อาจจะเป็นปีที่ยากลำบากของ Huawei แต่ความฮึดสู้ก็ยังคงพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ บนสมาร์ทโฟนออกมาอย่างสม่ำเสมอ และช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี Huawei ก็ได้เปิดตัว Huawei Mate 40 Series พร้อมกันถึง 4 รุ่นเช่นเคย โดยยังคงดีไซน์ใกล้เคียงรุ่นก่อน พัฒนาจุดด้อยที่เคยมีให้ดีกว่าเดิม มาดูกันว่าสมาร์ทโฟน Mate Series ในปีนี้จะเป็นอย่างไร
Huawei Mate 40
สำหรับรุ่นแรกนั่นก็คือ Mate 40 ถือเป็นรุ่นน้องสุดของตระกูลนี้ เปิดตัวมาถึง 5 สี นั่นก็คือ Mystic Silver, White, Black, Green และ Yellow หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ขอบโค้ง 68 องศา มาพร้อมขุมพลังหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่อย่าง Kirin 9000E สถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตร หน่วยประมวลผลภาพ 3D ใช้ชิพ Mali-G78 ที่มีแกนประมวลผลมากถึง 22 แกน รองรับการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G และ WiFi 6
กล้องดิจิตอลด้านหลัง 3 เลนส์ยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี LEICA ความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล และยังมีเลนส์ Ultra wide, Telephoto โฟกัสภาพด้วย Laser sensor กล้องหน้าแบบเดี่ยวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K
แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh ชาร์จเร็วด้วย Huawei Super Charge กำลังไฟ 40 วัตต์ และในรุ่นนี้ก็ยังมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้ด้วย
Huawei Mate 40 เปิดตัวในราคา 899 ยูโร หรือประมาณ 33,000 บาท*
สรุปสเป็ค
- ขนาดตัวเครื่อง 158.6 x 72.5 x 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก : 184 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G
- หน้าจอแสดงผล OLED Plus ขนาด 6.5 นิ้ว หน้าจอขอบโค้ง 68 องศา
- ความละเอียด FHD+ (2376 x 1080 พิกเซล) แสดงผล 90 Hz
- ระบบปฏิบัติการ Android 10, EMUI 11
- CPU: Kirin 9000E Octa-core ความเร็ว 3.13 GHz
- GPU: Mali-G78 22-core
- หน่วยความจำ RAM : 8 GB
- ความจุตัวเครื่อง 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว ระบบ Laser sensor focus
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้องเลนส์ Ultra-Wide 18 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องเลนส์ Telephoto 6 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล f/2.4
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K
- แบตเตอรี่ 4200 mAh
- รองรับการชาร์จสูดสุด 40W ด้วย Huawei Super Charge
- ปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และใบหน้า
- ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP53
- มีสีให้เลือก 5 สี Mystic Silver, White, Black, Green และ Yellow
Huawei Mate 40 Pro
อัพขึ้นมาอีกระดับด้วย Mate 40 Pro มีสีให้เลือก 5 สีเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ Mystic Silver, White, Black, Green และ Yellow ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 6.76 นิ้ว หน้าจอขอบโค้ง 88 องศา แสดงผลได้ 90 Hz มีกล้องหน้า 2 เลนส์เพื่อการถ่ายเซลฟี่ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
หน่วยประมวลผลหลักใช้ชิพ Kirin 9000 ที่รองรับเครือข่าย 5G อัพแน่นด้วยทรานซิสเตอร์ถึง 150,000 ล้านตัวบนสถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตร และหน่วยประมวลผลภาพ 3D ใช้ชิพ Mali-G78 ที่มีถึง 24 แกนประมวลผล
กล้องหลัง 3 เลนส์เช่นเดียวกับ Mate 40 แต่เพิ่มความละเอียดของเลนส์ Ultra Wide และเลนส์ Telephoto เข้ามา ส่วนกล้องหน้าก็ยังคงความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือ Depth sensor ที่ช่วยให้การถ่ายภาพ Portrait เบลอหลังได้สมจริงยิ่งขึ้น ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K
ในเรื่องของระบบชาร์จก็อัพเกรดให้เร็วขึ้นด้วย Huawei Super Charge กำลังไฟถึง 66 วัตต์ และยังรองรับการชาร์จไร้สายกำลังไฟสูงถึง 50 วัตต์ด้วย สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุอยู่ที่ 4400 mAh
Huawei Mate 40 Pro เปิดตัวในราคา 899 ยูโร หรือประมาณ 44,000 บาท*
สรุปสเป็ค
- ขนาดตัวเครื่อง 162.9 x 75.5 x 9.1 มิลลิเมตร น้ำหนัก : 212 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G
- หน้าจอแสดงผล OLED Plus ขนาด 6.76 นิ้ว ขอบโค้ง 88 องศา
- แสดงผล 90 Hz ความละเอียด FHD+ (2772 x 1344 พิกเซล)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10, EMUI 11
- CPU: Kirin 9000 Octa-core ความเร็ว 3.13 GHz
- GPU: Mali-G78 24-core
- หน่วยความจำ RAM : 8 GB
- ความจุตัวเครื่อง 256 GB
- กล้องหลัง 3 ตัว ระบบ Laser sensor focus
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้องเลนส์ Ultra-Wide 20 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้องเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/3.4
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล f/2.4 พร้อม Depth Sensor
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K
- แบตเตอรี่ 4400 mAh
- รองรับการชาร์จสูดสุด 66 วัตต์ ด้วย Huawei Super Charge
- รองรับการชาร์จไร้สาย 50 วัตต์
- ปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และใบหน้า
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68
- มีสีให้เลือก 5 สี Mystic Silver, White, Black, Green และ Yellow
Huawei Mate 40 Pro+
สมาร์ทโฟน Huawei Mate 40 Series รุ่นนี้อัพเกรดความหรูหราและวัสดุด้านหลังมาเป็นเซรามิคด้วยเทคโนโลยี Nano-tech มีให้เลือกสี Ceramic White และ Ceramic Black หน้าจอแสดงผลขนาด 6.76 นิ้ว ขอบโค้ง 88 องศา แสดงผลได้ 90 Hz และยังคงมาพร้อมกล้องหน้าคู่เช่นเดียวกับรุ่น Mate 40 Pro
หน่วยประมวลผลรุ่น Pro+ ก็ยังคงใช้ชิพตัวเดียวกันคือ Kirin 9000 และชิพประมวลผลภาพ 3D อย่าง Mali-G78 ที่มีถึง 24 แกนประมวลผล อัพหน่วยความจำ RAM มาให้ถึง 12 GB และหน่วยความจำ ROM ขนาด 256 GB
และที่เพิ่มเข้ามาคือกล้องหลัง 5 เลนส์ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่เพิ่มเข้ามาคือเลนส์ Super Zoom ที่สามารถซูม Optical ได้สูงสุดถึง 10 เท่า และเลนส์ Depth sensing ถ่ายวิดีโอได้ถึงความละเอียด 4K
สำหรับการชาร์จก็อัพเกรดให้เร็วขึ้นด้วย Huawei Super Charge กำลังไฟถึง 66 วัตต์ และยังรองรับการชาร์จไร้สายกำลังไฟสูงถึง 50 วัตต์ด้วย สำหรับแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุอยู่ที่ 4400 mAh
Huawei Mate 40 Pro+ เปิดตัวในราคา 899 ยูโร หรือประมาณ 51,000 บาท*
สรุปสเป็ค
- ขนาดตัวเครื่อง 162.9 x 75.5 x 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก : 230 กรัม
- รองรับเครือข่าย 5G
- หน้าจอแสดงผล OLED Plus ขนาด 6.76 นิ้ว แสดงผล 90 Hz ความละเอียด FHD+ (2772 x 1344 พิกเซล)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10, EMUI 11
- CPU: Kirin 9000 Octa-core ความเร็ว 3.13 GHz
- GPU: Mali-G78 24-core
- หน่วยความจำ RAM : 12GB
- ความจุตัวเครื่อง 256 GB
- กล้องหลัง 5 เลนส์
- กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.9
- กล้องเลนส์ Ultra-Wide 20 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล f/2.4 ซูมออฟติคอล 3 เท่า
- กล้องเลนส์ Super Zoom 8 ล้านพิกเซล f/4.4 ซูมออฟติคอล 10 เท่า
- กล้อง Depth Sensing
- กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล f/2.4 พร้อม Depth Sensor
- ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K
- แบตเตอรี่ 4400 mAh
- รองรับการชาร์จสูดสุด 66 วัตต์ ด้วย Huawei Super Charge
- รองรับการชาร์จไร้สาย 50 วัตต์
- ปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และใบหน้า
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68
- มีสีให้เลือก 5 สี Ceramic Black, Ceramic White
*สำหรับราคาเปิดตัวทั้ง 3 รุ่นอาจจะดูแพงไปสักนิด แต่โดยปกติแล้วสมาร์ทโฟนที่จำหน่ายในทวีปยุโรปจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่หากเข้ามาจำหน่ายในไทยอาจจะมีราคาถูกลงกว่านี้พอสมควร
รับชมวิดีโองานเปิดตัว Huawei Mate 40 Series
