนื่องจากผู้คนไม่อยากจะใช้เงินสดเพราะต้องเก็บเอาไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินนั่นเอง
ที่มา – Phone Arena