ในยุคที่การทำงานไม่ได้จำกัดอยู่เพียงที่ออฟฟิศเท่านั้น ทำให้การจัดการเรื่องต่างๆ ในเวลาเดียวกัน หรือ Multitasking กลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวัน ซึ่งจากผลสำรวจของซัมซุงพบว่า ผู้ใช้สมาร์ทโฟนกว่า 79% ต่างมองหาดีไวซ์ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถทำหลายอย่างไปพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ[1] ช่วยจัดการไลฟ์สไตล์ที่ซับซ้อนได้อย่างราบรื่น ซึ่งสมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้รุ่นล่าสุดจากซัมซุง Galaxy Z Fold2 5G (กาแลคซี่ ซี โฟลด์ 2 5G) ถือเป็นการนำดีไซน์สุดลักซ์ชัวรี่มาบรรจบกับฟังก์ชันทรงประสิทธิภาพได้อย่างลงตัว มอบประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวได้ ด้วยการรวมหน้าจอขนาดใหญ่ของแท็บเล็ตและความคล่องตัวของสมาร์ทโฟนมาไว้ในเครื่องเดียวแบบ 2-in-1 ผ่านการออกแบบโดยวิศวกรรมขั้นสูง มาในดีไซน์เรียบหรูสุดไอคอนิก พร้อมอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์อันชาญฉลาดเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด
ใช้งาน 3 แอปพลิเคชันได้ในเวลาเดียวกัน
ผลสำรวจยังเผยอีกว่า ผู้ที่ Work From Home กว่า 74% ใช้สมาร์ทโฟนของพวกเขาในการทำหลายอย่างไปพร้อมๆ กัน ทั้งในด้านการทำงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งฟีเจอร์ Multi-Active Window ใน Galaxy Z Fold2 สามารถตอบโจทย์การ Multitask ได้อย่างลงตัว เพราะสามารถเปิดแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้พร้อมกันสูงสุดถึง 3 จอ ช่วยจัดการทุกอย่างให้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ต้องคอยสลับหน้าจอไปมา เช่น ในขณะที่เปิดอีเมล ก็สามารถเช็คข้อมูลในบราวเซอร์และส่งข้อความได้พร้อมกันอย่างราบรื่นบนหน้าจอหลักขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว
พร้อมยังใช้งานได้อย่างง่ายดายด้วยการลากและวาง (Drag and Drop) ไอคอนของแอปที่ต้องการเปิดใช้งานเพิ่มเติม เพียงเท่านี้ก็จะปรากฏหน้าจอที่ 2 และ 3 ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถปรับขนาดของแต่ละจอและ Layout ได้อย่างอิสระทั้งแนวตั้งและแนวนอน นอกจากนี้แถบ Multi-Window Tray ของ Galaxy Z Fold2 5G ยังมาพร้อมฟีเจอร์ App Pair สามารถจับคู่ชุดแอปที่ใช้ร่วมกันบ่อยๆ ได้สูงสุดถึง 3 แอป เพิ่มความสะดวกในการเปิดใช้พร้อมกันด้วยปุ่มเดียว
ส่งข้อมูลข้ามแอปได้ง่ายๆ เพียงการลากและวาง
Galaxy Z Fold2 ทำให้การส่งข้อมูลข้ามแอปพลิเคชันในขณะที่ใช้งานโหมด Multi-Active Window ได้สะดวก สมูธ และรวดเร็วยิ่งขึ้นผ่านฟังก์ชันลากและวาง ทั้งรูปภาพ ข้อความ ตาราง ลิงก์ของเว็ปไซต์ และคอนเทนต์อื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น ส่งกราฟข้อมูลบน Microsoft Excel ไปยัง PowerPoint หรือแชร์ภาพในแกลเลอรี่ไปที่แชทข้อความหรือแนบส่งอีเมล ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องสลับหน้าจอไปมาเพื่อคัดลอกข้อมูลให้ยุ่งยากอีกต่อไป
แคปเจอร์หน้าจอ พร้อมแชร์ต่อได้ด้วยสเต็ปเดียว
ถึงแม้จะเปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกันในโหมด Multi-Active Window แต่หากต้องการแยกสกรีนแคปเจอร์แต่ละหน้าจอ ก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยฟีเจอร์ Split Screen Capture พร้อมสามารถแชร์ต่อได้ในสเต็ปเดียว ไม่ต้องเสียเวลาครอปภาพหรือปิดแอปที่ไม่ต้องการทิ้ง นอกจากนี้ ยังสามารถลากและวางภาพที่แคปเจอร์ไปยังอีกแอปหนึ่งได้ทันที มอบประสบการณ์ Multitasking ที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด
คล่องตัวกว่า ด้วยการใช้งานแบบ Hands-free
ยกระดับการ Multitask ไปอีกขั้น ด้วยประสบการณ์การใช้งานแบบ Hands-free ซึ่งมีนวัตกรรมบานพับ Hideaway Hinge และ Flex Mode เป็นหัวใจหลัก ทำหน้าที่ควบคุมสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ให้สามารถกางออกและตั้งใช้งานได้หลายองศา ปลดล็อครูปแบบการใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น สามารถดูคอนเทนต์ผ่านจอด้านหน้าแบบ Hands-free โดยการวางเครื่องบนพื้นราบแล้วกางจอออกเล็กน้อย หรือจะกางจอให้กว้างขึ้นเพื่อเปลี่ยนไปรับชมที่จอหลักด้านใน ซึ่ง Galaxy Z Fold2 จะแสดงคอนเทนต์ที่จอด้านบนและแผงควบคุมต่างๆ ที่จอด้านล่าง ตอบโจทย์ในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการวิดีโอคอลนอกสถานที่ หรือเปิดรายการทำอาหารในครัว ก็สะดวกและคล่องตัวกว่าที่เคย ไม่จำเป็นต้องพึ่งขาตั้งหรือที่พิงอีกต่อไป
ปรับมุมมอง Layout ได้ตามต้องการ
นอกจากนี้ ยังลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานด้วยการปรับขนาดของตัวอักษร ไอคอน และตั้งค่ามุมมองหน้าจอ จากตัวเลือกของ UI ถึง 3 รูปแบบ ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ถนัดใช้งานหน้าจอมุมกว้าง และผู้ที่ชื่นชอบคอนเทนต์ขนาดใหญ่ อ่านง่ายสบายตา
Galaxy Z Fold2 สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันที่ 3 จากซัมซุง วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ใน 2 เฉดสีสุดคลาสสิกอย่าง Mystic Bronze และ Mystic Black ในราคา 69,900 บาท ที่ Samsung Experience Store หรือ Samsung.com และออนไลน์สโตร์ของผู้ให้บริการเครือข่าย พร้อมกันนี้ยังมีบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ สามารถสั่งทำ Galaxy Z Fold2 5G แบบพิเศษ เลือก Customize สีบานพับของตัวเครื่องเพิ่มได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เฉพาะที่ Samsung.com เท่านั้น
[1] https://news.samsung.com/global/infographic-samsung-survey-smartphones-are-pivotal-work-from-home-tool-with-74-percent-using-their-devices-for-multitasking