ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Apple จะเปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ในงาน WWDC เดือนมิถุนายนนี้ โดยรุ่นดังกล่าวจะยังคงขนาดหน้าจอ 13 นิ้วเอาไว้ แต่เป็นหน้าจอ Retina Display แทน โดยจะมีราคาถูกกว่ารุ่น 12 นิ้วพอสมควร และมีพอร์ตเยอะกว่าโน้ตบุคสมัยใหม่
แต่เดิมนั้นคาดว่า MacBook Air รุ่นใหม่จะมีราคาเริ่มต้นที่ $899 ดอลลาร์สหรัฐ และเปิดตัวในงาน WWDC แต่แหล่งข่าวใหม่ระบุว่า Apple เปลี่ยนแผน และเลื่อนกำหนดวางจำหน่ายออกไป เนื่องจากจะเริ่มผลิตไตรมาสที่ 3 ปีนี้แทน
ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไม Apple ถึงเลื่อนกำหนดผลิตออกไปเป็นไตรมาสที่ 3 นักวิเคราะห์คาดว่าเป็นเพราะรอ Intel เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ประจำปีนี้เสียก่อน ซึ่งตอนนี้ซัพพลายเออร์ประสบปัญหาวัตถุดิบล้นคลัง (เพราะ Apple ชอบสั่งทีละมากๆ เพื่อลดต้นทุน)
งานนี้ไม่รู้เหมือนกันว่า Apple จะโชว์ให้เราเห็นคร่าวๆ ในงาน WWDC แต่วางจำหน่ายหลังจากนั้นหลายเดือนหรือไม่ เหมือนกับที่ปีที่แล้วโชว์ iMac Pro และให้รอหลายเดือนที่เดียวกว่าจะวางจำหน่าย
สำหรับงาน WWDC นั้นจริงๆ แล้วเป็นงานที่มุ่งเน้นด้านซอฟท์แวร์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น iOS 12, macOS 10.14, watchOS 5 และ tvOS 12 จะเป็นตัวชูโรงประจำงาน แต่ระยะหลัง Apple ก็เริ่มเอาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องมาเนียนเปิดตัวในงานด้วยเช่นกัน และที่สำคัญคือเมื่อต้นปีมีบันทึกภายในที่ Craig Federighi กล่าวว่าปีนี้จะเน้นด้านความปลอดภัย และความสเถียรของระบบปฏิบัติการ มากกว่าจะไปมุ่งเน้นด้านฟีเจอร์ดังนั้นถ้าหากมีฟีเจอร์ไหนไม่พร้อมจะเปิดตัวก็เลื่อนกำหนดออกเป็นปีหน้า (iOS 13) ได้ ทำให้คาดว่าปีนี้อาจจะไม่มีอะไรใหม่ๆ ในแง่ของซอฟท์แวร์ให้ว้าวมากเท่ากับปีก่อนๆ นั่นเอง
ที่มา – 9to5Mac
