Google ตอกย้ำแนวทาง AI First ของบริษัทอีกครั้งด้วยการเปิดฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Google Assistant (กูเกิล แอสซิสแทนต์) ที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์เข้าไปทุกทีจนถ้าไม่บอกก็ไม่รู้เลยว่านี่เป็นปัญญาประดิษฐ์และเสียงสังเคราะห์
Google Assistant 500m device at Google I/O 2018
ตัวเลขแรกที่ Google หยิบมาอวดก็คือจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Google Assistant ในปัจจุบันมีมากถึง 500 ล้านเครื่อง แม้จะมีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2016 ที่เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ในแอพ Allo คุยกับผู้ที่ใช้มือถือ Pixel เท่านั้นก็ตาม ปัจจุบันอยู่ในอุปกรณ์นับไม่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ ลำโพง มือถือ แทบเล็ต นาฬิกา และอื่นๆ อีกมาก
ปัจจุบันมีอุปกรณ์ราวๆ 5,000 อย่างที่สามารถใช้งานร่วมกับ กูเกิล แอสซิสแทนต์ ได้ด้วยการสั่งงานด้วยเสียง (จริงๆ ยังเทียบกับ Amazon ไม่ได้ เพราะรายนั้นมากถึง 16,000 อย่าง) โดย
สำหรับปีนี้ของเล่นใหม่ที่จะมีเลขาดิจิตอล กูเกิล แอสซิสแทนต์ ก็คือหน้าจออัจฉริยะนั่นเอง โดยทาง Google ก็บอกว่าพันธมิตรมีเพียบ แต่ที่จะได้เห็นขายทั่วโลกน่าจะเป็น JBL, Lenovo และ LG นั่นเอง
ทั้งสามยี่ห้อที่ว่ามาจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฏาคมปีนี้ โดยบนเวทีโชว์การใช้รุ่น Lenovo กับการสั่งงานให้เปิดทีวีจาก YouTube TV และหาสูตรอาหาร
ระบบปฏิบัติการของหน้าจออัจฉริยะนี้จะเป็น Android Things ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการตัวเต็มเหมือนบนมือถือแต่ประการใด ทาง Google สัญญาว่าจะได้รับอัพเดทต่อเนื่องสามปี และมันจะไม่ช้าหลังจากอัพเดทไปนานๆ แน่นอน
นอกจากนี้ยังประกาศว่า กูเกิล แอสซิสแทนต์ จะมีเสียงสังเคราะห์ใหม่ 6 หกเสียงด้วยกัน โดยเป็ฯผลงานจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ WaveNet ของ DeepMind ช่วยประมวลผล ทำให้เสียงออกมาใกล้เคียงการพูดของมนุษย์จริงๆ จนแทบแยกไม่ออก (ปัจจุบันมีเพียงสองเสียงเท่านั้น เป็นชายกับหญิงอย่างละเสียง)
นอกจากหกเสียงใหม่แล้ว ยังมีเสียงพิเศษจากนักร้องเพลงชื่อดังอย่าง John Legend ด้วย โดยมีกำหนดจะเปิดให้ใช้งานปีนี้ (ช่วงเวลาที่เปิดให้ใช้งานยังไม่ระบุ)
ตัว กูเกิล แอสซิสแทนต์ นอกจากอัพเดทที่เรากล่าวมาข้างต้นแล้วยังมีการปรับแต่งหน้าตาในการใช้งานให้มากขึ้นบนมือถือ ทำให้การค้นหา การทำตามคำสั่งด้วยเสียงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัวอย่างเช่นอย่างในภาพเป็นการสั่งให้ปรับอุณหภูมิ นอกจากจะปรับไปที่ต้องการแล้วยังมีหน้าจอให้ผู้ใช้งานเลือกขยับได้ตามใจชอบ (ในกรณีที่ระบบอัตโนมัติไม่เป็นที่น่าพอใจ) หรือสั่งกาแฟสตาบั๊กให้โดยไม่ต้องกดจากแอพเลย โดยทาง Google ระบุว่าตอนนี้มีพันธมิตรที่ร่วมพัฒนาการสั่งด้วยเสียงซื้อของไม่มากนัก (Doordash, Domino Pizza, 7-Eleven, Dunkin Donut และอื่นๆ) โดยจะมีเพิ่มขึ้นในอนาคตตามมาอีก โดยจะปล่อยอัพเดทนี้ให้กับแอนดรอยด์ช่วงหน้าร้อน ส่วน iOS ยังไม่มีกำหนดออกชัดเจน ระบุแค่ว่าในปีนี้ สำหรับอัพเดทนี้อาจจะไม่มีผลกับคนไทยมากนัก
สำหรับพ่อแม่ที่กังวลว่าลูกๆ จะใช้งาน Google Assistant แล้วติดนิสัยชอบสั่งคนอื่น และไม่มีมารยาท เพราะสั่งอะไรก็ได้ตามที่ต้องการนั้นสบายใจได้ เพราะทาง Google เล็งเห็นถึงปัญหานี้เช่นกัน โดยฟีเจอร์ใหม่ชื่อว่า “Pretty Please” จะบังคับให้เด็กๆ ต้องพูดคำว่า Please ในประโยค เพื่อขอให้ Google Assistant ทำงานให้ ถ้าไม่พูดก็จะไม่ทำงาน แถมเตือนว่าวิธีพูดกับผู้ใหญ่พูดแบบนี้เหรอด้วย อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้จะต้องเปิดใช้งาน Family Link ก่อนถึงจะใช้ได้ มีกำหนดเปิดให้ใช้งานปีนี้
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ทำให้ กูเกิล แอสซิสแทนต์ ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้นก็คือเราไม่ต้องพูดคำว่า Okay Google ทุกครั้งเพื่อคุยกับผู้ช่วยส่วนตัว กูเกิล แอสซิสแทนต์ แล้ว พูดแค่ครั้งแรก และต่อประโยคสนทนากันได้เหมือนมนุษย์ทั่วๆ ไปทันที ฟีเจอร์นี้มีกำหนดเปิดให้ใช้งานเร็วหน่อย คือราวๆ สัปดาห์หน้า (คู่แข่งที่นำหน้าไปแล้วคือ Alexa ที่เรียกฟีเจอร์นี้ว่า Follow-up Mode)
อีกหนึ่งแอพที่รองรับ กูเกิล แอสซิสแทนต์ ในปีนี้ก็คือ Google Maps ทำให้การนำทางไม่จำเป็นต้องกดด้วยมืออีกต่อไป แค่กดปุ่มรูปลำโพง ก็สามารถสั่งการผ่านเสียงนำทางได้ทันที ความแตกต่างจากกูเกิล แอสซิสแทนต์ทั่วๆ ไปก็คือมันจะมีพื้นที่ให้กับ Assistant เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นหน้าจอสำหรับแผนที่นำทาง จะเปิดให้ใช้งานบนมือถือ Android หน้าร้อนนี้ ส่วน iOS มีกำหนดเปิดให้ใช้ในปี 2018 เช่นเดิม
ฟังมาทั้งหมดนี้ก็คงรู้สึกว่าผู้ช่วยส่วนตัวนี้เป็นเลขาดิจิตอลที่ฉลาดดี แต่ก็ยังเป็นได้แค่โปรแกรมๆ หนึ่งใช่ไหม? ทาง Sundar Pichai ก็เลยออกไม้เด็ดในตอนจบว่าเสียงเหมือนมนุษย์ ระบบอัจฉริยะจะไปได้ขนาดไหน เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นเราลองให้ กูเกิล แอสซิสแทนต์ ทำการจองคิวร้านต่างๆ ดีกว่า
เราสามารถบอกให้ กูเกิล แอสซิสแทนต์ จองคิวร้านอาหาร ร้านทำผมได้ โดยบอกไปว่าอยากได้ช่วงไหน ตัวปัญญาประดิษฐ์จะทำหน้าที่โทรไปยังร้าน และสอบถามรายละเอียดเพื่อทำการจองให้จริงๆ
แน่นอนว่าเอามาโชว์ขนาดนี้แล้ว ร้านทำผม และร้านอาหารที่เจอ กูเกิล แอสซิสแทนต์ ไม่รู้เลยว่าที่โทรมาคือปัญญาประดิษฐ์ และสามารถนัดหมายได้สำเร็จตามที่เจ้าของมือถือสั่งการเอาไว้ โดยมีการเว้นวรรคประโยค หรือการพูดว่าอืมมมม เพื่อทิ้งประโยค ทำให้เหมือนมนุษย์จนพนักงานแยกไม่ออก
อย่างไรก็ตามนี่มันเป็นเพียงที่อัดมา แปลว่าอาจจะเลือกมาเฉพาะที่ประสบความสำเร็จอย่างมากก็เป็นได้ คงต้องรอดูต่อไปว่า Google จะปรับแต่งให้ดีกว่านี้และเปิดให้ใช้งานได้เมื่อไหร่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเปิดให้ใช้งาน แต่บอกเลยว่ารอบนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เมื่อเลขาดิจิตอลจะทำหน้าที่เลขาให้เราได้จริงๆ
ที่มา – Android Police (1), (2), (3), (4), (5), (6), (7), (8)