Bloomberg รายงานว่า Apple เตรียมเปลี่ยนกระบวนการพัฒนาระบบปฏิบัติการ iPadOS และ iOS ในปีหน้า หลังจาก iOS 13 ขึ้นแท่นระบบปฏิบัติการที่มีบั๊กเยอะที่สุด ยิ่งแพทช์แก้บั๊กก็ยิ่งมีมากขึ้น
หลังจากนี้ใน Daily Build หรือเวอร์ชันที่ปล่อยอัพเดทกันภายในของ Apple เองจะปิดฟีเจอร์ใหม่ที่พัฒนาอยู่โดยดีฟอลต์ โดนทีมที่ทำหน้าที่ทดสอบสามารถสั่งเปิด ปิด เพื่อทดสอบเองได้ ซึ่งวิธีนี้ควรจะทำให้ทีมตรวจสอบบอกได้ว่าฟีเจอร์ได้ก่อให้เกิดปัญหาในการใช้งาน และสกัดได้ก่อนจะถึงกระบวนการปล่อยอัพเดทตัวจริงให้คนทั่วไป
iOS 13 ระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดจาก Apple เปิดให้ดาวน์โหลดไปติดตั้งมาราวๆ สองเดือนกว่า จนถึงตอนนี้มีการอัพเดททั้งอัพเดทใหญ่ และอัพเดทย่อยทั้งหมดแปดครั้งด้วยกัน โดยกระบวนการพัฒนาถูกเร่งให้เสร็จทันกำหนด ทำให้มีบั๊กจำนวนมากอยู่ อย่าง iOS 13 เองก็มีบั๊กร้ายแรงจำนวนหนึ่ง ทำให้ Apple ต้องรีบเข็น iOS 13.1 ออกมาห้าวันให้หลัง (แม้ว่าเดิมจะมีกำหนดออกสิ้นเดือนก็ตาม) และใน iOS 13.2 ที่ออกมาภายหลังก็มีปัญหาเรื่องการแบ่งหน่วยความจำที่ไม่ดีนัก โดยแอพที่รันเบื้องหลังถูกระบบปฏิบัติการสั่งปิดจนแทบจะเรียกว่ามือถือทำงาน Multitasking ไม่ได้เลย และกว่าจะแก้ไขก็ลากยาวไปจนถึง iOS 13.2.2 ทีเดียว
ทาง Bloomberg รายงานว่ากระบวนการพัฒนาซอฟท์แวร์ใหม่นี้ไม่ได้จำกัดแค่ iOS และ iPadOS เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง watchOS, tvOS และ macOS อีกด้วย โดยปัจจุบันคู่แข่งอย่าง Microsoft และ Google ต่างก็ใช้วิธีนี้เพื่อพัฒนาระบบปฏบัติการทั้งสิ้น
ที่มา – Engadget