หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) เดินเกมรุกหนักส่งท้ายปี เปิดตัวไลน์อัปผลิตภัณฑ์เรือธงเริ่มต้นที่กลุ่มสมาร์ทโฟนตอบโจทย์ทุกระดับความต้องการ นำโดย HUAWEI Mate 50 Series ครั้งแรกของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยเก็บภาพสวยในทุกสภาพแสงด้วย F1.4 Ultra-Large Aperture ปรับค่ารูรับแสงผ่านฮาร์ดแวร์ได้ถึง 10 ระดับ เสริมคาแรกเตอร์ภาพให้โดดเด่นตามสไตล์ XMAGE อีกตัวเลือกของสมาร์ทโฟนราคาสบายกระเป๋า HUAWEI nova Y61 จัดเต็มด้วยสเปคครบเครื่องในราคาสบายกระเป๋ากับสเปคโดนใจ 3 กล้อง ความละเอียด 50MP แบตอึด 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge กลุ่มแท็บเล็ตเริ่มที่ระดับเรือธงอย่าง HUAWEI MatePad Pro 12.6 2022 ยกระดับคุณภาพชีวิตให้สมาร์ทยิ่งขึ้นตอบรับความบันเทิงและการใช้งานเต็มรูปแบบผ่านหน้าจอ OLED 12.6 นิ้ว อัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz รองรับปลายปากกา M-Pencil ที่ตอบสนองได้เสมือนสัมผัสปากกาจริง เชื่อมต่ออีโคซิสเต็มหัวเว่ยได้รวดเร็วทันใจผ่าน SuperDevice ปิดท้ายด้วยแท็บเล็ตตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ในราคาเข้าถึงสบายขึ้นกับ HUAWEI MatePad SE รับชมความบันเทิงไม่มีสะดุดผ่านหน้าจอ 2K HUAWEI FullView Display พร้อมฟีเจอร์ถนอมสายตาและโหมดการใช้งานสำหรับเด็ก จัดเต็มโสตสัมผัสกับลำโพงสเตอริโอรอบด้าน HUAWEI Histen 8.0 และรองรับการเชื่อมต่ออีโคซิสเต็มหัวเว่ยผ่าน SuperDevice
HUAWEI Mate 50 Series ครั้งแรกของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยยกระดับการถ่ายภาพแบบโปรด้วย F1.4 Ultra-Large Aperture
HUAWEI Mate 50 Series แสดงถึงความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนานวัตกรรมการถ่ายภาพด้วยการลงทุนด้านการวิจัยพัฒนาและการสั่งสมเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง หัวเว่ยได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่อย่าง “XMAGE” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Huawei Mobile Photography ที่จัดตั้งขึ้นจากการรวบรวมผลงานมากกว่า 3.3 ล้านตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมที่ถ่ายโดยโทรศัพท์มือถือหัวเว่ยจากการประกวด NEXT IMAGE เพื่อนำมาศึกษาพัฒนาสร้างเอกลักษณ์สไลต์โทนใหม่สีสำหรับแบรนด์ XMAGE ซึ่งทำงานร่วมกับระบบกล้อง Ultra Large Aperture ที่ได้รับการพัฒนาใน 4 ส่วนสำคัญหลักๆ ได้แก่ ระบบรูรับแสงออปติคัล, โครงสร้างทางกลไก, เทคโนโลยีการภาพ และการประมวลผลภาพ ทำให้ HUAWEI Mate 50 Series เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของหัวเว่ยที่มาพร้อมเลนส์รูรับแสงทางกายภาพขนาดใหญ่ F1.4 ที่สามารถปรับได้ 10 ระดับ โดยทำงานร่วมกับ XD Fusion Pro เพื่อกำหนดความสว่างของภาพ รายละเอียดแสงและเงา และการเปรียบเทียบความเย็นและอบอุ่นเพื่อสร้างมุมมองที่ถูกต้องแบบกล้อง SLR
HUAWEI Mate 50 Pro มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้อง 50MP Ultra Aperture รับแสงมากขึ้น 24%[1] กล้อง Periscope ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์แบบ RYYB ที่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS รองรับการซูมภาพระยะรวมถึง 200 เท่า[2] ทำให้สามารถถ่ายภาพของยอดภูเขาได้อย่างสบาย ๆ และกล้องแบบ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่รองรับการถ่ายภาพระยะใกล้ในตัว พร้อมเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อช่วยถ่ายภาพโดยเฉพาะ รวมทั้งแบตเตอรี่ความจุสูง 4700mAh[3] ภายในตัวเครื่องที่บางเฉียบรองรับชาร์จไวแบบมีสาย 66W HUAWEI SuperCharge และชาร์จไวไร้สาย 50W[4] ผู้ใช้สามารถชาร์จได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วแม้ในสถานการณ์เร่งด่วน ด้าน HUAWEI Mate 50 มาพร้อมกับระบบกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ประกอบไปด้วย กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, กล้อง Periscope Zoom ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับการซูมภาพระยะรวม 100 เท่า และกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์แบบ RYYB เช่นกัน รวมถึงระบบ Laser Focus ที่ช่วยให้โฟกัสภาพได้อย่างแม่นยำครบเครื่องด้วยแบตเตอรี่ 4460 mAh รองรับระบบชาร์จไว HUAWEI SuperCharge ทั้งสายและไร้สาย
เพิ่มความสนุกในการครีเอดคอนเทนต์กับโหมดวีดีโอใหม่
HUAWEI Mate 50 Series เพิ่มความสนุกในการครีเอดคอนเทนต์กับโหมดวีดีโอใหม่มาพร้อม Large Aperture Video Blur ยกระดับการเบลอผ่านการถ่ายวิดีโอโดยสามารถสามารถปรับค่า F ได้แบบ real-time และเลนส์ Super Macro ระยะโฟกัส 2.5 เซนติเมตร ซัพพอร์ตทั้งฟังก์ชั่น Super Macro Video บันทึกวิดีโอสวยงามอันสวยงาม สามารถเก็บรายละเอียดที่มองไม่เห็นด้วยความแม่นยําได้อย่างน่าทึ่ง ขณะที่ Wide-angle Macro Video จะบันทึกวิดีโอมาโครมุมกว้าง สะท้อนมุมมองของรายละเอียดระยะใกล้ได้อย่างดี
ดีไซน์การออกแบบที่สมมาตร ผสานความหรูหรามรดกคลาสสิกด้วยลวดลายพีระมิด Clous de Paris
HUAWEI Mate Series แต่ละรุ่นได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการออกแบบที่แข็งแกร่งของหัวเว่ย เราได้สานต่อการออกแบบที่สมมาตรแบบคลาสสิกในครั้งนี้ด้วยลวดลาย Clous de Paris มีลักษณะเหมือนพีระมิดฐานสี่เหลี่ยมปลายแหลม เรียงต่อเนื่องเป็น pattern ซึ่งนับเป็นสถาปัตยกรรมยุคกลางของยุโรปมีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส มักถูกนํามาใช้ในครื่องประดับหรูหราระดับไฮเอนด์ ทีมออกแบบของ HUAWEI Mate 50 Series นำลวดลาย Clous de Paris มาดีไซน์ตกแต่งในตำแหน่งวงแหวนโมดูลกล้องผสมผสานการออกแบบ Space Ring Design เข้ากับการออกแบบที่สมมาตรสร้างความหรูหราและสวยงามอย่างลงตัว วัสดุด้านหลังของ HUAWEI Mate 50 Series ผลิตจากกระจกคุณภาพสูงมีทั้งความแฃ็งแรงทนทานและให้สัมผัสที่พรีเมียม มาพร้อม 2 สี ได้แก่ Sliver และ Black
มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล ปลดล็อกความสามารถใหม่กับระบบปฏิบัติการ EMUI 13 พร้อมฟีเจอร์ SuperHub สำหรับเก็บข้อมูลหลายไฟล์และแชร์ข้ามอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ HUAWEI Mate 50 Series ยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ทำงานบนระบบปฏิบัติการ EMUI 13 ซึ่งเพิ่มความคล่องตัวในการใช้สมาร์ทโฟนได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ไฮไลท์อย่าง SuperHub ที่สามารถถ่ายโอนไฟล์โดยผู้ใช้สามารถกดข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และไฟล์ใดๆ ค้างไว้ แล้วลากไปที่หน้าต่างลอยของ SuperHub เพื่อเก็บไฟล์ไว้ชั่วคราว จากนั้นผู้ใช้สามารถสลับไปยังแอปพลิเคชันอื่น เลือกไฟล์ภายใน SuperHub เพื่อการ Copy และ Paste ได้อย่างสะดวก ด้วยความสามารถในการถ่ายโอนแบบกลุ่ม ผู้ใช้ยังสามารถใช้ SuperHub สำหรับการถ่ายโอนหลายไฟล์ระหว่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และพีซีได้อีกด้วย ทั้งนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆอีกมากมายที่จะช่วยให้การใช้งานสมาร์ทโฟนลื่นไหลขึ้น อาทิ Stack Widgets เป็นการรวม Widget ต่างๆ ไว้ในหน้าต่างเดียวกัน SuperStorage ลบไฟล์ที่ซ้ำกันเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 20 GB[5] (บนโทรศัพท์ที่มี ROM 256 GB) Image Privacy Protection ที่จะลบข้อมูลที่ละเอียดอ่อนโดยอัตโนมัติ เช่น ตำแหน่งและเวลา รวมถึง Privacy and Security Center ระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
HUAWEI Mate 50 Pro มาในราคา 43,990 บาท และ HUAWEI Mate 50 ราคา 36,990 บาท พร้อมโปรโมชันพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2565 สำหรับผู้ที่สั่งจองช่วงพรีออเดอร์รับฟรี HUAWEI Sound Joy มูลค่า 4,999 บาท พร้อมด้วยการใช้งานแอปพลิเคชันฟรี HUAWEI Mobile Cloud Storage 200 GB 6 เดือน HUAWEI Music Premium 3 เดือน HUAWEI Video VIP 1 เดือน และ HUAWEI Video Movie Pass 2 เดือน มูลค่ารวม 1,180 บาท รีบต่อคิวเป็นเจ้าของก่อนใครได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI และศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
HUAWEI nova Y61 ครบเครื่องในราคาสบายกระเป๋ากับสเปคโดนใจ 3 กล้อง 50MP แบตอึด 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge
อีกตัวเลือกของสมาร์ทโฟนราคาสบายกระเป๋าที่มาพร้อมกล้อง AI 3 ตัว ประกอบด้วย กล้งหลักความละเอียด 50MP ช่วยให้คุณถ่ายภาพความละเอียดสูงพร้อมรายละเอียดที่คมชัดและความสว่างที่เหมาะสม เลนส์หน้าชัดหลังเบลอความละเอียด 2MP เพื่อสร้างเลเยอร์ของการจับภาพละลายพื้นหลังโบเก้ได้แบเนียนตา ปิดท้ายท้ายกล้องมาโคร 4 ซม. ช่วยให้จับภาพโลกขนาดจิ๋วได้อย่างที่เหนือความคาดหมาย HUAWEI nova Y61 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานหนักได้อย่างราบรื่นรวมทั้งรองรับชาร์จไว 22.5W HUAWEI SuperCharge นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอขนาด 6.52 นิ้ว ตัวเครื่องบางเฉียบจับถนัดมือเหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน สามารถปลดล็อกด้วยปุ่มเปิด/ปิดที่ใช้ลายนิ้วมือได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ดีไซน์สีใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากจักรวาลและโลกแห่งธรรมชาติได้แก่ Midnight Black ได้รับแรงบันดาลใจมาจากท้องฟ้ายามค่ำคืน สี Sapphire Blue ชวนให้นึกถึงอัญมณีล้ำค่าที่ และ Mint Green เป็นสีเขียวพาสเทลอ่อนๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากสีสันของธรรมชาติ HUAWEI nova Y61 วางจำหน่ายในราคา 6,299 บาท พร้อมโปรโมชันสุดคุ้มเมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ถึง 7 มกราคม 2566 รับฟรี HUAWEI Thermos cup มูลค่า 590 บาท ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI และศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
สมาร์ทไลฟ์ไปกับ HUAWEI MatePad Pro 12.6 จอใหญ่คมชัดแบบ OLED สนุกไปกับการสร้างสรรค์ชิ้นงานผ่านปลายปากกา M-Pencil
หัวเว่ยเปิดตัวแท็บเล็ตเรือธงรุ่นล่าสุดมอบความคมชัดทุกรายละเอียดกับที่สุดแห่งนวัตกรรมจากหัวเว่ยด้วยหน้าจอ HUAWEI Real Color FullView Display แบบ OLED ขนาด 12.6 นิ้ว ด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 16:10 ขอบจอบางเพียง 5.6 มม[6] อัตราส่วนขนาดหน้าจอต่อตัวเครื่องสูงถึง 90%[7] ลื่นไหลด้วยอัตราการรีเฟรชหน้าจอสูงถึง 120Hz สีสันสมจริงของบนจอภาพตามมาตรฐาน DCI-P3 100% เทียบเท่ากับระบบสีที่ใช้ในวงการภาพยนตร์ และความครอบคลุมของช่วงสีเพิ่มขึ้น 25% และมีค่าความแม่นยำของสี △E <1[8] ซึ่งทำให้สีสันที่มองเห็นสัมพันธ์กับแหล่งกำเนิดแสงที่แท้จริง พร้อมอัตราส่วน Ultra-high contrast มากถึง 1,000,000:1 หน้าจอภาพความลึกสี 10-bit สามารถแสดงสีได้ 1.07 พันล้านสี อัปเกรดประสบการณ์ใช้งานรอบด้านทั้ง Widget เพื่อการจัดหมวดหมู่หน้าจอที่เป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น App Multiplier เพื่อประสบการณ์เสมือนการทำงานบนพีซี โดยสามารถเปิดแอปพลิเคชันเดียวกันได้แบบ 2 หน้าต่าง Multi-Window ที่สามารถเก็บหน้าต่างลอยได้สูงสุดถึง 10 หน้าต่างได้ง่ายยิ่งขึ้น และเมื่อต้องการใช้พร้อมกัน 2 หน้าจอ ก็สามารถปัดแอปฯ ไปด้านข้างแล้วเลือกแอปฯ อื่นจากหน้าโฮมได้เลย รวมถึงสามารถเปิด 4 แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน เติมจินตการให้ชัดเจนผ่านปลายปากกา HUAWEI M-Pencil 2nd generation อำนวยความสะดวกในการจดบันทึก วาด ร่างภาพ มอบประสบการณ์การใช้งานอย่างเป็นธรรมชาติเช่นเดียวกับปากกาและสมุดโน้ต เพิ่มความอัจฉริยะใช้งานสะดวกเสมือนพีซีด้วย HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เชื่อมต่อทำงานข้ามอุปกรณ์ได้รวดเร็วแบบไร้สายผ่าน HUAWEI Super Device บันเทิงเต็มรูปแบบทั้งเรื่องถ่ายภาพ ระบบตัดเสียงรบกวน AI Noise Cancellation (ANC) และระบบเสียง HUAWEI SOUND เสียงดีฟังเพลงเพลินด้วยลำโพงถึง 8 ตัว
HUAWEI MatePad Pro 12.6 วางจำหน่ายในราคา 32,990 บาท เมื่อพรีออเดอร์สินค้าระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2565 รับฟรี! HUAWEI Smart Magnetic Keyboard มูลค่า 6,590 บาท HUAWEI M-pencil 2nd generation มูลค่า 4,490 HUAWEI Bluetooth Mouse มูลค่า 1,490 บาท และ HUAWEI FreeLace มูลค่า 2,490 ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI และศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
ประสบการณ์ความบันเทิงไม่มีสะดุดผ่านหน้าจอ 2K FullView Display พร้อมลำโพงสเตอริโอรอบด้าน สร้างสรรค์ให้สุดผ่าน HUAWEI MatePad SE
HUAWEI MatePad SE แท็บเล็ตอเนกประสงค์ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในครอบครัวรับชมภาพเต็มตาด้วยหน้าจอ HAUWEI FullView Display ขนาด 10.4 นิ้ว ทำให้ภาพถ่ายและวิดีโอแสดงผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น สีสันสมจริงด้วยความละเอียดสูง 2K ความหนาแน่นของพิกเซล 225 ppi รองรับการปรับความสว่างอัตโนมัติ 4096 ระดับ ผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ถึง 2 มาตราฐาน ได้แก่ TÜV Rheinland Low Blue Light certification และ TÜV Rheinland Flicker Free certification โดยช่วยแสงสีฟ้าซึ่งเป็นอันตรายต่อด้วยตาและลดอาการกะพริบของภาพเพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง โหมดป้องกันการใช้งานสำหรับเด็กกับ Kids Corner ที่มาพร้อม interface ที่เหมาะกับการใช้งานของเด็ก พร้อมติดตั้งแอปพลิเคชันสำหรับเด็กมาไว้ให้เรียบร้อยในตัวเครื่อง อาทิ Posture alerts จะคอยช่วยดูแลและส่งสัญญาณเตือนเด็กๆ เมื่อใช้แท็บเล็ตในท่าทางและสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น การนอน หรือ การดูจอใกล้เกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพองค์รวมและสายตาเด็ก Bumpy road alerts ที่ช่วยเตือนเด็ก ขณะใช้งานแท็บเล็ตตอนนั่งรถหรือเคลื่อนไหว เช่น การเดิน ซึ่งมักจะมีการสั่นมากกว่าปกติ อาจเกิดอันตรายระหว่างใช้งานและทำให้สายตาเหนื่อยล้าและเสียได้ หรือโหมด eBook อ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมบนแท็บเล็ตได้อย่างเป็นมิตรต่อสุขภาพดวงตา เปลี่ยนภาพสีเป็นภาพขาวตำถนอมสายตา ซึ่งทำการปรับแสง ความสว่าง คอนทราสต์หน้าจอ อุณหภูมิสีให้ตามความเหมาะสมอย่างอัตโนมัติ ให้ความรู้สึกเหมือนอ่านหนังสือบนกระดาษจริง HUAWEI MatePad SE มาพร้อมกับลำโพง 2 ตัว โดยวางตำแหน่งซ้ายและขวาแบบสมมาตร เพื่อกระจายเสียงได้รอบทิศทางและสมดุลระบบเสียง Huawei Histen 8.0 ที่อัปเกรดทั้งหมด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอฟเฟกต์เสียงที่เป็นกรรมสิทธิ์พัฒนาโดยศูนย์วิจัยของหัวเว่ย โดยการปรับเสียงอย่างละเอียดตามช่วงความถี่และปรับระดับเสียงให้เข้ากับสถารณ์การต่างๆ ซึ่งช่วยให้ได้เอฟเฟกต์เสียงสมจริง ดีไซน์เรียบง่ายแบบมินิมอลลิสม์นํ้าหนักเบาพกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเพียง 440 กรัม และบางเพียง 7.85 มม. มีความโค้งมนทำให้ตัวเครื่องดูบางลงและกระชับมือมากขึ้นทนต่อการงอและหน้าจอแตกด้วยการออกแบบโครงสร้างที่ยอดเยี่ยมจากวัสดุที่คุณภาพแข็งขึ้น 44%[9] และเพิ่มความทนทานต่อการตก 12%[10]
HUAWEI MatePad SE วางจำหน่าย 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่น LTE (4+128GB) ราคา 9,990 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2565 ถึง 7 มกราคม 2566 รับฟรี! เคส HUAWEI MatePad SE 4 Folio Cover มูลค่า 990 บาท ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI และศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
- รุ่น WIFI (4+128GB) ราคา 7,990 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2565 ถึง 7 มกราคม 2566 รับฟรี! กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท ที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์อย่าง HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และแอปพลิเคชัน My HUAWEI และศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
- รุ่น WIFI (4+64GB) ราคา 6,990 บาท (จากปกติ 7,990 บาท) วางจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์ที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee และ Lazada รับฟรี! กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท เมื่อสั่งจองล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2565 ถึง 12 ธันวาคม 2565 และศึกษาข้อมูลโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่นี่
ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน HUAWEI AppGallery
[1] เมื่อเทียบกับ HUAWEI Mate 40 Pro ข้อมูลอ้างอิงจากผลการทดสอบของ Huawei Lab
[2] ช่วงซูมคืออัตราส่วนการซูมสูงสุดหารด้วยการขยายมุมกว้างพิเศษ ทางยาวโฟกัสของ HUAWEI Mate 50 Pro คือ 24 มม. (กล้องที่มีรูรับแสงกว้างพิเศษ), 13 มม. (กล้องมุมกว้างพิเศษ) และ 90 มม. (กล้องเทเลโฟโต้)
[3] ค่าปกติ ความจุสูงสุดของแบตเตอรี่คือ 4600 mAh
[4] 66 W คือกำลังการชาร์จสูงสุด และสามารถเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อใช้ที่ชาร์จและสาย HUAWEI SuperCharge เฉพาะ 66 W เท่านั้น 50 W คือพลังงานการชาร์จแบบไร้สายสูงสุด และสามารถเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อใช้แท่นชาร์จไร้สาย HUAWEI SuperCharge (สูงสุด 50 W) ซึ่งเป็นการซื้อแยกต่างหาก ประสิทธิภาพการชาร์จจริงอาจแตกต่างกันไป
[5] ข้อมูลมาจาก Huawei Labs
[6] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของ Huawei ความหนาจริงอาจแตกต่างกันไปตามข้อกำหนด กระบวนการผลิต และวิธีการวัด
[7] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของ Huawei อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องคำนวณโดยการหารพื้นที่หน้าจอทั้งหมดด้วยพื้นที่ของร่างกายทั้งหมด อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องจริงอาจแตกต่างกันไป
[8] Delta E คือ หน่วยชี้วัดมาตรฐานค่าความต่างหรือผิดเพื้ยนของสี (จากสายตาคนเรา) โดยอ้างอิงความถูกต้องของสีจาก CIELAB หรือ L*a*b. Delta E จะถูกใช้เพื่อรับรองว่าการแสดงผลของสีที่แสดงผลออกมาจะใกล้เคียงกับการรับสีด้วยตาของมนุษย์ และยังเป็นค่าความแตกต่างระหว่างจุดสีสองจุดที่กำหนดไว้ในปริภูมิสี CIELAB
[9] เมื่อทียบกับ HUAWEI MatePad T10s
[10] เมื่อทียบกับ HUAWEI MatePad T10s
