หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป (ประเทศไทย) จัดกิจกรรมทริปทัวร์กรุงเทพฯ สุดพิเศษ “เปิดประสบการณ์ 5G ไปกับ HUAWEI nova 7 และ nova 7 SE” ชวนสัมผัสประสบการณ์การใช้งานเทคโนโลยี 5G แบบ on the go ผ่านศูนย์กลางธุรกิจและจุดท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงเทพฯ พร้อมทดสอบฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายบนสองสุดยอดสมาร์ทโฟน 5G ทั้ง nova 7 SE สมาร์ทโฟน 5G ที่ขายดีที่สุดในเวลานี้ และ nova 7 สมาร์ทโฟน 5G สุดคุ้ม สเปคแรง ที่เชื่อมต่อการทำงานแบบหลายมิติบนเครือข่าย 5G พร้อมยกระดับการถ่ายวิดีโอแบบเดิมๆ ด้วยโหมด DUAL-View สัมผัสคุณภาพกล้องอันเหนือชั้นด้วยเลนส์กว้าง และเลนส์มาโคร ตอบโจทย์การถ่ายภาพได้ครบในทุกระยะและทุกสถานการณ์ พร้อมร่วมใช้งาน “1+8+N” กลยุทธ์อีโคซิสเต็มอันสมบูรณ์แบบของหัวเว่ยผ่าน 5G
ฉีกทุกกฎของการถ่ายวิดีโอด้วยการถ่ายวิดีโอแบบ DUAL-View
เริ่มต้นกิจกรรมด้วยการลองใช้โหมดการถ่ายวิดีโอ DUAL-View ด้วยสมาร์ทโฟน HUAWEI nova 7 และ nova 7 SE เก็บภาพบรรยากาศโดยรอบ HUAWEI Experience Store กับความพิเศษของโหมด DUAL-View คือสามารถบันทึกวิดีโอพร้อมกันได้ด้วยสองเลนส์ผ่านการแบ่งหน้าจอ ไม่ว่าจะถ่ายกล้องหน้าพร้อมกล้องหลัง หรือกล้องเลนส์กว้างพิเศษพร้อมเลนส์หลัก ให้ภาพและวิดีโอคมชัดในทุกรายละเอียด เพื่อให้ผู้ใช้งานได้บันทึกโลกที่พวกเขามองเห็นด้วยคุณภาพที่สมจริงและหลากหลายมิติที่สุด
เก็บทุกโมเมนต์ความประทับใจด้วยภาพภ่ายจากมุมกว้างและภาพระยะใกล้
ตามมาด้วยการใช้กล้องเลนส์กว้างพิเศษ ทดสอบการเก็บภาพคนพร้อมสถาปัตยกรรมสวยๆ เสมือนเวลาเราไปท่องเที่ยวจริง ในบริเวณวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ ด้วยเลนส์ความละเอียด 8MP เอื้อต่อการถ่ายภาพได้กว้างถึง 120 องศา ไม่ว่าสถานที่จะแคบแค่ไหนก็สามารถเก็บภาพให้หมดโดยการใช้เลนส์ธรรมดาได้ พร้อมเพิ่มมุมมองใหม่ๆ ในการถ่ายภาพด้วยกล้องกล้องเลนส์มาโคร 2MP ช่วยสร้างความลึกของภาพ ถ่ายภาพระยะใกล้และจับโฟกัสของคน หรือสิ่งของที่ถ่ายได้ชัดเจน ทำให้สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของภาพได้เป็นอย่างดี
เชื่อมต่อทุกดีไวซ์ รองรับการทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ด้วยอีโคซิสเต็ม 1+8+N ของหัวเว่ย
ปิดท้ายกิจกรรมด้วยการสัมผัสประสบการณ์การใช้งานอีโคซิสเต็มของหัวเว่ย ภายใต้กลยุทธ์ 1+8+N ผ่าน 5G กับการใช้ฟีเจอร์ MEETime วิดีโอคอลคุณภาพสูงที่ให้ภาพและเสียงระดับ Full HD พร้อมตอกย้ำกลยุทธ์ 1+8+N ด้วยการอัพโหลดไฟล์จากสมาร์ทโฟน nova 7 และ nova 7 SE ไปยังสมาร์ทดีไวซ์ของหัวเว่ย ทั้ง MatePad Pro 5G และ MateBook X Pro ผ่าน HUAWEI Share ได้ง่ายๆ เพียงสัมผัสเดียว (One Tap) หัวเว่ยสร้างอีโคซิสเต็มที่เป็นมิตรอย่างกลยุทธ์ 1+8+N เพื่อบูรณาการการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างครบวงจร ผ่านการเชื่อมต่อ แชร์ข้อมูล และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละสมาร์ทดีไวซ์ให้ดียิ่งขึ้น โดยชูสมาร์ทโฟนให้เป็น 1 ศูนย์กลางที่เชื่อมต่อ 8 สมาร์ทดีไวซ์อื่นๆ สามารถโอนถ่ายข้อมูลระหว่างกันได้ ขณะที่ N นั้นจะหมายถึงอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ตอบโจทย์เทรนด์การใช้งานของผู้บริโภคปัจจุบันที่นิยมมีอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์และสมาร์ทแก็ดเจ็ตมากกว่า 1 ชิ้น
ทำไมต้องเป็น True 5G ของทรูมูฟ เอช
- ทรู คือผู้นำเครือข่าย 3G 4G ต่อเนื่อง 5G ด้วยการเป็นโอเปอเรเตอร์รายเดียวที่มีคลื่นครบและครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย ครบทั้ง 7 ย่านความถี่ โดยเฉพาะย่านความถี่ตํ่าที่หลากหลายมากที่สุดและมีแบนด์วิดท์มากที่สุด ทั้งคลื่น 700 MHz, 850 MHz และ 900 MHz ซึ่งมีมากกว่าและครบกว่าคู่แข่งทุกรายในประเทศ ทําให้เครือข่ายอัจฉริยะทรู รับและส่งสัญญาณได้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างที่สุด และมีสัญญาณที่ต่อเนื่องทะลุทะลวงพื้นที่ต่างๆ ได้ลึกที่สุดเช่นกัน ยังไม่นับรวมคลื่นความถี่กลาง 1800MHz, 2100 MHz, 2600 MHz และคลื่นความถี่สูง 26 GHz เรียกได้ว่าครบและครอบคลุมเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดจาก ทรู เครือข่ายอัจฉริยะโดยปัจจุบันมีการเปิดให้บริการเครือข่าย 5G 2600MHz แล้ว 77 จังหว้ด
- ทรูคือผู้นำดิจิทัลไลฟ์สไตล์ที่ที่ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้งานของลูกค้าทุกคน ตอบโจทย์ด้วยข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่ใช้เครื่อง 5G ได้ใช้ 5G ฟรีถึงสิ้นปี พร้อมด้วยคอนเทนต์และสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมายจาก True ID, True Point, TrueMoney Wallet ตอบสนองวิถีชีวิตของผู้คนยุคดิจิทัลบนเครือข่ายอัจฉริยะTrue 5G
- ทรูยังได้รับการรับรองคุณภาพเครือข่ายและการให้บริการจากสถาบันชั้นนำ การันตีจาก nPerf สถาบันทดสอบความเร็วและประสิทธิภาพเครื่อข่ายมาตรฐานโลก “ทรู เป็นเครือข่ายอัจฉริยะอันดับ 1 เร็วสุดแรงสุดทั่วไทยถึง 4 ปีซ้อน” (2016-2019) ได้รับรางวัลสุดยอดองค์กรคุณภาพ Thailand Quality Award 2019 และเป็นเครือข่ายอันดับ 1 ในเอเชีย-แปซิฟิก รับรองด้วยรางวัล ผู้ให้บริการยอดเยี่ยม จาก Asia-Pacific ICT Awards (2017-2019)
นอกจากนี้ ล่าสุด หัวเว่ยยังจัดกิจกรรมสุดพิเศษ #Try5G เชิญชวนผู้ที่สนใจอยากก้าวล้ำนำเทรนด์ 5G และสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน 5G อย่างใกล้ชิดก่อนใคร กับ nova 7 และ nova 7 SE เพียงมาร่วมกิจกรรมที่ HUAWEI Experience Store 2 สาขา ได้แก่ สาขา สยาม พารากอน และฟอร์จูน ทาวน์ มีสิทธิลุ้นรับ nova 7 SE สมาร์ทโฟน 5G ที่ขายดีที่สุดในตอนนี้ไปเลยฟรี! โดยกิจกรรมเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 9 สิงหาคมนี้ สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2DBcsUh
สองสุดยอดสมาร์ทโฟนสุดคุ้มรองรับ 5G เต็มรูปแบบจากตระกูล nova 7 ทั้ง HUAWEI nova 7 และ nova 7 SE ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา โดย HUAWEI nova 7 SE สมาร์ทโฟน 5G ที่ขายดีที่สุดในตอนนี้ มีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ราคาสุดคุ้มเพียง 11,990 บาท กับ 2 สีให้เลือก คือ Space Silver และ Crush Green ณ หัวเว่ย แบรนด์ชอป ทุกสาขา หรือร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และหัวเว่ย ออนไลน์ สโตร์ และสำหรับ HUAWEI nova 7 สมาร์ทโฟนสเปคแรงเอาใจคอเกม เล่นลื่น เฟรมไม่สะดุด มีให้เลือก 2 สี คือ Midsummer Purple และ Space Silver ราคา 16,990 บาท เตรียมวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ https://consumer.huawei.com/th/phones/ และดูข้อมูลเพิ่มเติม http://www.facebook.com/HuaweiMobileTH
ชมภาพถ่ายจากกล้อง Huawei nova 7 SE เพิ่มเติม
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์
HUAWEI nova 7 | HUAWEI nova 7 SE | |
ขนาด
(สูง x กว้าง x หนา) |
160.64 มม. x 74.33 มม. x 7.96 มม. | 162.31 มม x 75.0 มม x 8.58 มม |
น้ำหนัก | ประมาณ 180 กรัม (รวมแบตเตอรี่) | ประมาณ 189 กรัม (รวมแบตเตอรี่) |
สี | Midsummer Purple, Space Silver | Crush Green, Space Silver |
หน้าจอแสดงผล | 6.53 นิ้ว OLED PPI: 403
(ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080) ให้สีได้สูงถึง 16.7 ล้านสี |
6.5 นิ้ว LTPS PPI:405
(ความละเอียด FHD+ 2400×1080) ให้สีได้สูงถึง 16.7 ล้านสี |
โปรเซสเซอร์ | HUAWEI Kirin 985 5G
Octa-core (1x Cortex-A76 Based 2.58GHz + 3x Cortex-A76 Based 2.40GHz + 4x Cortex-A55 1.84GHz) |
HUAWEI Kirin 820 5G (ขนาด 7 นาโนเมตร)
Octa-Core (1*Cortex-A76 Based 2.36GHz + 3*Cortex-A76 Based 2.22GHz + 4*Cortex-A55 1.84GHz) |
กราฟิก | Mali-G77 8-core | Mali-G57 6-core GPU |
ระบบปฏิบัติการ | EMUI 10.1.1 (พัฒนาจาก Android 10) | EMUI 10.1.1 (พัฒนาจาก Android 10) |
หน่วยความจำและความจุข้อมูล | 8 GB RAM + 256 GB ROM
รองรับการ์ดความจำแบบ Nano Memory Card (ความจุสูงสุด 256 GB) |
8 GB RAM + 128 GB ROM
รองรับการ์ดความจำแบบ Nano Memory Card รองรับ exFAT และ FAT32 format (ความจุสูงสุด 256 GB) |
กล้อง | กล้องหลัง:
64 MP Hi-Res Lens (f/1.8, 0.8μm, 1/1.7-inch sensor, AF) 8 MP 120° Ultra Wide Angle Lens (f/2.4, FF) 8 MP Telephoto Lens (f/2.4, AF) ไฮบริดซูม 5 เท่า + ดิจิทัลซูมได้ 20 เท่า 2 MP Macro Lens (f/2.4, FF) ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 9216 x 6912 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 3840 x 2160
กล้องหน้า: 32MP Front Camera (F/2.0) พร้อม Super Night Selfie 3.0 ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 6528 x 4896 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 3840 x 2160 |
กล้องหลัง:
64 MP Hi-Res Lens (f/1.8) 8 MP Ultra-Wide Angle Lens (f/2.4) 2 MP Bokeh Lens (f/2.4) 2 MP Macro Lens (f/2.4) ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 9216 x 6912 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 3840 x 2160
กล้องหน้า: 16 MP Front Camera (F/2.0) พร้อม Super Night Selfie 2.0 ความละเอียดของภาพถ่ายสูงสุด 4608 x 3456 รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 2400 x 1080 |
ซิมการ์ด | รองรับ 2 ซิมแบบ Nano SIM | รองรับ 2 ซิมแบบ Nano SIM |
ระบบเซ็นเซอร์ | Proximity sensor, Ambient light sensor, Digital compass, Gravity sensor, Gyroscope, In screen fingerprint | Proximity sensor, Ambient light sensor, Digital compass, Gravity sensor, Gyroscope |
แบตเตอรี่ | ความจุ 4,000 mAh (Typical)
รองรับ HUAWEI SuperCharge กำลังไฟสูงสุด 40W ประเภทแบตเตอรี่ Lithium polymer แบบถอดออกไม่ได้ |
ความจุ 4,000 mAh (Typical)
รองรับ HUAWEI SuperCharge กำลังไฟสูงสุด 40W ประเภทแบตเตอรี่ Lithium polymer แบบถอดออกไม่ได้ |
ราคา | 16,990 บาท | 11,990 บาท |