Oculus Go ประกาศวางจำหน่ายได้ไม่ถึงสัปดาห์ Lenovo ก็เข็นหมวกสวมหัวสแตนด์อโลนของตัวเองมาขายบ้าง โดยหมวกดังกล่าวมีชื่อว่า Lenovo Mirage Solo
Lenovo Mirage Solo
เปิดตัวมาตั้งแต่งาน CES 2018 เมื่อเดือนมกราคม เป็นหมวก VR ประเภทสแตนด์อโลน คือสามารถเล่น VR ได้โดยไม่ต้องมีมือถือ หรือคอมพิวเตอร์เสียบประมวลผล เพียงแค่สวมใส่บนหัว พร้อมถือรีโมทคอนโทรลแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
ความแตกต่างก็คือ Oculus Go นั้นใช้แพลตฟอร์มของ Oculus เอง ขณะที่ Lenovo Mirgae Solo นั้นใช้ Daydream VR ซึ่งรองรับแอพกันไปคนละฝั่ง สำหรับฝั่ง Daydream อาจจะยังมีแอพอยู่น้อยกว่า แต่มีแอพบิ๊กเนมอย่าง YouTube, Google Play Movie & TV, Google Maps และแอพสาย Google อื่นๆ อีกมาก
ถ้าพูดกันถึงสเปคอย่างเดียว Mirage Solo นั้นกินขาด
- ใช้ Snapdragon 835, RAM 4GB
- พื้นที่ในตัว 64GB (รองรับ MicroSD)
- แบตเตอรี 4,000 mAh
แตกต่างจาก Oculus Go ที่ใช้เพียง Snapdragon 821 เท่านั้น ส่วนจอนั้นมีความละเอียดเท่ากัน คือ 2560 x 1440 พิกเซล
แต่ด้วยสเปคที่ต่างกันนี้ราคาก็ต่างกันด้วย Oculus Go นั้นขายเพียง $199 (ประมาณ 6,400 บาท) เท่านั้น ขณะที่ Mirage Solo นั้นขายแพงถึง $399 ดอลลาร์ (ประมาณ 12,700 บาท) ด้วยกัน ซึ่งราคาค่อนข้างต่างกันเป็นเท่าตัว
เรื่องสุดท้ายก็คืออุปกรณ์อีกชิ้นที่เปิดตัวมาขายพร้อมกันคือ Lenovo Mirage Camera กล้องถ่าย VR 180 องศา สามารถถ่ายภาพและวิดิโอมุมกว้าง 180 องศาได้ และสามารถนำไปใช้งานกับ Mirage Solo ทันที เฉพาะตัวกล้องนี้ราคาอยู่ที่ $299 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,600 บาท) แต่ถ้าซื้อพร้อมกับ Mirage Solo จะลดลง $50 เหลือเพียง $649 (ประมาณ 20,700 บาท) เท่านั้น
ก็ถือว่ายังแพงอยู่ดี แถมแอพบนแพลตฟอร์ม Google Daydream ก็ยังน้อยซะด้วย งวดนี้ Oculus Go น่าจะชนะใจผู้บริโภคไม่ยากเลย
ที่มา – Android Authority