นักวิเคราะห์จาก IDC ประเมินว่ายอดขายของ Mac ปีนี้ลดลงราวๆ 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้จะมีตัวชูโรงอย่าง MacBook Pro และ Mac Mini รุ่นใหม่ที่ใช้ชิปรุ่นล่าสุดอย่าง Apple M2 ก็ตาม
หลายๆ คนคงจำกันได้ว่าระหว่างช่วง COVID-19 แพร่ระบาดทุกคนต้องทำงานอยู่ที่บ้าน หรือเรียนจากที่บ้าน ทำให้ยอดขายของพีซีทุกยี่ห้อเติบโตอย่างมาก และในตอนนี้ที่วัคซีนแพร่หลายและฉีดกันแทบทุกคน ก็ทำให้ทุกคนสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันแบบเดิมได้ ผลก็คืออุปกรณ์สำหรับการใช้ชีวิตจากที่บ้าน เช่นคอมพิวเตอร์มียอดขายลดลงอย่างมาก โดย Mac ของ Apple นั้นไตรมาสแรกที่ผ่านมายอดขายลดลง 40% ถือว่าสาหัสกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ที่เฉลี่ยลดลงเพียง 29% เท่านั้น
ทาง IDC ประเมินว่าไตรมาสแรกของปีนี้ Apple ขายคอมพิวเตอร์ไปทั้งสิ้น 4.1 ล้านเครื่อง ส่วนเจ้าตลาดยังคงเป็น Lenovo ที่สามารถขายได้ทั้งสิ้น 12.7 ล้านเครื่อง แต่ถึงตัวเลขจะดูเยอะมหาศาล แต่ยอดขายก็ลดลงมาจากปีที่แล้วถึง 30% นับว่าสาหัสไม่แพ้กัน
อีกสาเหตุหนึ่งนักวิเคราะห์ประเมินว่าปีที่แล้ว M1 ยังประสบความสำเร็จมากทำให้ยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ M2 ที่เปิดตัวปลายปีที่ผ่านมาไม่ได้แตกต่างจากรุ่นแรกมากนัก ทำให้ยอดขายไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนปีที่ผ่านมา
สำหรับการยืนยันข่าวนี้อย่างเป็นทางการต้องรอ Apple เผยผลประกอบการประจำไตรมาส ซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ คงต้องติดตามกันว่าหลังจากนี้ Apple จะเอายังไงกับแพลตฟอร์มพีซีที่ทุกแบรนด์ต่างประสบปัญหาขายไม่ออกกัน
ที่มา – 9to5Mac