Google เผยในงาน Google I/O รอบที่ผ่านมาว่าตั้งแต่สิงหาคมนี้เป็นต้นไป นักพัฒนาจะต้องส่งแอพที่ใช้ระบบติดตั้งผ่าน Android App Bundle Format เท่านั้น
Google อธิบายการทำงานของ App Bundle บนหน้าเว็บของโครงการว่าหลังจากนี้แอพที่โหลดไปติดตั้งบนมือถือ หรือแทบเล็ต (หรือแม้กระทั่ง Chromebook) จะถูกปรับให้เหมาะกับมือถือเครื่องนั้นๆ และจะโหลดเฉพาะไฟล์ที่จำเป็น ไม่ได้โหลดทุกๆ อย่างลงไปเหมือนกับที่ทำอยู่ในปัจจุบัน โดยกระบวนการเลือกไฟล์ที่ใช้จะเกิดขึ้นตอนที่เราสั่งดาวน์โหลดแอพจาก Play Store
ไฟล์ที่ดาวน์โหลดนี้จะยังถูกโหลดมาเป็นไฟล์ APK เหมือนเดิม แต่ผู้ใช้งานจะไม่สามารถนำไปติดตั้งบนอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ที่มีความแตกต่างกัน เช่นความละเอียดหน้าจอที่ไม่เท่ากัน แม้จะเป็นโทรศัพท์เหมือนกันก็ตาม
การประกาศเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นเหมือนฟ้าผ่าลงมากลาง Windows 11 ที่ประกาศว่าสามารถติดตั้งแอพจาก Amazon App Store ได้ และสามารถติดตั้งไฟล์ APK จากที่อื่นได้ด้วย เพราะถ้าหากแอพบนมือถือจะเป็นเวอร์ชันที่มีแค่ข้อมูลสำหรับมือถือเครื่องรุ่นนั้นๆ เท่านั้น การนำไปติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ก็จะมีปัญหาเรื่องที่ขาดข้อมูลหลายๆ ส่วนเช่นการแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่
สำหรับ Amazon App Store นั้นจะยังคงใช้ระบบ APK แบบเดิมต่อไป และจะเป็น Store หลักสำหรับแอพ Android บน Windows 11 ข่าวนี้เพียงแต่บ่งชี้ว่าแต่ผู้ใช้งานทั่วไปไม่สามารถถอดไฟล์ APK ที่โหลดมาจาก Play Store ของเครื่องตัวเองไปติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายๆ อย่างที่เราคาดการณ์เอาไว้ เหลือแต่เพียงแอพที่ส่งมาบน Amazon App Store ซึ่งจำนวนแอพนั้นยังห่างชั้นกับแอพบน Play Store ค่อนข้างมาก
นโยบายของ Google บอกว่าแอพเก่าจะยังคงใช้ระบบ APK ต่อไปได้ แต่แอพที่ส่งเข้ามาใหม่ตั้งแต่สิงหาคมไป หรือแอพที่อัพเดทตั้งแต่สิงหาคมจะต้องเปลี่ยนไปใช้ App Bundle เท่านั้น
ที่มา – The Verge