วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559 – LINE Corporation แถลงกลยุทธทางธุรกิจในงาน “LINE Conference Tokyo 2016” ณ Maihama Amphitheater เมืองชิบะ ฉลองครบรอบ 5 ปี (นับตั้งแต่เปิดตัววันที่ 23 มิถุนายน 2554) พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ขององค์กร ที่ครอบคลุมถึงการสรรค์สร้างบริการใหม่ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้ เพื่อน และสังคมให้ใกล้กันยิ่งขึ้น
LINE ประกาศเดินหน้าตามแนวทางขององค์กร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Closing the distance” ซึ่งไม่เพียงให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลข่าวสาร ใช้บริการและผลิตภัณฑ์อันหลากหลายได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย
และเพื่อให้ภารกิจสำเร็จไปได้ LINE ตั้งเป้าเป็น ‘Smart Portal’ ที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงผู้ใช้ด้วยกัน ตลอดจนข้อมูลช่าวสาร บริการ บริษัท และแบรนด์สินค้าต่างๆ ตามที่ต้องการ ได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะแบบออนไลน์หรือออฟไลน์
LINE วางแผนเปลี่ยนจากแอพพลิเคชั่นส่งข้อความทางมือถืออันดับหนึ่งของโลก สู่การเป็นสมาร์ทพอร์ทัล (Smart Portal) อันดับหนึ่งของโลก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงถึงกันโดยไม่พลาดข้อมูลข่าวสาร บริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ผ่าน LINE
LINE ตั้งเป้าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้สะดวกสบาย มีความสุข สนุก เสมือนเป็นครอบครัวและเพื่อนสนิท ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้บริการของ LINE ตั้งแต่ลืมตาตื่นไปจนถึงเข้านอนของทุกๆ วัน
ด้วยภารกิจและวิสัยทัศน์ดังกล่าว ในการแถลงกลยุทธทางธุรกิจครั้งนี้ LINE Corporation ได้แบ่งการแถลงออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ
- การเปิดแพลตฟอร์มทางธุรกิจและขยายช่องทางในส่วนแพลตฟอร์มการโฆษณาให้เหมาะสมกับเวลา ตรงกับความต้องการของผู้ใช้และองค์กรธุรกิจ
- เปิดตัวระบบการชำระเงินแบบออนไลน์และออฟไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนและระบบการสะสมคะแนน
- เปิดให้บริการการสื่อสารผ่านสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้แต่ละราย
บริการหลักของ LINE นับจากอดีตถึงปัจจุบัน
แอพพลิเคชั่น LINE
นับจากวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554 แอพพลิเคชั่น LINE ได้เติบโตสู่บริการระดับโลกและมีผู้ใช้กว่า 1 พันล้านราย และมียอดผู้ใช้ประจำต่อเดือน (MAU) ถึง 215 ล้านราย (นับถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558) ซึ่ง LINE ได้ประกาศถึงความสำเร็จและยอดผู้ใช้งานล่าสุดไปแล้วก่อนหน้านี้
ธุรกิจสติกเกอร์
LINE มีสติกเกอร์ให้เลือกใช้ถึง 258,000 ชุด (นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559) โดยมียอดการรับส่งสติกเกอร์สูงสุดในหนึ่งวันถึง 2.4 พันล้านครั้ง ยอดขายสติกเกอร์ทั้งหมดในปี พ.ศ. 2558 ทะลุ 25.3 พันล้านเยน ซึ่งตอกย้ำถึงการเป็นผู้บุกเบิกสื่อสารด้วยสติกเกอร์ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งจำนวนของผู้ใช้และยอดขาย
นอกจากนี้ จากจำนวนผู้ออกแบบสติกเกอร์ยอดนิยมทั้ง 10 รายใน LINE ครีเอเตอร์มาร์เก็ต แพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้ออกแบบและขายสติกเกอร์นั้น แต่ละรายมียอดขายเฉลี่ยสูงถึง 233 ล้านเยน ตัวละครต่างๆ ที่โด่งดังจากสติกเกอร์ยังก้าวไปสู่การเป็นสินค้าหลากหลายชนิดตลอดจนภาพยนตร์แอนิเมชั่น นับเป็นการก้าวไกลไปเหนือกว่าการเป็นแค่ตัวการ์ตูนบนมือถือ
ในการเพิ่มศักยภาพของกระแสความนิยมดังกล่าว LINE ประกาศการเปิดตัว ป๊อบ-อัพ สติกเกอร์ แบบใหม่ที่ครอบคลุมทั้งหน้าจอแชท โดยจะให้ใช้งานได้ตั้งแต่ไตรมาสสามของปี พ.ศ.2559
ธุรกิจเกม
ยอดดาวน์โหลดเกมทุกรายการจาก LINE Games พุ่งสูงถึง 640 ล้าน (นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559) ซึ่งเกมพัซเซิ่ลที่ง่ายต่อการเล่นอย่าง LINE: Disney Tsum Tsum มียอดผู้เล่นต่อเดือนถึง 13 ล้านราย (นับถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559) บ่งชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของ LINE ในฐานะผู้ให้บริการเกมระดับโลก
นอกจากนี้ LINE ยังเพิ่มกลุ่มเป้าหมายให้ตรงใจคอเกม โดยเพิ่มเกมที่มีระดับความยากมากขึ้น (mid-core) โดยทางบริษัทกำลังมีโปรเจคร่วมกับพันธมิตร อาทิ Translimit Inc., Smilegate Megaport, Sundaytoz, Inc., และ Green Monster ซึ่งเป็นบริษัทร่วมค้ากับ CyberAgent, Inc.
เกมใหม่ที่จะเปิดตัวในปี พ.ศ. 2559 ที่ได้ประกาศในวันนี้ได้แก่ Tsuioku no Ao เกมต่อสู้ RPG แบบมีเนื้อเรื่องเสมือนจริง, LINE Rush เกมวิ่งที่ใช้ตัวละครของ LINE และ LINE Gran Grid เกม RPG แบบเรียวไทม์ สามารถเล่นทั้งแบบทีมและ 1-1
ธุรกิจ LINE Character
ปัจจุบัน LINE มี LINE FRIENDS STORE ถึง 44 แห่ง ใน 11 ประเทศทั่วโลกรวมร้าน pop-up store สินค้าต่างๆ จะเป็นตัวละครของ LINE หรือ LINE Character ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากในประเทศจีน โดยมีร้านค้าหลักของ LINE หนึ่งแห่ง และร้าน pop-up store ถึง 6 แห่ง ทั้งนี้ LINE เตรียมเปิดร้านแห่งใหม่ในปักกิ่ง กวางเจา และเฉินตูในปี พ.ศ. 2559
LINE ยังเผยว่า LINE Character ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแอมบาสเดอร์ของ “Universal RE-BOOOOOOOORN!” ในวาระการเฉลิมฉลองครบ 15 ปีของสวนสนุก Universal Studios Japan ในเมืองโอซาก้า
ธุรกิจเพลง: LINE MUSIC
นับจากเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 LINE MUSIC บริการเพลงแบบออนดีมานด์ โดยมีอัตราค่าบริการคงที่ มีเพลงให้บริการถึง 15 ล้านเพลงและยอดดาวน์โหลดกว่า 10 ล้านครั้ง จำนวนผู้ใช้จริงต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า (นับถึงเดือนกุมภาพันธ์) หลังจากเพิ่มฟังก์ชัน Background Music ในแอพพลิเคชั่น LINE ซึ่งโชว์อยู่ตรงโปรไฟล์ ทำให้ยอดผู้ใช้ดังกล่าวพุ่งขึ้นหลังจากการเชื่อมแอพพลิเคชั่น LINE และ LINE MUSIC เข้าด้วยกัน
LINE ยังแถลงถึงการรวมสองบริการของ LINE เข้าด้วยกันเป็นหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ เพื่อให้ใช้เพลงจาก LINE MUSIC เป็นริงโทนเวลามีผู้โทรเข้าผ่าน LINE (ใช้งานได้ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559 ในประเทศญี่ปุ่น)
ธุรกิจไลฟ์คอนเทนต์: LINE LIVE
LINE LIVE แพลตฟอร์มให้บริการสตรีมมิ่งคอนเทนต์ โดยอาศัยฐานผู้ใช้ LINE บนสมาร์ทโฟนที่มีอยู่จำนวนมาก อัตราการใช้งานที่สูง พร้อมระบบการแจ้งเตือนข้อความบนหน้าจอ ส่งผลให้ LINE LIVE มียอดผู้เข้าชมเกิน 100 ล้าน (ยอดสูงถึง 198 ล้าน) ภายในสามเดือนนับแต่เริ่มให้บริการในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558 บริการนี้ได้รับความนิยมจากผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม
แม้ว่าปัจจุบันจะเป็นฟีเจอร์สำหรับแอคเคาท์ของเซเลบริตี้ แต่ในอนาคตลูกค้าบุคคลทั่วไปก็สามารถใช้บริการนี้ได้เช่นกัน พร้อมกันนั้น ผู้ใช้สามารถส่งของขวัญ (virtual gifting) ได้ด้วยในปี พ.ศ. 2559 นี้
กลยุทธด้านแพลตฟอร์ม
LINE เตรียมผลักดัน เปิดระบบเชื่อมต่อแพลตฟอร์มทางธุรกิจ ซึ่งเป็นกลยุทธสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ใช้ บริษัท และบริการให้สามารถเข้าถึงใกล้ชิดกันมากขึ้นผ่าน LINE เพื่อให้การพัฒนาบริการใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น กลยุทธนี้ส่งให้ ในอนาคต ผู้ใช้สามารถใช้บริการของ LINE ร่วมกับของบริษัทอื่นได้อย่างสะดวกรวดเร็วและเพลิดเพลินยิ่งกว่า
ฟีเจอร์ใหม่ใน LINE แอคเคาท์
นอกจากสู่การเปิดเชื่อมระบบแพลตฟอร์มธุรกิจแบบเต็มรูปแบบ LINE ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ 3 ฟีเจอร์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่บัญชีผู้ใช้ LINE ปัจจุบันได้แก่ Reward Cards, Coupon Book และ Commerce
นอกจากนี้ยังมีการเปิดระบบเชื่อมต่อแพลตฟอร์มธุรกิจอีก 3 อย่างด้วยกันคือ
1. สำหรับเว็บเซอร์วิส LINE มีแพลตฟอร์มสำหรับบริการของ LINE อันได้แก่ LINE NEWS, LINE LIVE และ LINE Part Time Job ซึ่ง LINE ปรับปรุงและเสริมความแข็งแกร่งเพื่อรองรับการใช้งานจากผู้ให้บริการผ่านเว็บเซอร์วิส หรือที่เรียกว่า Official Web Apps
บริการ Official Web App ประกอบด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ช่วยให้บริษัทพันธมิตรเชื่อมโยงเว็บเซอร์วิสของตนเข้ากับแอคเคาท์ผู้ใช้ LINE ซึ่งถือเป็นวิธีการเพิ่มลูกค้าใหม่ ให้ลูกค้าเดิมกลับมาใช้งานอีกครั้ง และเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำให้ใช้งานแบบง่ายมากยิ่งขึ้นผ่านทาง LINE
ในส่วนของผู้ใช้ก็จะได้รับความสะดวกและเพลิดเพลินกับบริการอันหลากหลายของแอพพลิเคชั่น LINE โดยไม่ต้องติดตั้งแอพพลิเคชั่นอื่นหรือไม่ต้องลงทะเบียนบริการอื่นเพิ่ม
LINE ได้นำเสนอบริการ Office Web App แก่องค์กรต่างๆ ในหลากหลายภาคธุรกิจ ซึ่งได้รับความสนใจจากบริษัทต่างๆ มากกว่า 40 แห่ง ที่ต้องการจะใช้บริการ Official Web Apps บริการนี้คาดว่าสามารถดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี พ.ศ. 2559 นี้
2. ฟีเจอร์เพิ่มเติมสำหรับกลุ่ม SME LINE เตรียมใช้งาน SME Partnership Program ผ่านแอคเคาท์ LINE@ ที่สามารถใช้งานร่วมกับฟีเจอร์ด้านการสื่อสารที่สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการขององค์กรธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง เช่น ร้านอาหารและร้านค้าปลีก คาดว่าในไตรมาสที่สาม องค์กรธุรกิจจำนวน 14 แห่ง ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้านต่างๆ จะเข้าร่วมกับ LINE ได้แก่ Tabelog จากธุรกิจภัตตาคาร Hot Pepper Beauty จากธุรกิจเสริมความงามและดูแลเส้นผม Demae-Can จากธุรกิจจัดส่งอาหาร HOME’S จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ Goo-net จากธุรกิจรถมือสอง โปรแกรมนี้ช่วยให้ SME จำนวนมากเพิ่มการติดต่อสื่อสารกับผู้ใช้ LINE ได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น
เดือนเมษายน พ.ศ. 2559 แพลตฟอร์มนี้จะเริ่มเปิดให้ใช้งานในประเทศญี่ปุ่น โดยเปิดให้บริษัทพันธมิตรภายนอกสามารถพัฒนาเชื่อมต่อฟีเจอร์เพิ่มเติมในแอคเคาท์ LINE ซึ่งมีแนวทางเดียวกับ Reward Cards, Coupon Book และ Commerce
3. สำหรับนักพัฒนา หรือ Developers LINE เตรียมเปิด API เพื่อเพิ่มความสามารถของการสื่อสารแบบเรียลไทม์ระหว่างองค์กรธุรกิจและลูกค้า ทั้งนี้ ในเดือนเมษายนนี้ BOT API แบบทดลอง ให้ผู้สนใจจำนวน 10,000 รายที่ติดต่อมาก่อนทดลองใช้ฟรี ร่วมกับ LINE Beacon เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจกับลูกค้าในบริเวณใกล้เคียงเข้าด้วยกัน โดย LINE ยังวางแผนที่จะพัฒนา Chat AI Plug-in เชื่อมต่อกับผู้พัฒนารายอื่น คัดสรรเครื่องมือที่ตอบสนองความต้องการขององค์กรธุรกิจ โดยสามารถรู้ทุกคำถามที่ลูกค้าส่งผ่านข้อความเข้ามา
เปิดระบบเชื่อมต่อและขยายแพลตฟอร์ม LINE เข้าสู่การเผยแพร่โฆษณา
นอกจากการเปิดระบบเชื่อมต่อ API แล้ว LINE ยังขยายแพลตฟอร์มเป็นมากกว่าการส่งข้อความแบบ one-way (ซึ่งเหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่) สู่การส่งข้อความ หรือโฆษณาที่เข้าถึงบุคคลได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่าและเหมาะสมกับธุรกิจทุกขนาด
ด้วยความร่วมมือกับบริษัทในเครือ M.T.Burn Inc ทาง LINE Corporation จะเริ่มปล่อยโฆษณาผ่าน LINE Timeline ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559 นี้ นอกจากนี้ LINE จะเพิ่มพื้นที่โฆษณาในส่วนของแท็บ More, LINE NEWS และ LINE Games อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในปีนี้ LINE เตรียมเปิดตัวโปรแกรม “Creators’ Stickers for Business” เพื่อให้องค์กรธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางสามารถซื้อลิขสิทธิ์เพื่อเผยแพร่สติกเกอร์เพื่อเป็นของสมมนาคุณ แก่ผู้ที่ซื้อสนค้าและบริการ หรือเป็นสิ่งจูงใจให้เกิดการซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม LINE Creators Market
บริการชำระค่าสินค้าและบริการแบบใหม่
ขยายจากการโอนเงินทางมือถือและบริการชำระเงินของ LINE Pay สู่การฝากและชำระเงินกับพันธมิตรล่าสุด นอกเหนือไปจากธนาคารหลักห้าแห่งแล้ว LINE Pay กำลังขยายความร่วมมือไปสู่ธนาคารอื่นๆ ทั่วประเทศรวมถึงธนาคารออนไลน์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเติมเงินในบัตรโดยไม่มีค่าธรรมเนียม สำหรับฟีเจอร์การฝากเงินอัตโนมัติและการผูกบัญชีฝากเพียงหนึ่งบัญชีต้องทำผ่าน Japan Net Bank, Limited เท่านั้น ซึ่ง LINE Pay กำลังเพิ่มความสามารถเพื่อรองรับการชำระเงินแก่องค์กรพันธมิตรทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์
เปิดตัว LINE Pay Card
LINE Pay Corporation จับมือ JCB Co., Ltd., เปิดตัว LINE Pay Card บัตรเติมเงินที่เชื่อมกับบัญชี LINE Pay สามารถใช้ได้กับร้านค้าที่ร่วมรายการของ JCB กว่า 30 ล้านแห่งในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ผู้ใช้ LINE ทุกคนสามารถสมัครบัตรนี้จากหน้าบริการ LINE Pay ได้ทันที โดยไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ ค่าธรรมเนียมแรกเข้าหรือค่าธรรมเนียมรายปีใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์คืนในรูปแบบของ LINE Points 2% จากยอดการใช้จ่ายผ่าน LINE Pay Card (ได้รับ 2 คะแนนจากยอดการใช้จ่ายทุก 100 เยน)
“LINE Points” ระบบสะสมคะแนนสำหรับบริการ LINE
LINE Points คือ ระบบสะสมคะแนนสำหรับใช้บนแพลตฟอร์ม LINE ซึ่ง 1 คะแนนเท่ากับ 1 เยน และทุกๆ 1000 คะแนนขึ้นไป สามารถแลกเป็นเงินในบัญชี LINE Pay ได้ โดยในอนาคต LINE Points จะเพิ่มช่องทางในการสะสมและใช้คะแนนให้หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ระบบ LINE Free Coins ที่มีอยู่เดิม จะถูกนำมาใช้งานร่วมกับ LINE Points ตั้งแต่วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2559 เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสะสม LINE Points จากแอพพลิเคชั่น LINE
LINE เตรียมเปิดตัว “LINE Mobile” MVNO ไตรมาส 3 ปีนี้
LINE แถลงถึงความตั้งใจที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับโทรศัพท์มือถือ ในลักษณะแบบ mobile virtual network operator หรือ MVNO ที่เชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างบุคคลและบุคคลกับคอนเทนต์เข้าด้วยกัน
ผู้ใช้ LINE Mobile สามารถมั่นใจในคุณภาพและราคาย่อมเยาว์ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อย่างแท้จริง ซึ่งการให้บริการนี้ มีพันธมิตรรายใหญ่อย่าง Facebook และ Twitter มาเป็นฟีเจอร์หลักให้ใช้โดยไม่จำกัด นอกเหนือไปจากการใช้ LINE บน MVNO อีกด้วย
(ภาพ Feature จาก naplesherald.com)